การศึกษา / ‘สหรัฐ’ เตรียมส่งคืน ‘ไทย’ 2 ทับหลัง ‘เขาโล้น-หนองหงส์’

การศึกษา

 

‘สหรัฐ’ เตรียมส่งคืน ‘ไทย’

2 ทับหลัง ‘เขาโล้น-หนองหงส์’

 

นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีสำหรับคนไทยทั้งประเทศ

เมื่ออธิบดีกรมศิลปากร นายประทีป เพ็งตะโก ได้แจ้งข่าวดีว่าในช่วงต้นปีหน้า “ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น” อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และ “ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์” อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จะถูกส่งคืนสู่ประเทศไทยราวๆ เดือนมีนาคม 2564

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 143/2560 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2560 แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยได้มอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ติดตามโบราณวัตถุของไทยกลับคืนสู่ประเทศอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

โดยกรมศิลปากรได้ประสานงานผ่านกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ส่งหนังสือติดตามทวงคืนโบราณวัตถุถึงสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา (Homeland Security Investigations) และส่งข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานการสำรวจของกรมศิลปากร ตัวอย่างเอกสารอนุญาตในการส่งออกโบราณวัตถุ เป็นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่าโบราณวัตถุนั้นมีถิ่นกำเนิดในไทย

และได้ถูกลักลอบนำออกไปโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย

 

ล่าสุด ได้รับแจ้งข้อมูลจาก กต.อย่างไม่เป็นทางการ ว่าสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส รายงานความคืบหน้าว่าโบราณวัตถุชุดแรกที่ดำเนินการติดตาม ได้แก่ ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐแล้ว

โดยทางพิพิธภัณฑ์ยอมรับว่าทับหลังทั้ง 2 รายการ เป็น “กรรมสิทธิ์” ของฝ่ายไทย ปัจจุบันได้นำทับหลังทั้ง 2 ชิ้น ออกจากห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มาจัดเก็บในห้องคลัง เพื่อรอขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในกระบวนการส่งคืนสู่ประเทศไทย

คาดว่ากระบวนการทางกฎหมายจะแล้วเสร็จราวเดือนมีนาคม 2564

ได้รายงานความคืบหน้าแก่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการ วธ.เพื่อรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ในเบื้องต้นแล้ว

 

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของการทวงคืน ทับหลังปราสาทหนองหงส์ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก เริ่มจากกลุ่มสำนึก 300 องค์ ที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวเพื่อทวงคืนโบราณวัตถุไทยจากต่างประเทศ ภายหลังจากเกิดกระแสการทวงคืนโดยนักวิชาการ และชาวบ้านในพื้นที่

ซึ่งนักวิชาการคาดว่าทับหลังปราสาทหนองหงส์ น่าจะหายไปในช่วงเดียวกันกับทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ราวๆ ปี 2508 และเชื่อว่าอายุอยู่ในยุคเดียวกับปราสาทเมืองต่ำ คือสมัยคลังตอนปลาย ขณะที่กรมศิลปากร เชื่อว่าอยู่ในสมัยบาปวน ตัวปราสาทเป็นปราสาท 3 หลัง ตั้งอยู่บนฐานร่วมเดียวกัน

ส่วนทับหลังปราสาทเขาโล้น เคยอยู่ที่ปราสาทซึ่งก่อสร้างด้วยอิฐ เหลือเพียงหลังเดียวบนยอดเขาโล้น เป็นเนินเขาเตี้ยๆ มีภาพถ่ายชัดเจนในหนังสือศิลปะสมัยลพบุรี ตีพิมพ์โดย มหาวิทยาลัยศิลปากร ปี 2510

อย่างไรก็ตาม หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามฯ ได้เดินหน้าทวงคืนโบราณวัตถุ โดยในช่วงเดือนมกราคม 2562 ไทยได้รับคืนโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุจากสหรัฐ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ และคนไทยในสหรัฐ 2 ราย รวม 46 รายการ

โดยรายที่ 1 ชาวอเมริกันส่งคืนโบราณวัตถุ 19 รายการ ได้แก่ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมบ้านเชียง อายุประมาณ 1,500-2,500 ปี และยุคก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยปลาย อายุประมาณ 1,800-2,300 ปี

และรายที่ 2 ชาวไทยที่อาศัยในสหรัฐ ส่งคืนโบราณวัตถุ 27 รายการ

สำหรับโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่ชาวอเมริกันส่งคืน 19 รายการ ส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุ 2,000-3,000 ปี และบางรายการอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมบ้านเชียง สมัยต้น อายุ 3,000-4,300 ปี ได้แก่ กำไลสำริด 4 รายการ, กระดิ่งสำริด 1 รายการ, ภาชนะดินเผา 8 รายการ, ภาชนะดินเผาขูดขีดผสมการระบายสีแดง 1 รายการ, ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบประดับด้วยเส้นนูน 1 รายการ, ภาชนะดินเผาเขียนสี 1 รายการ และลูกกลิ้งดิน 3 รายการ

ส่วนโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุ ที่ชาวไทยในสหรัฐส่งคืน 27 รายการ ได้แก่ ภาชนะดินเผาทรงพาน 1 รายการ, ภาชนะดินเผา 22 รายการ, ช้อนดินเผา 1 รายการ เบ้าดินเผา 1 รายการ และหินดุดินเผา 2 รายการ

ซึ่งกรมศิลปากรได้จัดทำทะเบียนบัญชีทรัพย์สินของแผ่นดิน ส่วนโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่เสียหาย หรือเสื่อมสภาพ จะซ่อมสงวนรักษาตามหลักการอนุรักษ์ และนำเก็บรักษาไว้ที่คลังกลาง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.ปทุมธานี รวมทั้งจัดนิทรรศการ และจัดแสดงในอนาคต

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลได้รับโบราณวัตถุคืนจากต่างประเทศรวม 8 ครั้ง จากสหรัฐ 7 ครั้ง และออสเตรเลีย 1 ครั้ง รวม 751 รายการ

ซึ่งโบราณวัตถุที่ได้รับคืนมีความหลากหลาย แต่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุประมาณ 4,000 ปี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการติดตามฯ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปสำรวจโบราณวัตถุของไทยในประเทศต่างๆ พบว่า มีโบราณวัตถุของไทยไปอยู่ในต่างประเทศประมาณ 260 รายการ บางรายการอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลในต่างประเทศ ส่วนบางรายการอยู่ระหว่างการส่งข้อมูลให้ประเทศที่มีโบราณวัตถุของไทยรับทราบ และพิจารณา

ใน 260 รายการ มี 133 รายการ ที่ไทยได้แจ้งสหรัฐอย่างเป็นทางการ ว่าพบโบราณวัตถุของไทยอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐ อีก 124 รายการ อยู่ในขั้นตอนการติดตาม ส่งข้อมูล ซึ่งทางคณะกรรมการติดตามฯ ตั้งใจจะติดตามให้ได้คืนกลับมาโดยเร็วที่สุด

ซึ่งในจำนวนนี้ มีชิ้นมาสเตอร์พีซ 2 ชิ้น ซึ่งก็คือ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ที่ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนทางศาลของสหรัฐแล้ว โดยสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigation; HSI) สหรัฐ ได้แต่งตั้งอัยการเพื่อฟ้องร้อง Asian Art Museum ในฐานะที่มีการลักลอบนำโบราณวัตถุเข้ามาโดยมิชอบ

นอกจากนี้ ไทยยังได้ส่งเอกสารหลักฐานไปที่สำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ติดตามทวงคืนโบราณวัตถุ จำนวน 32 รายการ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนประดับสถาปัตยกรรม 5 รายการ และประติมากรรมกลุ่มประโคนชัย จำนวน 18 รายการ รวม 23 รายการ ซึ่งกระจายอยู่หลายพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐ และโบราณวัตถุที่จัดแสดง ณ Norton Simon Museum สหรัฐ อีก 9 รายการ

กระทั่งล่าสุดกรมศิลปากรได้รับแจ้งข้อมูลจาก กต.ว่าสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส แจ้งว่า ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ที่จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐ และทางพิพิธภัณฑ์ยอมรับว่าทั้ง 2 รายการ เป็นกรรมสิทธิ์ของไทย

            เรื่องนี้สร้างความยินดีให้กับชาวสระแก้ว และชาวบุรีรัมย์ เพราะนอกจากจะได้สมบัติของแผ่นดินกลับคืนสู่มาตุภูมิแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าจะส่งผลให้ทั้งปราสาทเขาโล้น และปราสาทหนองหงส์ จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ และในจังหวัดเพิ่มขึ้นด้วย