ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์ / THE INVENTION OF LYING ‘โลกที่ไร้คำลวง’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

THE INVENTION OF LYING

‘โลกที่ไร้คำลวง’

 

กำกับการแสดง Ricky Gervais, Matthew Robinson

นำแสดง Ricky Gervais Jennifer Garner Rob Lowe Louis C.K. Jonah Hill

 

เนื่องจากช่วงนี้ได้ดูหนังทางเน็ตฟลิกซ์และกล่องแอนดรอยด์เป็นวิถีชีวิตใหม่ หรือ “นิวนอร์มอล” เลยมีหนังที่ไม่ใหม่นักอยู่ในลิสต์ที่ยังไม่ได้ดู

และตอนนี้ได้ดู The Invention of Lying ของดาราตลกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่หลายคนอาจยังเรียกชื่อไม่ถูก คือ ริกกี้ เกอร์เวส์ ซึ่งทั้งร่วมเขียนบท ร่วมกำกับฯ และแสดงนำไปพร้อมๆ กัน

และหนังเรื่องนี้เข้ามาถูกจังหวะพอดี ในโลกที่เต็มไปด้วยการโกหกคำโตคำเล็กที่ว่อนอยู่ในโลกไซเบอร์จนแยกไม่ออกว่าอะไรจริงอะไรลวง เพราะผู้คนก็ปั้นเรื่องมดเท็จหลอกให้คนเชื่อกันได้ง่ายๆ โดยอาจหวังผลทางการเมือง ทางโฆษณา หรือการโจมตีคู่ต่อสู้…

จะเกิดอะไรขึ้นในโลกที่มีแต่การพูดความจริงล้วนๆ และการโกหกเป็นเรื่องเหนือคาด ไม่มีใครนึกฝัน และนึกไม่ออกว่าจะทำได้อย่างไรและทำไปทำไม

ใครคิดอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้นแบบปากไม่มีหูรูด และผู้คนไม่ได้โกรธเคืองกันจากความจริงที่แสลงหู แต่แน่นอนว่าย่อมอดหดหู่ไปกับความจริงนั้นไม่ได้

 

มาร์ก เบลลิสัน (ริกกี้ เกอร์เวส์) หนุ่มร่างตุ้ยนุ้ย นักเขียนบทภาพยนตร์ของโปรดักชั่นเฮาส์ที่สร้างเรื่องสารคดีจากประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

แน่นอนว่าในโลกที่ไม่มีการโกหกนี้ หนังที่สร้างออกมาย่อมทำมาจากความจริง ไม่ใช่นิยายที่แต่งขึ้นจากการมโนไปเอง…เนื่องจากจินตนาการนั้นเป็นความเพ้อฝัน และไม่ใช่ความจริง

มาร์กกำลังจะถูกไล่ออกจากงาน เนื่องจากผลงานไม่เข้าเป้า บทหนังที่เขาเขียนชวนหดหู่อย่างยิ่ง…ก็จะไม่ชวนหดหู่ได้อย่างไร ถ้าหัวข้อที่ได้รับมอบให้เขียนคือ “กาฬโรค”

เขามีเดตกับแอนนา (เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์) สาวสวยผู้ประสบความสำเร็จในงานอาชีพ ซึ่งเนื่องจากเธอพูดแต่ความจริงล้วนๆ เธอรับนัดเขาด้วยความสงสารเพราะเห็นแก่คำขอร้องของเพื่อน แต่ก็จะเป็นนัดครั้งเดียวที่ไม่นำไปสู่ความสัมพันธ์ขั้นต่อไป เพราะเขาอ้วน หน้าตาไม่เข้าขั้น (เธอกลัวว่าถ้าแต่งงานกันไป พันธุกรรมทางด้านเขาจะทำให้ลูกเธอเป็นเด็กอ้วนและจมูกแด่นรั้นเหมือนเขา นอกจากนั้น เขายังถูกใครๆ ประณามว่า “ขี้แพ้” ขณะที่เธอประสบความสำเร็จอย่างสูงทางเศรษฐกิจและหน้าที่การงาน

พูดสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความคือ เขากับเธออยู่กันคนละชั้น ไม่สมควรคบหาสมาคมทางด้านชู้สาวกันต่อไป

แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้มาร์กหดหู่…ทว่าในโลกที่ผู้คนพูดกันแต่ความจริง ไม่มีอะไรนอกจากความจริงล้วนๆ มาร์กก็เถียงไม่ออก และจะพาลไปโกรธคนที่พูดความจริงก็ไม่ได้

แต่…เรื่องราวทั้งหมดกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อมาร์กเริ่มพูดไม่จริง…ทีละเล็กทีละน้อย

เมื่อเขาตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง และเจ้าของบ้านกำลังจะไล่เขาออกไป

แรกทีเดียวมาร์กก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เขาถูกถามจำนวนเงินที่เขาต้องการถอนจากบัญชี ขณะที่ระบบคอมพิวเตอร์ล่มอยู่ชั่วคราว มาร์กโกหกซึ่งๆ หน้าโดยบอกจำนวนเงินมากกว่าที่เขามีอยู่จริงในบัญชี และเนื่องจากในโลกนี้ไม่มีใครเคยพูดไม่จริง พนักงานจึงเชื่อคำพูดของเขาโดยไม่มีข้อสงสัย ได้แต่เชื่อว่าเกิดความผิดพลาดในตัวเลขที่ปรากฏอยู่ในบัญชี

คำโกหกของมาร์กยังช่วยให้คนรู้จักเลิกคิดจะฆ่าตัวตาย และช่วยเพื่อนรักให้พ้นจากการถูกตำรวจจับในข้อหาขับรถระหว่างความมึนเมา

นักแสดงระดับแนวหน้าปรากฏหน้าออกมาในบทเล็กบทน้อยแค่ฉากสองฉาก เป็นกับแกล้มและสีสันให้แก่หนังมากหน้าหลายตา

อาทิ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เป็นตำรวจ เจสัน เบทแมน เป็นหมอ ฟิลิป เซย์มอร์ ฮอฟแมน เป็นบาร์เทนเดอร์ โจนาห์ ฮิลล์ เป็นหนุ่มที่กำลังหาวิธีฆ่าตัวตาย ทีน่า เฟย์ เป็นเลขาฯ หน้าห้องที่ปากกับใจตรงกันเป็นที่สุด หลุยส์ ซี.เค. เป็นเพื่อนรักของมาร์ก และร็อบ โลว์ เป็นหนุ่มหล่อคู่แข่งคู่อริของมาร์ก

 

การโกหก หรือการเสกสรรปั้นเรื่องขึ้น ยังทำให้มาร์กกลับมามีอาชีพการงานที่รุ่งโรจน์ดังระเบิด เพราะบทหนังเรื่อง “กาฬโรค” ของเขากลายเป็นเรื่องราวที่สนุกสนานชวนติดตาม

ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา ผู้คนก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และตอบสนองอย่างเหนือคาด

เรื่องราวเลยเถิดไปอีก เมื่อมีคนแอบได้ยินมาร์กปลอบใจแม่ที่กำลังจะสิ้นใจ ซึ่งกำลังนึกหวาดหวั่นกับความตายอันน่าหดหู่และโดดเดี่ยวอย่างที่กำลังจะต้องเผชิญ

มาร์กทำให้แม่เขาเชื่อในโลกอันสวยงามที่รอเธออยู่ภายหลังความตาย และทำให้เธอเผชิญหน้ากับความตายอย่างสุขสงบและจากไปด้วยรอยยิ้มละไมแสนสุข

ให้เผอิญว่าหมอและพยาบาลแอบได้ยินคำเสกสรรปั้นแต่งของมาร์กที่พูดปลอบใจแม่ และเชื่อเป็นตุเป็นตะว่านั่นคือความจริง

…มาร์กได้รู้ในสิ่งที่ไม่มีมนุษย์คนไหนล่วงรู้มาก่อน

“ชายบนฟ้า” ผู้ควบคุมและจัดการทุกสิ่งทุกอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ปรากฏตัวมาพูดกับมาร์กเป็นการส่วนตัว

มาร์กจึงกลายเป็น “ศาสดาพยากรณ์” ไปโดยไม่รู้ตัวและแทบตั้งเนื้อตั้งตัวไม่ทัน

 

อดไม่ได้เลยค่ะ ที่จะต้องพูดถึง “การวางสินค้า” (product placement) ในหนัง ในหนังฮอลลีวู้ดที่ทำท่าจะฮิตติดตลาด เราเห็นการวางสินค้าอยู่บ่อยๆ เช่น ให้พระเอกสูบบุหรี่ยี่ห้อนี้ยี่ห้อนั้น ให้ดื่มเครื่องดื่มยี่ห้อนี้ยี่ห้อนั้น หรือให้ไปช้อปปิ้งที่ร้านแบรนด์เนม ฯลฯ

สารพัดสารพันจะจัดวางสินค้าเพื่อให้ผ่านตาผู้บริโภคที่เป็นแฟนหนัง จะเพื่อสร้างความชื่นชอบ หรือสร้างความรับรู้ก็แล้วแต่

มีการวางสินค้า “โค้ก” ในลักษณะการโฆษณาที่ผู้โฆษณาต้องพูดแต่ความจริงเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งเป็นมุขที่โดนมากค่ะ

อันที่จริง ไอเดียเรื่องการ “โฆษณา” คงทำไม่ได้ในโลกที่มีแต่การพูดความจริง และหนังมีวิธีการนำเสนอที่สร้างความขำขันอย่างยิ่ง รวมทั้งคำ “แนะนำสินค้า” ของคู่แข่งของโค้กคือ เป๊ปซี่ ด้วย…สงสัยอยู่ว่าเป๊ปซี่ต้องจ่ายเงินเป็นค่าวางสินค้าในหนังหรือเปล่าก็ไม่รู้

แต่สินค้าที่ต้องจ่าย “ค่าวางสินค้า” ในหนังแน่ๆ คือ พิซซ่าฮัท ค่ะ

และเป็นการวางสินค้าที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ยี่ห้ออย่างนึกไม่ถึงเลยเชียวค่ะ

กล่องกระดาษแข็งที่มีตราพิซซ่าฮัท กลายเป็นเหมือนศิลาจารึกบัญญัติสิบประการของโมเสสเลยละ…จี้เส้นสุดๆ…

 

ที่เล่ามาเยอะแยะนี่ ยังไม่ได้เข้าสู่รายละเอียดของพัฒนาการความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวเลยนะคะ

จะว่าไปก็ยังไม่มีอะไรที่เป็นสปอยเลอร์สำหรับโรแมนติกคอเมดี้ขำขันเรื่องนี้ นอกจากการพูดถึงพระเอกกับนางเอก…

ขอแนะนำค่ะสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะตลก อบอุ่น และชวนคิดอีกต่างหาก

กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)