ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 สิงหาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | คนของโลก |
เผยแพร่ |
“เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่น้องชาย เขาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผม” ทรัมป์ระบุถึงน้องชายคนสุดท้อง ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 71 ปี
โรเบิร์ต น้องชายคนสุดท้องของพี่น้องตระกูลทรัมป์ทั้งหมด 5 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบนเกาะแมนฮัตตัน ด้วยอาการป่วยที่ไม่มีการเปิดเผย
โดยทรัมป์พี่ชายวัย 74 เพิ่งจะเข้าไปเยี่ยมโรเบิร์ตก่อนที่จะเสียชีวิตเพียง 1 วันเท่านั้น
โรเบิร์ตได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกครอบครัวทรัมป์ที่เก็บเนื้อเก็บตัวและไม่ชอบออกสื่อมากที่สุด
แต่เขาก็ต้องตกเป็นข่าวโด่งดังในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อโรเบิร์ตยื่นฟ้องศาลเพื่อให้ระงับการตีพิมพ์หนังสือที่แมร์รี่ ทรัมป์ หลานอาของโรเบิร์ต เขียนเล่าเรื่องราวโจมตีครอบครัวรวมไปถึงตัวโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเอง
หนังสือดังกล่าวมีชื่อว่า “Too Much and Never Enough : How My Family Created the World”s Most Dangerous Man” หรือแปลเป็นไทยว่า “มากเกินไปและไม่เคยพอ : วิธีที่ครอบครัวของฉันสร้างชายที่อันตรายที่สุดในโลก”
หนังสือที่ผู้จัดพิมพ์เขียนคำอธิบายเอาไว้ว่าเป็นการ “เปิดเผยตัวตนของโดนัลด์ ทรัมป์ และครอบครัวเป็นพิษที่สร้างเขาขึ้นมา”
โรเบิร์ตเรียกร้องให้มีการหยุดตีพิมพ์หนังสือดังกล่าวได้เป็นการชั่วคราว โดยเขาระบุเอาไว้ในแถลงการณ์ที่ส่งให้นิวยอร์กไทม์ส ว่า “มันน่าผิดหวัง” ที่หลานของตนตัดสินใจตีพิมพ์หนังสือดังกล่าว
และว่า “ความพยายามของเธอในการเติมแต่งและสร้างลักษณะเฉพาะของความสัมพันธ์ในครอบครัวตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพื่อเงินเข้ากระเป๋าตัวเองนั้นมันเป็นการดูแคลนและไม่ยุติธรรมกับพี่ชายของผม เฟรด (พ่อของแมร์รี่ผู้ล่วงลับ) และพ่อ-แม่ของพวกเราด้วย”
“ผมและสมาชิกครอบครัวที่เหลือทั้งหมดภูมิใจในตัวพี่ชายของผมท่านประธานาธิบดี และรู้สึกว่าการกระทำของแมร์รี่นั้นเป็นสิ่งที่น่าขายหน้าจริงๆ” โรเบิร์ตระบุ
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายศาลยกคำร้องของโรเบิร์ต และเปิดทางให้มีการตีพิมพ์หนังสือดังกล่าวออกมาได้ในที่สุด และกลายเป็นหนังสือที่ขายได้หลายล้านเล่มตั้งแต่วันแรกที่วางแผง
โรเบิร์ตเกิดในปี 1948 เป็นน้องคนสุดท้องของ 5 พี่น้องครอบครัวทรัมป์ โดยทรัมป์เป็นพี่ชายคนกลาง
โรเบิร์ตเคยทำงานในสถาบันการเงินในวอลล์สตรีต ก่อนที่จะมาร่วมบริหารงานใน Trump Organization ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว
แม้โรเบิร์ตจะเป็นคนที่ไม่ชอบออกสื่อแต่ก็เคยเป็นข่าวโด่งดังในช่วงหลังปี 2000 จากข่าวคราวการหย่าร้างกับเบลน ทรัมป์ ภรรยาที่อยู่กินกันมาเป็นเวลานานถึง 25 ปี กลายเป็นข่าวซุบซิบในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
หลังจากนั้น โรเบิร์ตหายหน้าไปจากหน้าสื่อ ใช้ชีวิตวัยเกษียณกับภรรยาใหม่อย่างแอนน์ มารี พัลแลน อดีตเลขาฯ ส่วนตัว ที่ครอบครัวของเธอก็เป็นเจ้าของรีสอร์ตแอนด์สปาชื่อดังในนิวยอร์กมาเป็นเวลาหลายสิบปี
เพื่อนบ้านในมิลล์บรูก ที่พักของโรเบิร์ต ระบุว่า โรเบิร์ตแม้จะค่อนข้างเก็บตัวแต่ก็แสดงออกถึงความเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านและชุมชน
ร่วมบริจาคให้ความช่วยเหลือกับธุรกิจในท้องถิ่นรวมถึงมีส่วนร่วมในงานการกุศล
“เขาไม่ได้เป็นคนติดหรูเลย” เพื่อนบ้านที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุ และว่า “ตรงๆ เลยนะ เขาแตกต่างกับพี่ชายเขาสุดๆ เลย ผมคิดไม่ออกเลยว่าเขาอยู่ครอบครัวเดียวกันได้ยังไง” ขณะที่พนักงานของ Trump Organization ระบุถึงโรเบิร์ตเอาไว้ว่าเป็น “ทรัมป์ที่นิสัยดี”
แม้โรเบิร์ตและทรัมป์จะมีข่าวว่าห่างเหินกันไป แต่ในช่วงการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของทรัมป์ในปี 2016 โรเบิร์ตร่วมเป็นหนึ่งในทีมหาเสียงที่สนับสนุนทรัมป์อย่างเต็มที่
“ผมสนับสนุนทรัมป์หนึ่งพันเปอร์เซ็นต์เลย” โรเบิร์ตระบุกับนิวยอร์กโพสต์ในเดือนมกราคมปี 2016 และว่า “ผมคิดว่าเขาทำได้ดี ผมคิดว่าเขามีข้อความที่ต้องการสื่อที่ยอดเยี่ยม”
ขณะที่ทรัมป์เคยพูดถึงโรเบิร์ตเอาไว้ว่าเป็นคน “พูดแบบนุ่มนวลและเป็นคนง่ายๆ” และว่า “เขาเป็นคนเดียวในชีวิตที่ผมเคยเรียกเขาว่าที่รัก”
ล่าสุดทรัมป์พูดถึงน้องชายเป็นครั้งสุดท้ายว่า
“เขาไม่ใช่เพียงแค่น้องชายเท่านั้น แต่เขาเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด แม้เขาจะเป็นที่คิดถึงอย่างสุดซึ้ง แต่วันหนึ่งเราจะได้พบกันอีกครั้ง ความทรงจำของเขาจะอยู่ในใจของผมตลอดไป โรเบิร์ต ชั้นรักนาย ขอให้หลับให้สบาย” ทรัมป์ระบุ