เหตุการณ์ที่ลานพญานาค ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 10 สิงหาคม 2563

และเหตุการณ์ ณ ลานปรีดี พนมยงค์ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 16 สิงหาคม 2563

น่าบันทึกไว้อย่างยิ่ง

ด้วย ณ ลานพญานาค เราได้เห็นเหล่า “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ประกาศ 10 ข้อทะลุเพดาน ที่น้อยครั้งนักจะเกิดขึ้นในสังคมไทย

แต่อีก 6 วันต่อมา

เราได้เห็นตัวละครสำคัญ ที่ถูกสถานการณ์ในวันที่ 10 สิงหาคม ผลักดันให้ยืนกันคนละข้าง

มายืนเคียงข้างกัน ณ ลานปรีดี พนมยงค์

ในวาระ 75 ปีวันสันติภาพไทย และรำลึก 120 ปี ชาตกาล ปรีดี พนมยงค์

รศ.เกสินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ที่เพิ่งถูกกดดันโดยฝ่าย “อนุรักษนิยม” ให้ลาออก โทษฐานปล่อยให้มีกรณี 10 สิงหา

กล่าวเปิดงาน มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า

นายปรีดีและธรรมศาสตร์มีความเกี่ยวข้องอย่างแนบแน่นทางประวัติศาสตร์ในวันสันติภาพไทย ที่ประกาศเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2488

คำว่าสันติภาพ หมายถึงสภาวะที่คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

ด้วยการถือความหลากหลายเป็นความงาม เป็นการเติบโต

โดยต้องร่วมกันเกื้อหนุนสันติภาพให้เกิดขึ้นทั้งระดับปัจเจกและส่วนรวม

ผ่านกระบวนการการแลกเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ ให้เป็นปัญญารวมหมู่ของสังคม

อย่างไรก็ตาม สันติภาพไม่ใช่ของง่าย

แต่ต้องแลกมาโดยการถือประโยชน์ส่วนรวมเหนือส่วนตัว มีความอดกลั้น เข้าใจคนเห็นต่าง สันติภาพจะเกิดขึ้น

เมื่อมีเมตตา อยากเห็นผู้อื่นมีความสุข เห็นใจ เอื้ออาทร อดทนต่อความเห็นต่าง ให้อภัยกัน เพื่อให้สังคมเดินหน้า

สันติภาพจึงย่อมเกิด

ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี

ซึ่งก็ถูกพาดพิง จากกรณี “10 สิงหา” เช่นกัน

ได้มาเป็นประธานในพิธีนี้

และกล่าวในงานว่า วันสันติภาพไทย 16 สิงหาคม 2488 มีที่มาจากปฏิบัติการสันติภาพอันสืบเนื่องจากปฏิบัติการเสรีไทย ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2

ทำให้ไทยไม่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงคราม ดำรงความเป็นเอกราชจนถึงทุกวันนี้

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484-16 สิงหาคม 2488

กลุ่มเสรีไทย ซึ่งมีนายปรีดีเป็นหัวหน้า ใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นศูนย์กลางการบัญชาการลับ ประสานงานกับสัมพันธมิตร และเสรีไทยทั้งในและต่างประเทศ

จึงกล่าวได้ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งทางกายภาพและบุคลากรมีส่วนสำคัญในการพิทักษ์ ปกป้อง รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญ

จึงเชิญชวนให้ร่วมรำลึกถึงคุณูปการของเสรีไทย

ซึ่งเป็นแบบอย่างในการอุทิศตนให้กับอิสรภาพของไทยและสันติภาพโลก

ถือเป็นภาพในสันติ

ท่ามกลางบรรยากาศทะลุเพดาน

ภาพเช่นนี้จะสืบเนื่องต่อไป

เพื่อร่วมแก้วิกฤตการเมืองของประเทศหรือไม่

คำตอบคงไม่อยู่แค่ในสายลม!