ทราย เจริญปุระ | โต และไม่โต ในเวลาเดียวกัน

“โดนมาขนาดนี้ เธอยังดูใจดี ยังดูเป็นเด็กน้อยหลงทางอยู่เลย” พี่คนหนึ่งเอ่ยปากหลังจากฟังฉันระบายความในใจแบบยืดยาวให้ได้ฟังเมื่อเจอกันล่าสุดสัปดาห์ที่แล้ว

จริงๆ แล้วฉันไม่ได้พิสมัยวัยเด็กของตัวเองมากมาย ไม่มีห้วงเวลาย้อนถึงความหลังพร้อมรำพันว่าอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจังนะ

ไม่มี

เพราะวัยเด็กก็ไม่ต่างอะไรจากวัยปัจจุบัน

ฉันทั้งโตขึ้นและไม่โตขึ้นเลยในเวลาเดียวกัน

อยู่ให้ได้เพราะอยู่ได้ ไม่ใช่อยู่เพราะชิน

อยู่อย่างรู้สึกกับมันนั่นแหละ แล้วก็ปรับไป แก้ไป

“ระหว่างร้าวรานของสองเด็กกึ่งหญิงกึ่งชาย รอยยิ้มร่วงพรูในวันแมวน่ารักแห่งชาติ ของสมาคมลับใต้ร่มชงโค”*

มันทั้งแสนเศร้าและชวนฝัน ทุกสิ่งดูเป็นไปได้

เราจะร้องไห้เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการ

และตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับสิ่งไร้สาระ ความคู่ควรอยู่ไกลโพ้นไปในอีกจักรวาล

อะไรก็คู่กันได้ทั้งนั้น

หรือต่อให้ไม่คู่กับอะไรเลย

ก็ยังสนุก

ใครบอกอะไรก็เชื่อว่าโลกดีงาม

และความรักไม่ใช่เรื่องต้องออกตามหา

เราฝันได้แม้ลืมตา

และเวลาเช้าไม่ได้ยาวนานจนต้องหลับรอ

เมื่อถึงเวลา มันจะมาเอง

เด็กๆ ไม่ได้ปฏิเสธความทุกข์

แต่รู้ว่ามันมีอยู่ตรงนั้นอย่างนั้น จริงพอๆ กับพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า พอๆ กับปลาทองในท้องอนิล พอกับผมสีชมพูเยลลี่ของยิหวา

“คนโตๆ ชอบคิดว่าตัวเองมีสิทธิพูดถามเด็กคนไหน เรื่องอะไรก็ได้ และชอบถามเอาทุกอย่างทั้งๆ ที่การมองดูก็ทำให้สามารถเห็นและรู้จักทุกอย่าง ขณะที่คำพูดคือจุดเริ่มต้นของการโกหก ยิ่งไปกว่านั้นพวกผู้ใหญ่ที่สอดรู้สอดเห็นเรื่องคนชาวบ้านไปทุกสิ่งอย่างและชอบถามโน่นถามนี่ตลอดเวลา ยังกลับทนเป็นฝ่ายถูกมองเห็นเต็มตาไม่ได้ มิหนำซ้ำยังชอบถามเรื่อยเปื่อย กระทั่งในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้สนใจใคร่รู้มากพอจะรอคอยคำตอบไหวอีกต่างหาก”*

ตัวละครหนึ่งที่ฉันชอบมากในเล่มนี้ เธอทั้งมีอยู่และไม่มีจริงในเวลาเดียวกัน คือแม่ของยิหวา

เด็กสาวอีกคน ที่ยังไม่ทันทิ้งฝันแต่ก็ต้องรับมือกับโลก

ตัวละครแบบถ้าปรับเสียงที่พูดถึงเพียงนิดเดียว ก็จะกลายเป็นเด็กใจแตกไร้ค่า เป็นตัวอย่างให้พ่อแม่หยิบมาใช้ขู่ลูก เป็นเหตุสอนใจในเสียงกระซิบกระซาบของคนรอบตัว

“”ฉันอยากเริ่มต้นใหม่อะหวา ฉันอยากไปจากตรอกบ้าๆ นี่ อยากมีผู้ชายมารัก มีชีวิตแบบที่ฉันไม่เคยมี” บางครั้งแม่จะบอก และยิหวาก็เข้าใจดี แม่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กหญิงอยู่เลยตอนมียิหวา การโหยหาชีวิตเยาว์วัยที่หายไปเป็นสิ่งเข้าใจได้–

ยิหวาไม่ได้โกรธที่แม่ทิ้งเธอไปออกติดตามหาความรัก แค่เสียใจที่แม่เลือกไปในวันสวยสดงดงาม และทำให้เธอน้ำตาไหลทุกครั้งที่เห็นแดดไสวระยิบระยับกับดอกไม้บานสะพรั่ง แต่ก็แค่บางครั้ง …แค่บางครั้งเท่านั้นหรอก

แค่เราน่าจะได้อยู่ด้วยกันสักชีวิตหนึ่งนะแม่จ๋า…

ไม่ก็สักแค่ครึ่งก็ยังดี”*

แต่ความรักก็เริ่มต้นในวัยเช่นนี้ วัยที่ความรักคือความรัก เพราะยังไม่รู้ว่าโลกนี้โหดร้ายได้มากขนาดไหน

และที่สุดของความร้ายนั้นก็คือใจของคนรอบตัวที่มองเข้ามา

ทะเลสาบน้ำตา เป็นกึ่งๆ นวนิยายกับเทพนิยาย เป็นเรื่องเล่าแบบไม่มีคำสอน เป็นเรื่องของเด็กที่ต้องเป็นผู้ใหญ่และผู้ใหญ่ที่สูญเสียวัยเด็ก เป็นเรื่องที่ทำให้เราหันกลับไปมองวัยที่ผ่านพ้นไปแล้ว

เป็นแฮนเซลและเกรเทลในโลกไร้แม่มด แต่เต็มไปด้วยผู้คน

เป็นเด็กแบบนั้น และจะเป็นไปตลอดกาล

It feels like a perfect night for breakfast at midnight

To fall in love with strangers

We”re happy, free, confused and lonely at the same time

It”s miserable and magical

Tonight”s the night when we forget about the heartbreaks

It”s time

I don”t know about you

But I”m feeling twenty-two

Everything will be alright, if

You keep me next to you

You don”t know about me

But I bet you want to

Everything will be alright, if

We just keep dancing like we”re twenty-two**

“ทะเลสาบน้ำตา” เขียนโดยวีรพร นิติประภา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 โดยสำนักพิมพ์อาร์ตี้เฮ้าส์ กรกฎาคม, 2563

*ข้อความจากในหนังสือ

**เพลง 22 โดย Taylor Swift