ต่างประเทศอินโดจีน : อุโมงค์การเมือง!

การเมืองมาเลเซียเริ่มขมวดเงื่อนปมครั้งใหม่ให้เขม็งเกลียวมากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังจากรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งถูกชาวมาเลย์ส่วนหนึ่งกล่าวหาว่ามาจากการ “รัฐประหาร” ในพรรค ตั้งข้อหาคอร์รัปชั่นให้กับลิม กวนเอ็ง อดีตรัฐมนตรีคลังของประเทศ

ลิม กวนเอ็ง เป็นหัวหน้าพรรคกิจประชาธิปไตย (ดีเอพี) หนึ่งในพรรคร่วมพันธมิตรที่เรียกตัวเองว่าปากาตัน ฮารัปปัน ที่ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้ว ก่อนจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของมหาธีร์ โมฮัมหมัด

มหาธีร์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ลิมก็กลายเป็นรัฐมนตรีคลัง เมื่อมูยิดดิน ยัสซิน ลูกพรรคของมหาธีร์ก่อ “รัฐประหาร” แล้วขึ้นเป็นนายกฯ

มหาธีร์กับลิมก็กลายเป็นอดีตไปโดยพลัน

 

ข้อหาหลักของลิมก็คือ เรียกรับสินบน 3.3 ล้านดอลลาร์ เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งมุขมนตรีรัฐปีนัง จากบริษัทก่อสร้างสัญชาติจีนชื่อเป่ยจิง เออร์บัน คอนสตรักชั่น กรุ๊ป หรือบียูซีจี แลกกับการเลือกให้เป็นผู้รับสัมปทานก่อสร้างอุโมงค์ใต้น้ำเชื่อมเกาะปีนังกับแผ่นดินใหญ่มาเลเซียความยาว 7.2 ก.ม. มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์

ถัดมาเป็นข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิด ฉ้อฉล ด้วยการเรียกเงินอีก 10 เปอร์เซ็นต์จากเซนิต บียูซีจี คอนซอร์เตียม ที่เกิดจากการลงทุนร่วมเพื่อบริหารจัดการโครงการแบบเทิร์นคีย์โครงการนี้

สุดท้ายคือข้อหาใช้อำนาจในทางที่ผิด ฉ้อฉล ในโครงการสร้างอาคารที่พักคนงาน ซึ่งโยงเอาเบตตี้ จิว ภรรยาของลิม มีส่วนร่วมด้วยความผิดฐานฟอกเงินเป็นข้อหาที่สาม

 

ลิมปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด เข้ามอบตัวเพื่อสู้คดีที่เขาเชื่อว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ “เอาคืน” ทางการเมืองหลังจากรัฐบาลของตนเล่นงานนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยข้อหาหลายสิบข้อหา เชื่อมโยงกับการคอร์รัปชั่นในกองทุนวันเอ็มดีบี

นาจิบเพิ่งถูกศาลพิพากษาจำคุก 12 ปี ปรับอีกเป็นเงิน 49 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง

ที่น่าสังเกตก็คือ โครงการอุโมงค์นี้เริ่มกันตั้งแต่ปี 2016 คนต้นคิดริเริ่มโครงการก็ไม่ใช่ใคร ตนกู นาจิบ ราซัก เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นเอง

อุโมงค์แห่งนี้ล่าช้ากว่ากำหนดมาแล้ว 2 ปีเป็นอย่างน้อย ทั้งๆ ที่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ และการเวนคืนที่ดินบางส่วนแล้วก็ตาม

จนเป็นเหตุให้กลายเป็นโครงการ “มหากาพย์” สำหรับชาวมาเลเซียไปแล้ว

 

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์อย่างหว่อง ชินฮวต จากมหาวิทยาลัยซันเวย์ เชื่อว่าการเล่นงานแกนนำพันธมิตรฝ่ายค้านครั้งนี้ ก็เพื่อ “ป้ายสี” ให้เห็นกันว่า รัฐบาลปากาตัน ฮารัปปันเองก็ไม่ได้ดีเด่หรือขาวสะอาดกว่ารัฐบาลนาจิบ ราซัก จากพรรคพันธมิตรอัมโน ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในเวลานี้

หว่องและผู้สันทัดกรณีการเมืองมาเลเซียอีกหลายคนเห็นตรงกันว่า คดีนี้อาจไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ ถ้าหากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีมูยิดดินไม่ตัดสินใจเตรียมจัดให้มีเลือกตั้งทั่วไปใหม่เร็วกว่ากำหนดถึง 3 ปี

รัฐบาลมาเลเซียชุดนี้ ดำรงอยู่ในสภาพง่อนแง่นเต็มที เพราะมีเสียงข้างมากเกินครึ่งเพียง 2 เสียง เสี่ยงต่อการเกิดรัฐประหารซ้อนขึ้นมาเมื่อใดก็ได้

ปัญหาอยู่ที่ว่า นักวิเคราะห์หลายคนไม่เชื่อว่าวิธีนี้ของรัฐบาลจะได้ผลอย่างที่ตั้งใจ

เห็นได้จากเมื่อแกนนำดีเอพี รณรงค์รับบริจาคหาเงิน 1 ล้านริงกิต เพื่อประกันตัวลิม กวนเอ็ง ออกมาจากการถูกควบคุมตัวตามคำสั่งศาล โดยขอรับบริจาคทั่วไป จำกัดคนละไม่เกิน 10 ริงกิตเท่านั้น

ผลลัพธ์ก็คือ โครงการที่ว่านี้จำเป็นต้องยุติภายใน 3 วัน เพราะนอกจากจะได้เงินประกันตัวลิม กวนเอ็ง เรียบร้อยแล้ว

ยังมีเงินเหลือไว้สำหรับการรณรงค์ทางการเมืองต่อไปอีก 1.9 ล้านริงกิตเลยทีเดียว