เป็นสุดสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ที่มวลชนชาวเบลารุสออกมารวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงมินสก์

เพื่อแสดงพลังขับไล่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ให้ยอมลาออกจากตำแหน่งไปแต่โดยดี

หลังจากที่เขายึดอำนาจปกครองประเทศเบลารุสมาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต่อเนื่องยาวนานถึง 26 ปี หรือนับจากปี ค.ศ.1994 ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่เบลารุสแยกตัวเป็นเอกราชออกจากดินแดนสหภาพโซเวียตที่กลายเป็นอาณาจักรคอมมิวนิสต์ที่ล่มสลายไปแล้วในปี 1991

นั่นทำให้ลูกาเชนโกได้รับฉายาว่าเป็น “เผด็จการคนสุดท้ายของยุโรป” ที่ยังคงอยู่

ในขณะที่ลูกาเชนโกยังพยายามคงสภาพความเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ในประเทศเอาไว้ ด้วยการยึดเอาภาคการผลิตส่วนใหญ่ไว้ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ ตลอดจนการกำกับควบคุมสื่อต่างๆ เอาไว้ในกำมือ

 

ทาเทียนา คาลินอฟสกายา ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพี ประเมินจากสายตาว่า คลื่นมวลชนที่ออกมารวมตัวกันในกรุงมินสก์เพื่อเรียกร้องกดดันให้นายลูกาเชนโกลาลาออกจากตำแหน่ง ในการชุมนุมประท้วงในช่วงวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 100,000 คน

เป็นจำนวนมากพอๆ กับการรวมตัวชุมนุมกันของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านนายลูกาเชนโกในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนหน้า

ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นในเบลารุสนับจากการแยกตัวเป็นเอกราช

โดยเหตุประท้วงครั้งนี้ลุกลามกลายเป็นเหตุรุนแรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมและจับกุมผู้ประท้วงไปนับเกือบหมื่นคน

ชนวนเหตุของการลุกฮือขึ้นมาขับไล่ผู้นำเบลารุสครั้งนี้ ถูกจุดขึ้นจากความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจของกลุ่มผู้ประท้วงที่มีต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเบลารุสเมื่อวัน 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏออกมาว่า ลูกาเชนโกเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 6 ด้วยเสียงสนับสนุนที่ยังทิ้งห่างนางสเวียตลานา ทีคานอฟสกายา ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้านในวัย 37 ปี ไปอย่างเหลือเชื่อมากถึง 80 ต่อ 10 เปอร์เซ็นต์

ท่ามกลางการปฏิเสธที่จะยอมรับผลการเลือกตั้งของนางทีคานอฟสกายาและกลุ่มผู้สนับสนุนของเธอ ที่กล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งอย่างน่าไม่อายของอีกฝ่าย

โดยยังโต้แย้งว่า หากผลการนับคะแนนเป็นไปอย่างถูกต้อง นางทีคานอฟสกายาจะได้รับเสียงสนับสนุนอยู่ที่ราว 60-70 เปอร์เซ็นต์

หนึ่งวันหลังผลการเลือกตั้งถูกประกาศออกมา ทีคานอฟสกายาพยายายามจะเข้าไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งว่ามีการโกงผลการเลือกตั้งเกิดขึ้น

ทว่าเธอกลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้นานถึง 7 ชั่วโมง

ก่อนจะถูกบังคับให้ลี้ภัยออกนอกประเทศไป ซึ่งเธอหลบไปอยู่ประเทศลิทัวเนีย ที่ลูกๆ ของเธอถูกส่งตัวให้ไปอยู่ที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว

ผลการเลือกตั้งที่ถูกครหาว่าไม่โปร่งใสและเต็มด้วยไปการทุจริต เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปมปัญหาขัดแย้งในประเทศเบลารุสที่ถูกสั่งสมมานาน โดยยังมีการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกาะรัดแน่นอยู่ในระบบบริหารปกครอง ความยากจนขัดสน การไร้ซึ่งโอกาส และความเหลื่อมล้ำต่างๆ ไปจนถึงการรับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาล สุมรวมเข้าด้วยกันจนเกิดระเบิดความไม่พอใจของชาวเบลารุสออกมา และนำมาสู่การลุกฮือประท้วงเพื่อที่จะปลดแอกตนเองออกจากการตกอยู่ภายใต้ระบอบอำนาจอันกดขี่ของผู้นำเผด็จการอย่างนายลูกาเชนโกอย่างที่โลกกำลังได้เห็นอยู่ในเวลานี้

นิโคไล หนุ่มผู้ประท้วงในวัย 33 ปี ที่ถูกตำรวจจับกุมหลังเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ประธานาธิบดีลูกาเชนโก และขณะนี้กำลังฟื้นตัวจากความบอบช้ำที่ถูกตำรวจใช้กำลังทุบตี บอกกับสื่อว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เจ็บปวดหมด

แต่เขาต้องออกมาร่วมชุมนุมอีกครั้งเพื่อต้องการปลดแอกเบลารุส

 

ตอนนี้หลายชาติตะวันตก รวมถึงชาติเพื่อนบ้านของเบลารุส อย่างลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย กำลังร่วมกันกดดันนายลูกาเชนโก ซึ่งรวมถึงการออกมาตรการแซงก์ชั่นตอบโต้รัฐบาลลูกาเชนโกให้ยุติการใช้กำลังรุนแรงเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงและบีบให้หันหน้าเจรจากับฝ่ายค้านเพื่อหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศ

ทว่าการตอบโต้ผู้นำเบลารุสอย่างแข็งกร้าวของชาติตะวันตก ยังต่างเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะรัฐบาลลูกาเชนโกมีแบ๊กอัพใหญ่ รัสเซียคอยดันหลังอยู่ การเผชิญหน้ากันใดๆ โดยตรงก็อาจไม่เป็นผลดีได้ ดังที่เคยมีกรณีให้เห็น เช่น ปัญหาขัดแย้งในดินแดนไครเมียของยูเครน ที่ถูกผนวกเข้าเป็นของรัสเซียในปี 2014 ซึ่งจุดวิกฤตตึงเครียดขึ้นบนคาบสมุทรไครเมีย

ส่วนผู้นำเผด็จการคนสุดท้ายของยุโรปผู้นี้จะยืนหยัดรับมือกับกระแสต่อต้านไม่เอาอำนาจเผด็จการของกลุ่มผู้ประท้วงชาวเบลารุสไปได้นานแค่ไหน คงต้องจับตารอดูพลังมวลชนกันให้ดี!

 

---

กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2