กลับมาอีกแล้วครับ สำหรับละครเวทีในชุด “สุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล” ที่สร้างสรรค์โดยมูลนิธิสุนทราภรณ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด

ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ 6 แล้ว ในชื่อเรื่องว่า “ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล” ซึ่งห่างจากครั้งที่ 5 ถึง 2 ปีครึ่ง

ปกติจะจัดการแสดงต่อเนื่องกันทุกปีในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ แต่เมื่อเว้นว่างไปเช่นนี้ ก็ถูกแฟนๆ รุมถามและทวงมาว่า ตกลงจะมีอีกไหม ซึ่งก็มาทั้งจากแฟนเพลงสุนทราภรณ์เอง และแฟนละครเวทีสุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล

หากใครไม่เคยชม ก็ขอให้ข้อมูลสักนิดว่าละครเพลงชุดสุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัลนั้น ก็คือการนำเอาบทเพลงอันเป็นอมตะของวงสุนทราภรณ์ มาใช้ในการเล่าเรื่องราวในละครด้วยอารมณ์สนุกสนาน ประทับใจ

ชื่อเรื่องนั้นก็มาจากบทเพลงดังๆ ของสุนทราภรณ์นั่นเอง ตั้งแต่ “กว่าจะรักกันได้” ในปีที่ 1 และไล่มาตามลำดับคือ “หนึ่งในดวงใจ” “เธอเท่านั้น” “เพลงรักของเธอ” “ขอให้เหมือนเดิม” และล่าสุด “ขอพบในฝัน”

สําหรับแฟนเพลงสุนทราภรณ์ คงรู้กันดีถึงความไพเราะของเพลง “ขอพบในฝัน”นี้ ที่มาจากการแต่งทำนองของครูเอื้อ สุนทรสนาน คำร้องโดย ครูแก้ว อัจฉริยะกุล และขับร้องโดยครูเอื้อเองอีกด้วย

พูดถึงความรู้สึกอยากจับจองผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเจ้าของ ซึ่งในโลกความจริงทำไม่ได้ ก็ไปจับจ้องจับต้องกันในฝันนั่นเอง หากใครไล่เรียงดูเนื้อแบบพินิจพิเคราะห์ จะเห็นว่าเพลงนี้ “โป๊มาก”

“…เพียงเห็นกันไม่ชื่นเชย นิจจาโอ้อกเอ๋ยมิเคยสัมผัสกัน

แต่ในฝัน สองเรานั้น เนื้อตัวเราถูกกันเสพสวรรค์ยั่งยืน…”

ถ้าเป็นรายการทีวีคงติดเรต “น 18”

สำหรับละครครั้งนี้ เป็นเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังเพราะมีปัญหาจากความพลัดพราก เมื่อคนหนึ่งยังดำรงอยู่ในโลกปกติ แต่อีกคนนั้นต้องจบชีวิตลง หากแต่วิญญาณรักยังคงเฝ้าติดตามจนเจอและหวังที่จะทำสิ่งที่วาดฝันไว้ให้เป็นจริง จนไปวุ่นวายถึงความรักของอีกคู่หนึ่ง ที่ต้องพลัดพรากจากกันอีกอย่างกะทันหัน และเมื่อวิญญาณรักมาสิงร่างของอีกคน เรื่องรักก็อลหม่านปนเศร้าระทมกันไป

ละครเรื่องนี้มีนักแสดงนำอยู่ 3 คู่ คือ นัททิว จับคู่หวานกับ พิม-พิมประภา, เบนซ์-จิรโรจน์ จากเวที AF จับคู่ซึ้งโรแมนติกกับ เมทัล สุขขาว และหนุ่มหน้าทะเล้น มาริว AF12 จับคู่สนุกกับ เนสท์ AF9

จะเห็นว่าเป็นนักแสดงรุ่นใหม่หมดเลย แล้วจะร้องเพลงสุนทราภรณ์กันได้ไพเราะหรือ

อันนี้เป็นกลยุทธ์ของการทำละครเพลงสุนทราภรณ์มาตลอด 6 เรื่อง คือ การนำคนรุ่นใหม่มาเป็นผู้ถ่ายทอดเพลงของสุนทราภรณ์ในดนตรีที่เรียบเรียงใหม่ให้ร่วมสมัย และขับร้องในสไตล์ตนเองที่เหมาะสม ไม่ต้องร้องแบบต้นฉบับเดิม

ทำให้เพลงของสุนทราภรณ์สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ และเป็นการยืนยันว่าเพลงที่มีท่วงทำนองดีอยู่แล้ว จะเรียบเรียงปรุงแต่งยังไงก็ออกมาไพเราะได้เช่นเดิม

“นัททิว” แม้จะเคยผ่านงานละครเวทีและเป็นละครเพลงมาแล้วหลายเรื่อง แต่เมื่อมาเป็นละครเพลงที่นำเพลงสุนทราภรณ์มาร้อง เขาก็ยอมรับว่ายากไม่น้อยเลย เพราะทุกเพลงล้วนไพเราะและความหมายดี มีการเอื้อนที่เป็นเอกลักษณ์ โน้ตมีทั้งสูงต่ำในเพลงเดียวกัน

นัททิวต้องรับผิดชอบเพลงถึง 7 เพลง และเพลงที่เขารู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษคือ “นางในฝัน”

เช่นเดียวกับ “เนสท์” ที่เคยผ่านงานละครเวทีและเป็นละครเพลงมาแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นสุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล ลำดับที่ 4 ด้วย แม้จะเคยผ่านงานเพลงสุนทราภรณ์มาแล้ว เนสท์ก็ยืนยันว่าเรื่องใหม่ก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ เพราะต้องเข้าใจเพลงใหม่ๆ ที่ท้าทาย

ต้องบอกว่าประสบการณ์ของเนสท์ ทำให้บท “ป่าน” สาวก๋ากั่นปากไว ขี้หวง ออกมาสนุกไม่เบาเลย

อีก 4 คนที่เหลือนั้นเป็นมือใหม่ของละครเวทีทั้งสิ้น

“พิม” อาจจะได้เปรียบคนอื่นอยู่บ้างตรงที่ เป็นนักแสดงจากช่อง 7 สีระดับนางเอกดาวรุ่ง จึงไม่ห่วงเรื่องการแสดงนัก

และพิมก็เคยเป็นนักร้องสังกัดวงกามิกาเซ่มาก่อน แต่ต้องมาปรับแต่งให้ความสามารถนั้นเข้ากับละครเวที และเข้ากับบท “เมย์” สาวน้อยที่สดใส แต่ลึกๆ นั้นน่าสงสารให้ลงตัวที่สุด

สำหรับสาว “เมทัล” ด้วยความเป็นลูกสาวของหรั่ง-ชัชชัย สุขขาวดี ทำให้น่าสนใจว่าจะร้องได้ดีแค่ไหน ซึ่งเมทัลนั้นตอนเด็กๆ โตมากับดนตรีคลาสสิค และเมื่อถูกเชิญมาออดิชั่น ก็ค้นหาว่าจะนำเพลงไหนของสุนทราภรณ์มาแคสต์ดี

เมทัลบอกว่า ฟังไปหลายๆ เพลงแล้วพบว่าดนตรีของสุนทราภรณ์สมัยใหม่และมีความคลาสสิคมากในหลายๆ เพลง และเธอได้เลือกเพลง “จังหวะชีวิต” ที่มีโน้ตขึ้นลงอย่างมากมาแสดงให้ดู และเธอก็สอบผ่านจนมาได้รับบท “แนน” หญิงสาวที่ต้องสูญเสียคนรักไป

อีก 2 ชายคือ “เบนซ์ กับ มาริว” ซึ่งตอนที่อยู่ในบ้าน AF ก็เป็นคู่ที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษ มาเรื่องนี้ได้มาแสดงด้วยกัน แต่ในละครไม่ได้เป็นเพื่อนกัน

มาริวนั้นได้เล่นบท “เต้” หนุ่มกวนๆ รักสนุกสนาน ตอนมาออดิชั่นเขาเล่าว่า ยายของเขาชื่นชอบเพลงสุนทราภรณ์มาก และเคยอยากมาชมละครเวทีสุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัลสักครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาส คราวนี้แหละที่เขาจะได้ขึ้นเวทีแสดงให้ยายดูเสียเองเลย

ส่วนเบนซ์นั้น รับบท “เดียว” หนุ่มจริงใจ จริงจังกับความรัก ที่ซื่อๆ ตรงๆ และต้องจบชีวิตลงกลายเป็นวิญญาณรักนั่นเอง เบนซ์มีบุคลิกที่ซื่อๆ จึงถูกเลือกให้มาเล่นบทนี้ เขาก็ร้องเพลงลูกทุ่งได้ดี แต่ที่ต้องปรับคือการเอื้อนของลูกทุ่งกับของสุนทราภรณ์นั้นมีรายละเอียดแตกต่างกัน

เบนซ์มีเพลงรักร้องคู่กันกับเมทัลอยู่เพลงหนึ่ง คือเพลง “รักเธอเสมอ” และเมื่อเป็นวิญญาณเขาได้ร้องเพลงนี้ให้เมทัลฟังเพื่อเตือนความจำ เขาบอกว่า ร้องเพลงไปก็จะร้องไห้ไปด้วย จากความซาบซึ้งของเพลงและเรื่องราวนั่นเอง

นอกจาก 6 นักแสดงนำนี่แล้ว ยังมีนักแสดงมากฝีมือคนอื่นๆ ด้วย เช่น ผัดไท ที่เป็นขาประจำกับสุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัลทุกเรื่อง, ปิง ฟรุตตี้ ในบททนายขี้โกง, ปาล์ม-ธัญวิชญ์ เจนอักษร

นอกจากเพลง “ขอพบในฝัน” ที่เป็นชื่อเรื่องแล้ว ยังมีอีก 23 บทเพลงที่ไพเราะทั้งสิ้น เช่น ดาวล้อมเดือน, พรหมลิขิต, ฝากรัก, ท่าน้ำ, เสียแรงรักใคร่ เป็นต้น

การแถลงข่าวละครได้มีไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

แต่บัตรนั้นเปิดขายมาสักพักแล้ว และจะเปิดการแสดงระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน-23 กรกฎาคม เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ รอบ 14.00 น. ที่โรงละครเอ็มเธียเตอร์

อยากให้มาชมกันแล้วจะได้รับความสุข ความสนุก ความประทับใจกลับไปแน่นอน

หาซื้อกันได้ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์

ละครเพลงรื่นอารมณ์ผสมวิญญาณรัก ที่ชื่อ “ขอพบในฝัน สุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล” รอพบท่านอยู่ในโลกของความจริงนะครับ

อย่าให้เหล่านักแสดงฝันเก้อนะเออ