สุจิตต์ วงษ์เทศ / วงตีไก่ อุทัยธานี พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลม

หินตั้งเป็นวงกลมจากบ้านหินตั้ง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา (ลายเส้นจากหนังสือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย ของ ชิน อยู่ดี กรมศิลปากร พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2510)

สุจิตต์ วงษ์เทศ

วงตีไก่ อุทัยธานี

พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลม

 

วงตีไก่ อุทัยธานี พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลมตามความเชื่อในศาสนาผี ซึ่งมีทั้งอยู่ลานกลางชุมชนและอยู่นอกชุมชน เช่น ที่สูง ฯลฯ เพื่อทำเป็นแหล่งฝังศพหัวหน้าเผ่าพันธุ์และตระกูลคนชั้นนำ ขณะเดียวกันก็ใช้ทำพิธีกรรมเลี้ยงผีและมีการละเล่นประจำปีและประจำฤดูกาล

อุทัยธานี พบวงตีไก่อยู่กลางดงป่าห้วยขาแข้ง โดยมีคำบอกเล่าสืบต่อกันมาช้านานนักหนาว่าสมเด็จพระนเรศวรยกทัพผ่านมาในดงป่านี้แล้วโปรดให้พักทัพ บรรดาไพร่พลพากันคลายเหนื่อยเมื่อยล้าด้วยการตั้งค่ายล้อมวงเล่นชนไก่ตีไก่

วงตีไก่ หรือวงหินตีไก่ เป็นหินตั้งหรือกองหินรูปและขนาดต่างๆ จัดวางเรียงเป็นวงกลมตามความเชื่อในศาสนาผี มีเส้นผ่าศูนย์กลางของวงขนาดยาวพอสมควรตามต้องการของแต่ละพื้นที่ทั้งที่ราบและที่สูง

ต่อมาสมัยการค้าโลกเริ่มแรกมีรับวัฒนธรรมอินเดีย ทั้งศาสนาพุทธ-พราหมณ์ และมีการค้า “ของป่า” กว้างขวาง ทำให้ชุมชนหมู่บ้านมีพัฒนาการเติบโตเป็นเมือง มีการขุดคูน้ำและคันดินล้อมรอบเป็นขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ (แยกจากพื้นที่ในชีวิตประจำวันของคนชั้นนำ) โดยทำตามประเพณีสืบเนื่องความเชื่อในศาสนาผีดั้งเดิมเรื่องพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลมปักล้อมด้วยหินตั้งขนาดไล่เลี่ยต่างๆ พบหลักฐานสำคัญคือ เมืองบึงคอกช้าง อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี

แหล่งฝังศพรูปวงกลม ของพวกลัวะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ คล้าย “วงตีไก่” พบทั่วไปตามแนวหุบเขาทางตะวันตก รวมทั้งที่อุทัยธานี [จากหนังสือ From Lawa to Mon, from Saa’ to Thai. Historical and anthropological aspects of Southeast Asian social spaces by Georges Condominas, Published in Australia by the Department of Anthropology, Research School of Pacific Studies, The Australian National University, Canberra, 1990.]
บ้านเมืองหลังรับศาสนาจากอินเดีย สมัยการค้าโลกเริ่มแรก (ในวัฒนธรรมทวารวดี) หลัง พ.ศ.1000 มีขุดคูน้ำคันดินรูปวงกลมเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ (แยกจากพื้นที่ในชีวิตประจำวัน) เป็นประเพณีทำสืบเนื่องจากความเชื่อในศาสนาผีดั้งเดิมเรื่องพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลม แล้วปักล้อมด้วยหินตั้ง บางแห่งขุดคูน้ำรอบคล้าย “วงตีไก่” เช่น เมืองศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์, เมืองเสมา จ.นครราชสีมา และเมืองบึงคอกช้าง จ.อุทัยธานี [ภาพแผนผัง (โดยกรมศิลปากร) เมืองบึงคอกช้าง ต.ไผ่เขียว อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี]
 

แหล่งฝังศพชนชั้นนำ

วงตีไก่ อุทัยธานี เป็นพื้นที่พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลมเพื่อฝังศพของกลุ่มคนบนที่สูงเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ซึ่งสืบเนื่องจากประเพณีในวัฒนธรรมหินตั้งของชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมดึกดำบรรพ์หลายพันปี พบทั่วไปในภูมิภาคอุษาคเนย์ [เช่น เมืองถั่นหัว บริเวณอ่าวตังเกี๋ยในเวียดนาม คนตระกูลไท-ไต ใช้หินตั้งปักเป็นวงล้อมหลุมศพ (หนังสือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในไทย ของ ชิน อยู่ดี กรมศิลปากร พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2510 หน้า 82)] รวมทั้งพบในไทย แล้วยังสืบเนื่องประเพณีด้วยการปรับเปลี่ยนบางอย่างต่างไป แต่ความหมายคงอยู่เกี่ยวกับความตายของคนชั้นนำจนถึงสมัยหลังๆ เช่น

“ที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘วงตีไก่’ พบไหดินเผาสองใบและมีดสี่เล่ม เมื่อสํารวจภายในไหใบแรกพบโครงกระดูกมนุษย์ผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิง ส่วนไหใบที่สองเป็นโครงกระดูกเด็กในวัยประมาณ 15 ปี การฝังกระดูกในไหแบบนี้เป็นการนํากระดูกผู้ใหญ่เคลื่อนย้ายไปฝังไว้เป็นครั้งที่สอง (secondary adult jar burial) ซึ่งพบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดค้นได้นี้ ทําให้สันนิษฐานได้ว่าประเพณีการฝังกระดูกในไหภายหลังจากที่ได้ฝังศพไว้ที่อื่นเป็นเวลานานแล้วอาจกระทํากันตั้งแต่สมัยสุโขทัยหรือสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น และสันนิษฐานต่อไปได้ว่าประเพณีการฝนฟันบนของมนุษย์ในประเทศไทยได้เริ่มตั้งแต่ยุคหินใหม่เป็นต้นมา และสืบเนื่องมาถึงสมัยที่มีการฝังในรายงานนี้”

[จากบทความเรื่อง “การตรวจวัตถุและโครงกระดูกที่อยู่ในไหสองใบ ที่ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี” โดย สุด แสงวิเชียร, วัฒนา สุภวัน วารสารสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ [ปีที่ 13 เล่ม 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม) พ.ศ.2524]

ในไทยนอกจากอุทัยธานี ยังพบหลายแห่งเกี่ยวกับวัฒนธรรมหินตั้งเป็นวงกลม ชิน อยู่ดี (ถึงแก่กรรม) นักปราชญ์ทางโบราณคดีของไทย อดีตข้าราชการประจำกรมศิลปากร บอกไว้ ดังนี้ (1.) อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ (2.) อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน (ใกล้ ต.บ่อหลวง) มีคำบอกเล่าว่าเมื่อหัวหน้าลัวะตายจะนำหลักหินมาปัก (ไม่ใช่หลักไม้) ไว้ไม่ไกลจากหลุมศพ (3.) มีกระจาย 2 กลุ่ม บ้านหินตั้ง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา [จากหนังสือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในไทย พ.ศ.2510 หน้า 82]

พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์รูปวงกลม มี 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ (1.) เนินดินเดี่ยวรูปวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางราว 7-30 เมตร ขุดคูน้ำล้อมรอบ (2.) เนินดินหลายวงเป็นกลุ่มบนยอดเขามีขนาดใหญ่และน้อย (3.) เนินดินรูปวงกลม มีหินตั้งปักรอบ [จาก สุมิตร ปิติพัฒน์ อ้างในบทความเรื่อง “ของหรู ของหายาก จากบนยอดดอย” ของพิพัฒน์ กระแจะจันทร์ พิมพ์อยู่ในหนังสือ ศึกษาสิ่งของ เข้าใจผู้คน คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2560 หน้า 52-71]

หินตั้ง ในศาสนาผี ราว 3,000-2,500 ปีมาแล้ว คือ หินธรรมชาติเป็นก้อน, เป็นเท่ง, เป็นแผ่น ฯลฯ ใช้ปักดินหรือวางซ้อนกันเป็นเครื่องหมายบอกเขตเฮี้ยนหรือศักดิ์สิทธิ์ แบ่งแยกพื้นที่เป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. พื้นที่เฮี้ยน หรือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาผี 2. พื้นที่ไม่เฮี้ยน มีกิจกรรมของชาวบ้านทั่วไป

ครั้นต่อมาหลังรับศาสนาพุทธได้ปรับปรุงหินตั้งเป็น สีมา ปักรอบโบสถ์และอาคารอื่นๆ ทางพุทธศาสนา แล้วเรียกภายหลังว่า เสมาหิน

[ข้อมูลเกี่ยวกับอุทัยธานี ได้รับความกรุณาจากนักศึกษาค้นคว้าชาวอุทัยธานี ส่วนแผนผังเมืองบึงคอกช้าง ด้วยความกรุณาจากเอนก สีหามาตย์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร]