มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

หมู่บ้านริมคลอง บางตะบูน

 

ขออนุญาตมอง บ้านปากอ่าวบางตะบูน ต่อ เพราะไหนๆ ก็ได้ออกบ้านไปมองอะไร หลังจากอยู่บ้านช่วยชาติมาหลายเดือน

หลังจากกินหอยลายรสเด็ดหลายรายการ ยังมีรายการนั่งเรือออกไปชมฟาร์มหอยกลางทะเล ก่อนที่จะวกกลับมาชมบรรยากาศริมคลอง

บังเอิญไม่ได้เป็นชาวเทศ ที่ถูกหลอกด้วยภาพสวยงามของหมู่บ้านริมน้ำจำลองในสวนสนุก หรือตลาดน้ำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

บังเอิญไม่ได้เป็นชาวไทยที่ถูกครอบด้วยภาพจำของหมู่บ้านริมคลองริมแม่น้ำในอดีต ที่มีแค่วัดโบราณ บ้านเรือนหรือเรือนแถวไม้ และพืชพันธุ์ไม้เท่านั้น

บังเอิญเป็นคนกรุงเทพฯ จึงเห็นภาพคุ้นตา ภาพเขื่อนคอนกรีตสูง หรือภาพหลังบ้าน ที่เจ้าของย้ายที่อยู่และที่ทำมาหากินจากริมน้ำ ไปอยู่ริมถนน

บังเอิญภาพริมคลองปากอ่าวบางตะบูนนั้น ต่างออกไป แม้ไม่สวยงามเหมือนในแผ่นป้ายหรือคลิปโฆษณาการท่องเที่ยว แต่ก็ไม่มีเขื่อนสูง และยังพอมีเรือนไม้เรือนแถวเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย

แต่น่าจะเป็นภาพชุมชนริมน้ำแห่งปัจจุบันสมัย

 

อาคารบ้านเรือนจึงไม่ได้มีรูปแบบเรือนไทยประเพณีหรือเรือนไทยประยุกต์ ที่อาจารย์สอนกันในมหาวิทยาลัย หรือโรงเรือนไม้ที่อยู่ตามศูนย์การค้าและโรงแรม

หากมีรูปแบบทันสมัย บางหลังยังเหมือนบ้านจัดสรรชานเมืองกรุงเทพฯ บางหลังเหมือนในแม็กกาซีนต่างประเทศ แต่ละหลังล้วนก่อสร้างด้วยวัสดุสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต กระจก หลังคาเหล็กแผ่น กระเบื้องซีเมนต์สีฉูดฉาด ไม่แพ้สีสันที่ใช้ทาอาคาร

เช่นเดียวกับร้านค้าร้านอาหาร ที่มีรูปแบบและขนาดต่างๆ ยังมีโฮมสเตย์ รีสอร์ต หอพัก ประปราย หลายบรรยากาศ

ด้วยเป็นท่าเรือประมง ริมคลองจึงมีอู่เรือ โรงเรือน แพปลา แพหอย โรงงานแปรรูปอาหารทะเล

ยังไม่นับโรงเผาถ่านไม้โกงกาง ที่ยังมีให้เห็น เช่นเดียวกับร้านสรรพสินค้า เรือสะดวกซื้อ หรือเรือเซเว่น

แม้แต่วัดวาอาราม ก็มีอาคารสิ่งก่อสร้างทันสมัยและใหญ่โต ตั้งแต่พระวิหาร ศาลา กำแพงวัด และซุ้มประตู ไม่ต่างไปจากวัดในกรุงเทพฯ

 

ภาพรวมของหมู่บ้านริมน้ำที่เห็น น่าจะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของบ้านเมือง เหมือนกับที่ปรากฏริมถนน และทางหลวง และริมทางน้ำเมืองอื่น ที่ยังมีการใช้สอย

ภาพที่ปรากฏ อาจไม่ถูกจริตนักวิชาการหรือนักอนุรักษ์ ที่ยังลุ่มหลงอยู่กับอดีต ยังยึดมั่นกับสิ่งที่รับรู้มาจากเมืองฝรั่ง และยังปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นจริง ตามกาลเวลา

ภาพที่ปรากฏ ยังแปลกต่างไปจากบ้านเมืองอื่นในต่างประเทศ ที่มีสภาพเดิม เพราะความจำเป็นทางเศรษฐกิจ เพราะถูกควบคุมอย่างเข้ม เพราะมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เพราะทำตามๆ กัน

ภาพที่ปรากฏ อาจไม่ถูกใจสถาปนิกหรือนักผังเมือง ที่ยังติดตาจดจำทฤษฎีที่เรียนมา ยังชื่นชอบตอนเที่ยวต่างประเทศ จึงโหยหาแต่ลานคอนกรีต ทางจักรยาน และสวนไม้พุ่มและดอกหญ้า

ภาพที่ปรากฏ แม้จะเป็นภาพไม่คุ้นเคยสำหรับผู้เขียน คงเป็นภาพแปลกตาสำหรับคนต่างถิ่น

แต่ภาพที่ปรากฏ สื่อถึงความคึกคักทางเศรษฐกิจ ความมีชีวิตชีวาของชุมชน และการรับรู้ถึงความงามความเหมาะสมแบบไทย

และที่สำคัญ แสดงความเป็นอิสระชนของคนไทย ที่รู้ว่าตอนไหนควรมีวินัย หรือต้องปฏิบัติอย่างไร

ถ้าไม่เชื่อ ดูตอนเกิดวิกฤตโควิด-19 ต่างชาติต่างๆ ต้องยอมยกนิ้วให้

กว่า 12 ปี ของการจัดงาน Healthcare เครือมติชนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ส่งต่อความรู้และให้บริการสุขภาพแก่คนไทยในทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ดูแล และรักษา โดยเฉพาะการบริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำ เวิร์กชอป ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ รวมถึงการยกระดับเวทีเสวนาให้เป็น “Health Forum” เปิดเวทีให้แพทย์ และ Speaker ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยถึงแนวทางการป้องกัน การรักษา และนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงเรื่องราวสุขภาพในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาให้อัปเดตตลอด 4 วันของการจัดงาน เดินทางสะดวกโดยทางด่วนและ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2
ลงทะเบียนเข้างานฟรี มีต้นไม้แจกด้วยนะ (จำนวนจำกัด)

• ลงทะเบียนเข้างาน รับต้นไม้ฟรี (จำนวนจำกัด) ลิงก์ลงทะเบียน   
• ลงทะเบียน workshop ฟรี ลิงก์ลงทะเบียน