เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ฉันเคยเดินสัมภาษณ์คนบนท้องถนนเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อเซ็กซ์กับหุ่นยนต์

ไม่น่าแปลกที่คนส่วนใหญ่จะตอบว่าไม่มีทางที่จะมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์แน่นอน

เพราะมันไม่สามารถตอบสนองอารมณ์ความรู้สึกในแบบที่มนุษย์มีต่อมนุษย์ได้

แต่ฉันก็คิดเผื่อเอาไว้แล้วว่าการสัมภาษณ์แบบเห็นหน้าเห็นตากันน่าจะทำให้ฉันได้คำตอบที่แตกต่างจากการสัมภาษณ์แบบนิรนามที่ไม่ต้องผูกติดคำตอบเข้ากับตัวตนของตัวเองก็ได้

เวลาผ่านมาไม่นาน หุ่นยนต์กลายเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆ การแพร่ระบาดของโรคบังคับให้เราต้องเปิดพื้นที่ให้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยดูแลมากกว่าเก่า

ในขณะที่เซ็กซ์ทอยก็พัฒนาทางด้านเทคโนโลยีขึ้นไปจนบางชิ้นสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นหุ่นยนต์ได้เหมือนกันแม้ว่าจะไม่ใช่หุ่นยนต์ที่เรามักจะนึกภาพในจินตนาการ ว่าจะต้องมีหัว แขน ขา ไม่ต่างจากคน หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องเป็นหุ่นยนต์กลมๆ ปุ๊กๆ ปิ๊กๆ วิ่งไปวิ่งมา

และเมื่อถึงวันหนึ่งที่หุ่นยนต์กลายเป็นสิ่งที่แสนจะธรรมดาและเราไม่ได้ตื่นเต้นที่จะเห็นมันอีกแล้ว

คำตอบของหลายๆ คนที่บอกว่าจะไม่มีทางมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์ก็น่าจะต้องเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน

 

เซ็กซ์ทอยอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาเนิ่นนานกว่าที่เราคิด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือมนุษย์มักจะบอกว่าของเล่นเหล่านี้ไม่มีมิติของปฏิสัมพันธ์ที่จับต้องได้ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการในยามที่จะต้องแนบแน่นกับใครสักคนหรืออะไรสักอย่างในระดับที่ใกล้ชิดและลงลึกขนาดนั้น

สิ่งที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการที่ขาดหายไปได้นี้ก็คือ Erobotics หรือ erobots ซึ่งเกิดจากการผสมสองคำ คือ “อีโรติก” และ “โรบ็อต” เข้าด้วยกัน ชื่อของมันก็บ่งบอกหน้าที่ที่มนุษย์จะคาดหวังจากหุ่นยนต์ประเภทนี้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว

นี่คือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองรูปแบบความต้องการทางเพศของมนุษย์โดยเฉพาะ

อีโรบ็อตส์ไม่ได้เฉพาะเจาะจงหมายถึงหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนคล้ายๆ กับการนำตุ๊กตายางมาใส่กลไกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายความรวมถึงแชตบ็อตที่ทำหน้าที่พูดคุยยั่วยวนทางเพศกับมนุษย์ผ่านทางการแชต ไปจนถึงคู่นอนในแบบความจริงเสมือนหรือ Augmented Reality

เรียกว่าเทคโนโลยีโรบ็อตอะไรก็ตามที่ทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการลึกซึ้งของคนก็จะนับรวมอยู่ในหมวดหมู่ของอีโรโบติกส์ได้ทั้งหมด

 

หากใครได้ดูคลิปวิดีโอจากสำนักข่าวต่างประเทศบางช่องในช่วงหลังๆ ก็อาจจะได้เห็นรีวิวว่าตอนนี้สิ่งที่เรียกว่า เซ็กซ์โรบ็อตส์นั้น ได้พัฒนาก้าวไกลไปจนถึงขั้นที่ฉันเชื่อว่าหลายๆ คนจะไม่เกี่ยงที่จะ “ทดลอง” อีกต่อไป

แน่นอนว่ามันจะไม่ได้เหมือนมนุษย์ไปทุกรูขุมขน แต่ฉันคิดว่านั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ฉันเชื่อว่าในช่วงแรกหุ่นยนต์ประเภทนี้จะต้องทำให้คล้ายมนุษย์มากที่สุดเพื่อที่มนุษย์จะได้ยอมเปิดใจรับ

แต่เมื่อไปถึงจุดหนึ่งที่เราคุ้นเคยกับมันมากขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ได้มีองค์ประกอบภายนอกที่เหมือนเราขนาดนั้น แต่ความคาดหวังของเราจะค่อยๆ เปลี่ยนไป

จากที่เราคาดหวังว่ากำลังมีอะไรที่คล้ายๆ กับมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดเราน่าจะยอมรับมันในฐานะของการเป็นเซ็กซ์โรบ็อตส์ได้แบบไม่เรียกร้องความคล้ายมนุษย์อีกต่อไป

ถึงแม้ว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกว่าการพึ่งพาหุ่นยนต์มาตอบสนองเรื่องเซ็กซ์เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่สำหรับคนบางกลุ่มอาชีพ หุ่นยนต์อีโรติกเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้และอาจจะสำหรับในอนาคตต่อไปข้างหน้า

นั่นคือกลุ่มนักบินอวกาศค่ะ

 

นักบินอวกาศเป็นอาชีพที่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในที่แสนไกลโพ้นเป็นระยะเวลานาน แต่ถึงแม้จะเป็นมนุษย์ที่ย้ายตัวเองไปอยู่ในอวกาศ ก็ไม่ได้แปลว่าความต้องการในแบบมนุษย์จะถูกกดปุ่มหยุดเอาไว้ได้

ความต้องการทางเพศก็เช่นเดียวกัน และรูปแบบอาชีพแบบนี้นี่แหละที่เหมาะสำหรับการนำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยมากที่สุด

หุ่นยนต์อีโรติกไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ตอบสนองทางกาย แต่ต้องถูกออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการทางใจเพื่อช่วยปลอบประโลมให้นักบินอวกาศรู้สึกอบอุ่นและไม่โดดเดี่ยว หากหุ่นยนต์สามารถช่วยประคับประคองความรู้สึกนี้ได้ผ่านเทคโนโลยีที่สมจริงและการมีปฏิสัมพันธ์ที่รอบด้านก็อาจจะช่วยทำให้ภารกิจการสำรวจอวกาศเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

นี่จึงทำให้นักวิจัยหันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง

นักวิจัยบางกลุ่มยังสำรวจลึกลงไปอีกว่าอีโรบ็อตส์สามารถให้ประโยชน์ได้มากกว่าที่เราคิด คือช่วยทำให้สุขภาพโดยรวมของนักบินอวกาศดีขึ้นได้ด้วย

 

การที่หุ่นยนต์อีโรติกจะตอบสนองความต้องการทางด้านสังคมของมนุษย์ได้นั้นก็เกิดมาจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยทำให้หุ่นยนต์สามารถสื่อสาร เรียนรู้ และเข้าสังคมกับมนุษย์ได้ เปลี่ยนให้หุ่นยนต์ทื่อๆ ที่เราต้องคอยสั่งการทุกความเคลื่อนไหว กลายเป็นคล้ายๆ อีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่เรียนรู้ด้วยตัวมันเองได้

เมื่อเรารู้สึกว่าหุ่นยนต์ “เข้าใจ” เรา ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหุ่นยนต์ก็จะพัฒนาไปลึกซึ้งได้มากขึ้น

บางครั้งเราอาจจะไม่จำเป็นต้องมีโจทย์ตั้งต้นเป็นเรื่องเซ็กซ์ แต่เมื่อหุ่นยนต์รับฟังเรา ปลอบโยนเรา เราจะค่อยๆ เปิดรับให้มันเข้ามาอยู่ในใจได้มากขึ้น

บางทีเราอาจจะแค่ต้องการใช้หุ่นยนต์มาบำบัดความรู้สึกของการต้องการสัมผัสที่ใกล้ชิดจากใครสักคน

แต่ในหลายๆ กรณีท้ายที่สุดแล้วความใกล้ชิดนั้นก็จะพัฒนาไปสู่เซ็กซ์กับหุ่นยนต์ไปเอง

 

ดังนั้น อีโรบ็อตส์จึงสามารถนำไปใช้ในการบำบัดคนได้หลายรูปแบบ

เช่น คนที่หวาดกลัวการเข้าสังคม กลัวการมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคนอื่น หรือคนที่ตกเป็นเหยื่อในภัยอะไรบางอย่างที่นำไปสู่การกระทบกระเทือนทางจิตใจซึ่งส่งผลต่อร่างกาย หรือแม้กระทั่งใช้เพื่อช่วยบำบัดคนที่มีปัญหาเวลาที่ต้องมีเซ็กซ์กับมนุษย์ด้วยกันจริงๆ ก็สามารถใช้อีโรบ็อตส์เป็นเครื่องมือในการฝึกฝนได้

การเรียนเพศศึกษาในโรงเรียนก็จะถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นเมื่อเราไม่จำเป็นต้องใช้ภาพวาด กล้วย หรือวัตถุแทนอื่นๆ แต่ใช้อีโรบ็อตส์มาเป็นสื่อการเรียนการสอนแทน

ศักยภาพของมันไปไกลกว่าการตอบสนองทางเพศชั่วครั้งชั่วคราวของมนุษย์ไปเยอะ

หลังจากนี้ไปเราน่าจะได้เห็นนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ที่หันมาศึกษาเรื่องอีโรบ็อตส์อย่างจริงจังมากขึ้น และเมื่อมันได้รับการพัฒนาไปไกลกว่านี้การถามคำถามว่า “คุณจะมีเซ็กซ์กับหุ่นยนต์ไหม”

ก็จะกลายเป็นเรื่องที่เชยแสนเชยไปเลยก็ได้