เครื่องเคียงข้างจอ / วัชระ แวววุฒินันท์ /โควิดยังขวิดอยู่

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

โควิดยังขวิดอยู่

เบรกสถิติตัวเลขที่ไม่มีคนติดเชื้อในประเทศของไทยไว้ที่ 101 วัน

ซึ่งหลายคนบ่นเสียดาย เหมือนลุ้นให้ตัวเลขปลอดคนติดเชื้อในประเทศไต่อันดับสูงไปเรื่อยๆ จนอาจจะสร้างสถิติใหม่ของโลกให้ได้

แต่เลข 101 ก็สวยพอที่ไทยจะยืดอกอวดได้ว่า เมืองไทยเอาโควิดอยู่ในระดับท็อปของโลก เพราะเป็นที่รู้กันว่า โควิดระลอก 2 นั้นมาแน่ ตามสถิติที่เกิดขึ้นกับหลายประเทศมาแล้ว แม้แต่กับประเทศที่เคยควบคุมโรคได้ดีเหมือนเช่นไทย ก็เกิดอาการ “โป๊ะแตก” มาแล้ว

และสาเหตุแห่งการหยุดสถิติที่ว่านั้นก็คือ เกิดมีนักโทษต้องคดียาเสพติดตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด-19 เท่านั้นแหละเหมือนระเบิดลงกลางวงหมูกระทะ

พอเกิดเหตุก็มีอันไล่ไทม์ไลน์ของ “ดีเจโควิด” (ตามฉายาที่สื่อมวลชนบางแห่งเรียก) คนนี้ พบว่าไปมาหลายที่มาก ตั้งแต่การใช้ชีวิตปกติ การไปทำงานที่ผับบาร์ การถูกจับคดียาเสพติดที่ต้องมีจับกุม การไปศาล รวมแล้วมีคนที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องมีความเสี่ยงหลายร้อยคน

ซึ่งทางการได้ทำการตรวจเชื้อผู้มีความเสี่ยงหลายร้อยคนนี้กันจ้าละหวั่น แม้จะพอดีใจได้บ้างว่าที่ตรวจไปแล้วยังไม่เจอว่าใครเป็นบวก

แต่ก็ยังแน่นอนใจไม่ได้ เหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว

และแน่นอนที่จะยังคงปวดหัวอยู่ว่า แล้ว “ดีเจโควิด” ไปติดมาจากไหน เพราะถ้ายังหาไม่เจอ ก็อาจเป็นได้ว่าเจ้าของเชื้อก็สามารถจะไปแพร่สู่คนอื่นได้อีก

เอาละสิพี่น้อง

สำหรับสังคมของเรายามนี้ ที่เห็นๆ การใช้ชีวิตช่วงหลังๆ ที่การ์ดเริ่มตกกันไม่น้อย ใส่หน้ากากบ้าง ไม่ใส่บ้าง หรือใส่แล้วห้อยไว้ใต้จมูกใต้คาง ไอ้ที่ขยันล้างมือจนมือเปื่อยก็ชักจะนานๆ ล้างที ระยะห่างน่ะเหรอ ไม่สนใจแล้ว แถมใกล้ชิดเบียดเสียดกันเหมือนเดิม

จนเป็นที่น่ากลัวว่า อาจจะมีการระบาดระลอก 2 ขึ้นมาไม่ช้านี้จริงๆ ก็ได้ และคราวนี้ละจะคุมยาก และต้องกลับไปนับ 1 กันใหม่

ฉะนั้น โควิดยังคงสำแดงฤทธิ์อยู่ ไม่ได้หดหายไปไหนเลย

 

ยิ่งตัวเลขของต่างชาติที่ไม่ถดถอยต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็ยิ่งต้องตระหนักว่า “การ์ดจ๋าอย่าตก”

แม้ทั่วโลกจะยังต้องรบกับโควิด-19 ไปอีกนาน แต่หลายๆ กิจกรรมสังคมก็เริ่มลุกขึ้นมาทำกันหนาตาขึ้น

เช่น อีเวนต์กีฬาขนาดบิ๊ก คือเทนนิสยูเอสโอเพ่น ที่เปิดฉากมาได้สิบกว่าวันแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศของโควิดในสหรัฐอเมริกาที่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ผลก็คือ เป็นการแข่งกีฬาเทนนิสระดับแกรนด์สแลมที่จืดชืดสิ้นดี

นับแต่นักตีระดับท็อปๆ หลายคนพากันถอนตัว ไม่ว่าจะเป็น โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล, นิชิโคริ ที่ถอนไปก่อนเพราะติดโควิด หรือแอชลีย์ บาร์ตี้ นักเทนนิสหญิงมือหนึ่งโลก

แม้นักหวดที่ลงแข่งจะมีชื่อชั้นอยู่บ้าง แต่ก็ลดความสนุกไปเยอะ แถมบรรยากาศของสนามแข่งขันก็เหมือนสนามซ้อมมาก มีแค่สตาฟฟ์โค้ช กรรมการ และเจ้าหน้าที่เท่านั้น แม้จะมีจอเพื่อถ่ายทอดภาพผู้ชมผ่านทางระบบซูมให้พอมีสีสันบ้าง ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก

โควิดได้ขวิดแกรนด์สแลมไปแล้วอย่างราบคาบ

ส่วนในสัปดาห์นี้คือ เสาร์ที่ 12-อาทิตย์ที่ 13 กันยายน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษจะเปิดฤดูกาลกันแล้ว หลังปล่อยให้ลีกอื่นในยุโรปเปิดนำหน้าไปก่อน แต่ก็ยังต้องคุมเข้มเรื่องโควิดกันอยู่เช่นเดิม ทั้งการลดการสัมผัสตัวที่ไม่จำเป็น และการจำกัดจำนวนผู้ชม

ซึ่งแน่นอนว่าความสนุกคึกคักที่เคยมีก็จะลดทอนไปมาก เหมือนในการแข่งขันฟุตบอลช่วงท้ายๆ ฤดูกาลที่แล้ว

รวมทั้งฟุตบอลไทยลีก 1 ของไทยก็เปิดให้แข่งขันต่อในช่วงสัปดาห์เดียวกัน ซึ่งก็มีกฎระเบียบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดให้เป็นแนวทางปฏิบัติหลายข้อ ทั้งการตรวจเชื้อนักเตะและเจ้าหน้าที่ของทีม การจำกัดจำนวนผู้ชม การสกรีนผู้เกี่ยวข้องที่จะเข้าสนาม และข้อปฏิบัติหากมีการติดเชื้อขึ้นมา

ยังไม่รู้ว่าผลของการกลับมาแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ครั้งนี้ ภาพโดยรวมจะออกมาอย่างไร แต่คงจะไม่เหมือนเดิมแน่นอน

 

นอกจากต้องจับตาดูว่าการแข่งขันกีฬาในประเทศที่กำลังทยอยกลับมาแข่งขันกันหลายชนิดกีฬาแล้ว ยังต้องจับตาดู “กลุ่มแรงงานต่างด้าว” ที่ลักลอบเข้าเมืองไทยยามนี้ เพราะนั่นอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดระลอกสองเร็วขึ้น

ถ้าเป็นการเข้ามาตามด่านก็ยังพอจะตรวจตราควบคุมได้ แต่ที่แอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาตินี่สิ สุดท้ายธรรมชาติจะลงโทษเอาด้วยการแพร่โควิด

ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้ ในส่วนใกล้ชิดกับผมเอง คือสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้จัดงานประกาศรางวัล “นาฏราช ครั้งที่ 11” ขึ้น โดยเป็นการจัดงานแบบ New Normal ที่ยังต้องระวังต่อการแพร่ระบาดของโควิดอยู่

จึงไม่ได้เป็นการจัดงานแบบเดิมที่รวมคนในวงการมาในงานอย่างคับคั่ง มีการเดินพรมแดง มีแฟนคลับมาเชียร์กันแน่น มีกองทัพสื่อมวลชนมาทำข่าว

แต่มีการจำกัดจำนวนผู้ร่วมงาน ผู้ที่เข้าชิงรางวัลในรอบสุดท้ายจึงไม่สามารถมาร่วมได้ในทุกรางวัล จึงมีเพียงนักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และผู้กำกับการแสดงเท่านั้นที่มีพื้นที่ในการร่วมงาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่างานจะไม่มีอะไรเลย เพราะยังมีการแสดงโชว์จากนักร้องต่างๆ ถึง 6 ชุดด้วยกัน และมีพิธีกรดำเนินรายการถึง 5 คู่

งานนี้ถ่ายทอดสดทางช่อง 33 HD วันเสาร์ที่ 12 กันยายน เวลา 16.00-18.00 น. ใครที่สนใจชมเปิดดูเปิดเชียร์กันได้นะครับ

และเพื่อเน้นย้ำถึงสถานการณ์โควิด ในรายการจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับโควิดให้ได้เตือนใจกันด้วย

 

ตอนนี้หลายอย่างไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง ซ้ำดูวุ่นวายสับสนไปหมด โดยเฉพาะการเมืองที่มีเรื่องร้อนๆ มาให้ประชาชนเครียดอยู่บ่อยๆ รวมทั้งความเพี้ยนๆ ของสังคมที่ตอกย้ำถึงการขาดคุณธรรมในทุกระดับชั้น งั้นคงไม่เกิดกรณี “ขบวนการช่วยนายบอส” เหมือนอย่างที่ท่านวิชา มหาคุณ ได้ว่าไว้

หรือกรณีคนฆ่ากันง่ายๆ เพราะอีกฝ่ายตัดผมให้ไม่ดี

แต่ก็อย่าลืมตัว หรือชะล่าใจ กับเจ้า “โควิด-19” ซะล่ะ

เพราะอย่างที่บอกว่ามันยัง “ไล่ขวิด” คนทั้งโลกอยู่อย่างเมามัน