กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คริสตี้ย์ส (Christie”s) บริษัทรับจัดประมูลชื่อดังของโลก ได้นำรองเท้า Nike Air Jordan 1 ซึ่งเป็นรองเท้า Air Jordan แรกที่ผลิตขายในปี 1984 มาประมูลออนไลน์

มีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ชนะการประมูลไปในราคา 615,000 ดอลลาร์ หรือ 20 ล้านบาท

รองเท้า Nike Air Jordan 1 ที่ออกวางขายในปี 1984 มีราคา 65 ดอลลาร์ ถ้าคิดเป็นเงินในสมัยนั้น อยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท

ความพิเศษสุดๆ ของรองเท้า Nike Air Jordan 1 เบอร์ 13.5 คู่ที่คริสตี้ย์สนำมาประมูลก็คือเป็นรองเท้าที่ไมเคิล จอร์แดน สวมลงแข่งขันในเกมกระชับมิตรหรือ Exhibition Game ที่ไนกี้จัดขึ้นที่เมืองเตรียสเต้ (Trieste) ประเทศอิตาลี

โดยจอร์แดนลงแข่งขันร่วมกับนักบาสทีมประเทศอิตาลี

 

วันนั้นเป็นวันที่ 25 สิงหาคม 1985 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งเป็นหนุ่มวัย 22 ปี เพิ่งร่วมทีม Chicago Bulls ในปี 1984 ได้โชว์ลีลาการดังก์ และทำ Backboard หรือแผ่นกระจกแก้วแป้นชู้ตแตกกระจาย เศษแก้วยังติดอยู่ที่ส้นรองเท้า Nike Air Jordan 1 ข้างซ้าย ซึ่งทางบริษัทรับจัดประมูลคริสตี้ย์สบอกว่ารองเท้าคู่ที่มีเศษแก้วติดอยู่ที่ส้นรองเท้าคู่นี้เป็น “a one-of-a-kind” Michael Jordan artifact หรือสิ่งประดิษฐ์ของไมเคิล จอร์แดน ที่เป็นหนึ่งเดียว ไม่เหมือนใคร

สมัยก่อน มีเหตุการณ์ Backboard แป้นบาสเกตบอลแตกกระจายจากการที่นักบาส NBA สแลมดังก์โหนแป้นบาส ซึ่งทำให้เกิดอันตรายกับนักบาสเกตบอลที่โดนเศษแก้ว และทำให้เกมล่าช้าเกือบชั่วโมงเพราะต้องเปลี่ยนแป้นบาสเกตบอลใหม่

แต่ต่อมาได้มีการทำให้แป้นบาสแข็งแรงขึ้น รองรับน้ำหนักเวลานักบาสเกตบอลสแลมดังก์และโหนแป้นได้มากขึ้น จึงแทบไม่เห็นเหตุการณ์กระจกแป้นบาสแตกอีกเลย

Backboard ของ NBA ทำจากเทมเพอร์ กลาส (Tempered Glass) ซึ่งเป็นกระจกแก้วที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อแรงกระแทก เมื่อแตกจะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ ไม่มีคม จึงเกิดอันตรายน้อย

 

สมัยนี้การซื้อรองเท้ากีฬากลายเป็นการลงทุนเหมือนกับการซื้อนาฬิากาข้อมือที่แม้จะเป็นของใช้แล้ว แต่ว่าถ้าเป็นรุ่นหายาก หรือรุ่น Limited Edition มูลค่ารองเท้าก็ยังสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

รองเท้ากีฬาที่กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการแต่งตัวสไตล์แอทลีเชอร์ (Athleisure) ซึ่งเป็นเทรนด์แฟชั่นยอดฮิตยุคปัจจุบันที่เราสามารถสวมรองเท้ากีฬาได้ทุกโอกาสไม่ว่าจะไปเที่ยว ไปทำงาน และออกกำลังกาย ทั้งยังสวมได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้ดูเป็นคนทันสมัย ทันแฟชั่น

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนคนหนึ่งจะมีรองเท้ากีฬาหลายคู่ไว้สวมให้เข้าธีมเครื่องแต่งกายแต่ละสถานการณ์ บางคนเลื่อนขั้นเป็นนักสะสมรองเท้ากีฬาที่ต้องมีรุ่นเท่ๆ หายากไว้ในครอบครองเพื่อคุณค่าทางใจ

ซึ่งรองเท้าหายากหลายคู่ราคายิ่งสูงขึ้นตามกาลเวลา

 

เมื่อรองเท้ากีฬากลายเป็นเทรนด์แฟชั่นที่สำคัญในชีวิตประจำวัน เป็นของสะสมที่มีความต้องการซื้อสูง ดังนั้น แต่ละครั้งที่ผู้ผลิตรองเท้ากีฬาแบรนด์ดังของโลกออกรุ่นใหม่ๆ มาจึงมักขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะคนจะแย่งกันซื้อมาสวมอวดความเท่ก่อนชาวบ้าน

วันไหนเบื่อแล้วก็ปล่อยขายต่อในราคามือสอง ซึ่งถ้ารองเท้ายังอยู่ในกระแสความนิยม ก็สามารถขายได้ราคาดีกว่าตอนที่ซื้อใหม่เอี่ยมอ่องมาจากร้านเสียอีก

ด้วยเหตุนี้ หลายคนมองเห็นโอกาส รีบซื้อรองเท้าราคาป้ายมาเก็บไว้เพื่อปล่อยขายต่อ (Resale) ในราคาที่สูงขึ้นหลังจากสินค้าขาดตลาดแล้ว

ยิ่งรองเท้ากีฬารุ่นที่มีระบุว่า “Limited Edition” เพราะร่วมออกแบบกับคนดังระดับโลก หรือรุ่นที่ผลิตเนื่องในโอกาสพิเศษ ก็เตรียมใจไว้เลยว่าจะมีคนแย่งกันสั่งซื้อออนไลน์จนเว็บไซต์ล่ม สินค้าหมดสต๊อกภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

ซึ่งถ้าใครกดสั่งซื้อจากหน้าร้านไม่ทัน ก็มีสองทางให้เลือก คือทำใจยอมรับ หรือกัดฟันซื้อราคาขายต่อมือสองที่จะแพงกว่าราคาจริงจากป้าย

 

บริษัท Cowen & Co. สถาบันทางการเงินของสหรัฐอเมริกา คำนวณมูลค่าของตลาดรีเซลรองเท้าผ้าใบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ไว้ที่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (63,000 ล้านบาท) และคาดคะเนว่าภายในปี 2025 มูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านดอลลาร์ (189,000 ล้านบาท) ซึ่งกลุ่มนักลงทุนทั้งเล็กและใหญ่กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด

StockX คือหนึ่งในบริษัทที่เป็นแนวหน้าและศูนย์กลางของตลาดรีเซลรองเท้ากีฬาออนไลน์ เพราะเป็นตัวกลางซื้อ-ขายรองเท้าผ้าใบและสินค้าแฟชั่นมือสองที่มีให้เลือกทุกรุ่นทุกแบบ ไม่เพียงแต่รองเท้าที่หายากหรือรุ่นที่คนกำลังฮิตเท่านั้น

บริษัทก่อตั้งในปี 2015 โดยจอช ลูเบอร์ (Josh Luber) นักลงทุนชาวอเมริกัน วัย 41 ปี อดีตที่ปรึกษาของ IBM และเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้อมูลตลาดรองเท้ามือสอง

เว็บไซต์นี้จะขายเฉพาะรองเท้ากีฬาที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าเป็นของแท้ อยู่ในสภาพดีและมีกล่องเดิม

โดยจะมีการเรียกเก็บค่านายหน้า 9.5% บวกกับค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขายแต่ละครั้งอีก 3%

มีรายงานว่า จนถึงปี 2019 เว็บไซต์ StockX เป็นนายหน้าซื้อ-ขายรองเท้ากีฬามือสองเป็นมูลค่ารวมกันไปแล้วกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) ขึ้นมาใหญ่เทียบเคียงเว็บไซต์ eBay ในด้านการเป็นตัวกลางซื้อ-ขายรองเท้ากีฬา

 

เมื่อตลาดซื้อ-ขายรองเท้ากีฬาใหญ่และมีความแข็งแรง นักลงทุนจำนวนมากจึงมองเห็นรองเท้ากีฬาเป็น Alternative asset class หรือสิ่งที่เหมาะแก่การลงทุนนอกเหนือจากการซื้อพันธบัตรและหุ้น ซึ่งจัดเป็น Traditional asset class

อย่างเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ไมล์ส นาดาล (Miles Nadal) นักลงทุนและนักสะสมชาวแคนาดา ใช้เงินกว่า 1,287,000 ดอลลาร์สหรัฐ (40 ล้านบาท) ไปกับการประมูลรองเท้ากีฬาหายากของ Stadium Goods 100 คู่ ที่จัดโดยสถาบันประมูลซัทเธบีส์ (Sotheby”s)

ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการประมูลรองเท้า Nike Waffle Racing Flat “Moon Shoe” มูลค่า 437,500 ดอลลาร์ (14 ล้านบาท)

Moon Shoe คือหนึ่งในรองเท้าวิ่งรุ่นแรกที่เป็นผลงานแฮนด์เมดปี 1972 ของบิลล์ บาวเวอร์แมน (Bill Bowerman) โค้ชนักวิ่งระดับตำนานของมหาวิทยาลัยออริกัน (University of Oregon) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไนกี้

ส่วนรองเท้าอีก 99 คู่ที่เตรียมจะตั้งประมูลนั้น มีรายงานว่านาดาลได้ติดต่อส่วนตัวไปยัง Sotheby”s ขอเหมาซื้อทั้งหมดรวมมูลค่า 850,000 ดอลลาร์ (27 ล้านบาท)

แล้วนำรองเท้าทั้งหมดไปเก็บรักษาและโชว์ที่พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวในเมืองโตรอนโต

 

แต่รองเท้ากีฬายุคปัจจุบันมีคู่แข่งในตลาดมากขึ้น

แต่ละครั้งที่ออกรุ่นใหม่ๆ มา เราก็ไม่สามารถฟันธงว่ารุ่นนี้ยี่ห้อนั้นจะฮิตหรือไม่ ซื้อมาเก็งกำไรได้ในระดับไหน เวลาใดควรปล่อยขายต่อก่อนที่ราคาจะร่วง

เพราะหากคาดการณ์ผิดพลาด ก็มีโอกาสจะขายต่อขาดทุนได้เสมอ

อย่างที่รู้ๆ กัน… การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง

 

---

กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2