ผ่าคดีกามแม่ฮ่องสอน แม่โวย-ตร.เป็นพ่อเล้า รถตราโล่ส่ง ขรก.ใหญ่ ลามผู้ว่าฯ ถูกเด้งเข้ากรุ!

เป็นคดีอื้อฉาวระดับประเทศ สำหรับกรณีค้ากาม ด.ญ. ที่ จ.แม่ฮ่องสอน

ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการร้องเรียนของผู้ปกครองที่ระบุว่าลูกสาวของตัวเองถูกลวงมาค้ากาม

โดยมีหัวโจกเป็นนายดาบตำรวจของ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน

แต่เมื่อแจ้งความดำเนินคดีไม่ว่าจะกับตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ตำรวจ ปคม.

เรื่องก็เงียบหายไม่มีความคืบหน้า

จนจำเป็นต้องร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ให้เรื่องเป็นที่รับรู้ของสังคม

ซึ่งก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ เพราะเมื่อเป็นข่าว หลายองค์กรที่ควรจะรับผิดชอบเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่ต้น

ก็เริ่มขยับ แถมยังสาวกันไปจนพบว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา

แต่เป็นขบวนการจัดหาเด็กสาวส่งบำเรอกามข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน จนเรียกได้ว่าหากจับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ในจังหวัดอาจไม่มีคนทำงานเลยก็ได้!!?

แม่โวยลูกถูกบังคับค้ากาม

เหตุการณ์นี้ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชน เนื่องจากนางน้ำเพชร เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า ลูกสาวถูกตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณี โดยมีลูกค้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด ทั้งผู้ว่าฯ ตำรวจ ครู

พร้อมเล่าที่มาที่รับรู้ว่า ลูกสาวถูกบังคับขายบริการก็เพราะตัวเองทำงานเป็นสายให้ตำรวจอยู่แล้ว ต่อมามีตำรวจที่สนิทกันเอารูปเด็กไซด์ไลน์ ที่รับงานมาให้ดู ปรากฏว่าเป็นลูกสาวตน จึงตัดสินใจล่อซื้อแล้วพบว่าลูกสาวขายบริการจริง

เมื่อสอบถามสาเหตุก็ยอมรับว่าถูกบังคับให้ค้ากาม เนื่องจากถูกแอบถ่ายคลิปขณะเสพยา โดยตำรวจนำมาเป็นเครื่องมือต่อรอง หากไม่ไปขายบริการก็จะถูกจับดำเนินคดีข้อหายาเสพติด

สืบค้นไปก็พบว่ามีเด็กสาวอีกจำนวนมาก ถูกหลอกลวงมาค้าบริการ โดยกระบวนการบังคับเหยื่อจะให้วัยรุ่นด้วยกันที่ร่วมขบวนการเป็นนกต่อ ชักชวนไปเสพยาบ้า แล้วจัดฉากถ่ายคลิปวิดีโอแบล๊กเมล์ โดยมีแม่เล้าชื่อฟ้า เป็นผู้รับผิดชอบ

หลังจากนั้นก็จะบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ยอมจะนำคลิปมาขู่ และซ้อมจนบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีอีกกลุ่ม ซึ่งมีทั้งนักเรียน นักศึกษา ที่ไม่ได้ถูกบังคับ แต่ก็ถูกล่อหลอกด้วยมือถือยี่ห้อดังรุ่นล่าสุด และเงินทองที่ใช้เที่ยวเตร่ จนยอมเข้ามาสู่วังวนนี้

ส่วนสถานที่ค้ากามจะวนเวียนไปหลายแห่ง ทั้งโรงแรมหรูที่สุดของจังหวัด เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ตต่างๆ

มีกระทั่งนำเด็กไปส่งถึงบ้านพักข้าราชการ โดยใช้รถตราโล่เป็นยานพาหนะ!??

เด็กมีทั้งหมดร่วม 20 คน ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้สักรูปนกฮูกหรือนกเค้าแมว บางคนก็สักตัวเล็ก บางคนสักตัวใหญ่

เมื่อได้ข้อมูลพอสมควร จึงนำเรื่องไปแจ้งความที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ก็ไม่ยอมรับแจ้งความ จนไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ก็รับเรื่องไว้แต่ไม่มีความคืบหน้า เมื่อทวงถามก็บอกว่าส่งเรื่องต่อให้ บก.ปคม. ไปแล้ว แต่เมื่อขอดูหนังสือกลับไม่มีเลขรับ-ส่ง

พอไปร้อง บช.ภาค 5 ผลสอบสวนกลับออกมาว่าเด็กเข้าใจผิดไปเอง จึงตัดสินใจไปร้องเรียนต่อ บก.ปคม. เอง แต่ก็ผ่านมาแล้ว 6 เดือนไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นอกจากนี้ ยังถูกกลุ่มนายตำรวจติดต่อผ่านคนกลางเพื่อเสนอเงิน 1 ล้านบาทเพื่อขอให้จบเรื่อง โดยขอให้เป็นคดีค้าประเวณี ไม่ใช่เรื่องค้ามนุษย์

แต่เมื่อไม่ยอมก็ใช้วิธีข่มขู่เอาชีวิต ยอมรับว่าตอนแรกก็กลัว แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นความโกรธว่าทำไมเราต้องเจอเรื่องแบบนี้

จึงตัดสินใจเดินหน้าชน เอาเรื่องกันให้ถึงที่สุด

ออกหมายจับ ตร.เพียบ

หลังเจอแม่เหยื่อดับเครื่องชน แวดวงสีกากีก็ขยับกันขวักไขว่

โดย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 ยืนยันดำเนินคดีตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือใครทั้งสิ้น ส่วน ด.ต. คนที่เป็นข่าวก็สั่งย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้วเพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

แต่ก็ยังมีปัญหาอีก เมื่อสมาคมคนแพร่ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ ผบช.ภาค 5 ทบทวนคำสั่ง หลังทราบว่า ด.ต. คนดังกล่าว มาช่วยราชการที่ จ.แพร่ จึงไม่สบายใจเพราะถือเป็นคดีร้ายแรง กระทบต่อสังคมส่วนใหญ่

แม้ พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.แพร่ จะออกมาปกป้องว่าตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ สภ.เมือง จ.แพร่

สุดท้ายก็ไม่ไหว เมื่อศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน อนุมัติหมายจับ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ ผบ.หมู่ สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ช่วยราชการ บก.ภ.จว.แพร่ น.ส.ปิยะวรรณ หรือเมย์ สุขมา อายุ 26 ปี และ น.ส.ปิยทัสน์ หรือฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ อายุ 29 ปี ในข้อหาสมคบกันค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาค้าประเวณี

ทันใดนั้น พล.ต.ต.ปรีชา วิมลชัยจิต ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ก็ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ด.ต.ยุทธชัย และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

พร้อมคุมตัวทั้ง 3 ส่งสอบสวนที่ กทม. ทันที

คดีรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่เพียงแค่นั้น ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน คือ ส.ต.อ.นิรันดร์ สายจันทร์ ส.ต.ต.พิทักษ์ สมกุล และ ส.ต.ท.เพชร เตชะโอฬาร ตำรวจสังกัด สภ.กองก๋อย จ.แม่ฮ่องสอน ในข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่อทำอนาจารในลักษณะโทรม

โดยได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วเนื่องจากถือว่ามีความผิดทางวินัยร้ายแรง

ต่อด้วยออกหมายจับพ่อเล้า-แม่เล้า ประกอบด้วย นายมงคล หรือแป๊ะ เกียรติภักดีพงศ์ อายุ 30 ปี น.ส.ปัทมพร หรืออึง อิ่นแก้ว อายุ 31 ปี น.ส.กนกวรรณ หรือม่อม รัตนภักดี อายุ 22 ปี น.ส.ขวัญหทัย หรือตั๊ก ฤกษ์อุดม อายุ 39 ปี และ น.ส.กัลยา หรือจอย วุฒิคุณ อายุ 40 ปี

ในฐานความผิดร่วมกันค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และร่วมเป็นธุระจัดหา

ผู้ต้องหามากขึ้นเรื่อยๆ

ลามผู้ว่าฯ-ถูกเด้งเข้ากรุ

พร้อมกันนั้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับนายตำรวจเพิ่มอีก 3 นาย แต่ศาลยังไม่อนุมัติ

ขณะที่ ผบช.ภาค 5 มีคำสั่งลงวันที่ 26 เมษายน ให้สืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจ 3 นาย ที่ถูกกล่าวหาซัดทอดจากทางผู้เสียหาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคดีค้ากาม ด.ญ.

ประกอบด้วย พ.ต.ท.มงคล ปันตี รอง ผกก.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ช่วยราชการ ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ร.ต.อ.อำนาจ ยะกาวิน ตร.กองสืบ บก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน และ ด.ต.บุญหลง วงศ์โท๊ะ สังกัด สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน

เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ หากพบกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายและลงโทษทางวินัยต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ศาลอนุมัติหมายเรียกนายตำรวจ 5 นาย ประกอบด้วยนายตำรวจยศ พ.ต.ท. 1 นาย และครูอีก 1 คนมาสอบสวนเกี่ยวกับคดีค้ากาม ดญ. ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

ไม่เพียงแค่เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ยังลามไปถึงข้าราชการฝ่ายปกครองระดับผู้ว่าราชการจังหวัด

โดยแม่เหยื่อสาวให้การกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่ามีการจัดส่งบำเรอกามภายในงานเลี้ยงต้อนรับข้าราชการระดับสูงของจังหวัด

ส่งผลให้ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เปิดแถลงข่าวตอบโต้ทันทีว่าไม่เกี่ยวข้องเรื่องดังกล่าว ที่แม่เด็กบอกว่าตนซื้อบริการเด็กไปนอนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งนั้นก็ไม่จริง

“ขอให้ระบุให้ชัดว่าเป็นผู้ว่าฯ หรือนายอำเภอ หรือใคร จังหวัดไหน คนใหม่หรือคนเก่า ถ้าเผลอพูดไปก็ไม่ว่ากัน ข้าราชการในฐานะผู้ว่าฯ ไม่ได้มีหน้าที่เอาเรื่องราษฎร แต่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของเขา”

อย่างไรก็ตาม ปลัดมหาดไทยก็สั่งตั้งกรรมการสอบสวน พร้อมมีคำสั่งย้ายให้เข้ามาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ให้เหตุผลว่าเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาระหว่างการสอบสวน หากผลสอบเป็นอย่างไรก็จะพิจารณาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังลามไปถึงตัวผู้ว่าฯ คนเก่า ซึ่งก็คือ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ อดีตผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ซึ่งเจ้าตัวก็โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนซื้อบริการเด็ก ผมขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าผมไม่ทำเช่นนั้นแน่

ในวันที่ผมไปรับตำแหน่ง 1 ตุลาคม 2558 คืนนั้นผมนอนที่วัดพระธาตุดอยกองมู เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัวครับ

และผมก็เชื่อมั่น 100% ว่าท่านผู้ว่าฯ สืบศักดิ์ คนปัจจุบันท่านไม่มีวันทำเช่นนั้น ความจริงจะปรากฏในไม่ช้านี้ แต่ถ้าทำผิดจริงไม่มีใครหนีพ้น

แต่ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงก็ถูกพิพากษาทางสังคมตามกระแสที่สื่อเสนอไป ความดีความงาม ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหายไปในพริบตา

ต้องรอผลการสอบสวนต่อไป เพื่อคลี่คลายคดีให้กระจ่าง