ไม่พร้อมเปิดตัว

นางเอกสาวสวย ฝีมือการแสดงระดับยอดเยี่ยม “จั๊กจั่น” อคัมย์สิริ สุวรรณศุข อยู่ในวงการมายาวนานถึง 18 ปี มีผลงานดีๆ ออกมาให้ชมกันมากมาย

ล่าสุดโดดมารับบท “ปลิวลม” ในละคร “สะใภ้ไร้ศักดินา” งานรีเมกที่เวอร์ชั่นก่อนทำไว้ได้ดีมาก สร้างกระแสละครฮิต เพลงฮอตไปทั่วบ้านทั่วเมือง

และแม้ละครยังไม่ทันออกอากาศสาว “จั๊กจั่น” ก็เจอดราม่าเล็กๆ ถูกจับไปเปรียบเทียบกับ “ปลิวลม” เวอร์ชั่นก่อน ที่รับบทโดยสาว “เบนซ์ พรชิตา” โดยมีกระแสว่าเธอแก่เกินกว่าจะรับบทดังกล่าว

งานนี้สาวสวยบอกเลยว่า เวอร์ชั่นของสาว “เบนซ์” ตัว “ปลิวลม” จะอายุน้อย อยู่ราวๆ 19 ปี แต่ในเวอร์ชั่นของเธอ ปรับเปลี่ยนให้มีอายุเยอะขึ้นมาอยู่ที่ 27 ปี ดังนั้น ย่อมมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว

สำหรับเรื่องการเปรียบเทียบแบบนี้ เธอเองไม่ค่อยกดดันเท่าไร เพราะที่ผ่านมาก็เคยเจอความกดดันทำนองนี้จากละครเรื่องก่อนๆ มาแล้วหลายครั้ง และขอให้ลองเปิดใจดูกันก่อน

เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งปิดใจ รอดูการทำงานในครั้งนี้ของเธอ เพราะที่ผ่านมาสาว “จั๊กจั่น” ไม่เคยทำให้ผิดหวังในทุกบทบาทของการแสดง!!

เรื่องงานมีมาให้ดูกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องความรักอาจจะดูเงียบเชียบอยู่สักหน่อย

เพราะสาวสวยได้ชื่อว่าไม่ค่อยเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ซึ่งเจ้าตัวเคยให้เหตุผลว่าไม่ได้อยากปิดหรือเปิดอะไร ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ มีคนคุยเมื่อไรก็พร้อมบอก

“จั๊กจั่น” เป็นโสดมายาวนาน 10 กว่าปี หลังเลิกรากับหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม”

เคยมีแค่ข่าวเปลี่ยนแนวไปชอบสาวหล่ออยู่ช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายไม่ใช่ เป็นเพียงคนรู้จัก ซึ่งสาวจั่นยืนยันว่ายังชอบผู้ชายเหมือนเดิม

และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอก็บอกว่ามีหนุ่มๆ แวะเวียนมาขายขนมจีบอยู่เรื่อยๆ แต่ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกับใคร

แต่ตอนนี้สาวสวยมีแฟนแล้ว คบหากันมาได้ 2 ปี โดยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ความรักตอนนี้ก็แฮปปี้ดี แต่ยังไม่พร้อมเปิดตัวออกสื่อ แต่เปิดตัวในกลุ่มเพื่อนๆ แล้ว

“ไปทำบุญวันเกิดปกติ ไปกับเพื่อนๆ ปกติไม่มีอะไร คืออย่างที่บอกไปว่าไม่ได้ปิดนะ แต่ว่าอยากให้มันเป็นไปตามสเต็ปธรรมชาติ ต่างคนต่างเรียนรู้กัน เพราะว่าเราจะได้เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด รู้ว่าเขายอมรับเราได้ไหม เรายอมรับเขาได้ไหม แค่นั้นเอง ก็มีพากันไปทำบุญอยู่เรื่อยๆ เหมือนเวลาคบใครก็ไปตามปกติ”

คบกันมา 2 ปี ไม่ใช่เวลาน้อยๆ เมื่อถามว่าต้องมีอะไรปรับกันอีกไหม สาวจั่นบอกว่า ก็ค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความที่รุ่นราวคราวเดียวกัน เพื่อนๆ ก็รุ่นเดียวกัน ก็อาจจะไม่ได้มีอะไรมาก มีแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้นที่ต้องเรียนรู้ในเรื่องของการทำงาน

เรื่องไลฟ์สไตล์ก็ค่อนข้างโอเค เพราะด้วยความที่ไม่ได้ต่างกันมาก ทั้งช่วงอายุ หรือว่าความคิด เลยชิลชิลสบาย

เมื่อถามย้ำให้ชัดกันอีกทีว่า เรียก “แฟน” ได้แล้วใช่ไหม เจ้าตัวบอกเลยว่า

“ก็ใช่ เป็นผู้ชายที่สนิท คือไม่ได้ปิด แค่อย่างที่บอกว่าอยากเรียนรู้กันไป ด้วยความที่อีกฝ่ายไม่ใช่คนในวงการ เลยอยากให้เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ จะได้เรียนรู้กัน ในแบบที่เป็นตัวเอง ไม่ใช่ว่าไปไหนแล้วต้องระวัง จนกลายเป็นไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็อย่างที่บอกไป ถ้าพร้อมเมื่อไหร่บอกแน่นอน แต่ว่าไปไหนมาไหนก็คือไม่ได้ปิด ปกติ เป็นความสบายใจของเราทั้งคู่ ตอนนี้ก็แฮปปี้ค่ะ”

เรียกว่าค่อยๆ เรียนรู้ศึกษากันไป ไม่รีบร้อนกับความรักครั้งนี้