เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าเงื่อนงำอันมาจาก คดีบอส อยู่วิทยา ไม่ว่าเงื่อนงำอันมาจากคดีบ่อน เฮียตี้ เหมือนกับจะสะท้อนให้เห็นภาวะเสื่อมทราม เน่าเฟะ ภายในกระบวนการยุติธรรม
เป็นความเสื่อมทรามเน่าเฟะจากแวดวงตำรวจ เป็นความเสื่อม ทราม เน่าเฟะจากแวดวงอัยการ
เปี่ยมด้วยระบบอุปถัมภ์ เปี่ยมด้วยการเตะถ่วง เป่าคดี
แต่คำถามก็คือ คดีขับรถชนคนตายในแบบของบอสนี่มิได้เป็นคดีแรกหรือเป็นเพียงคดีเดียว แต่คำถามก็คือ ความวิจิตรพิสดารมิได้มีแต่เพียงบ่อนของเฮียตี้เท่านั้น
ตรงกันข้าม คดีในแบบของบอสมีขึ้นจำนวนมากและหลุดรอดไปแล้วเป็นจำนวนมาก ตรงกันข้าม กรณีในแบบบ่อนของเฮียตี้ก็มีอยู่จำนวนมหาศาล
เพียงแต่คดีในแบบของบอส กรณีในแบบบ่อนของเฮียตี้ได้เกิดขึ้นและอึกทึกครึกโครมในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นั่นก็คือ ปะทุขึ้นบนซากหักปรังของ”ระบอบประยุทธ์”
ต้องยอมรับว่าการดำรงอยู่ของบ่อนในแบบเฮียตี้มีมาแล้วอย่างยาวนาน และมีการบุกเข้าทลายและจับมาแล้วเป็นจำนวนมากแม้กระทั่งในย่านเตาปูน หรือบ่อนลอยฟ้าฝั่งธน
เช่นเดียวกับกรณีของ บอส อยู่วิทยา ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของน้องแพรวจากสกุลดังมาแล้วอย่างครึกโครม
ถามว่าเหตุใด ณ วันนี้จึงได้มีการขุดคุ้ยเปิดโปงจนอื้อฉาว
คำตอบ 1 เป็นเพราะกระบวนการในแบบคดีบอส กระบวนการในแบบบ่อนเฮี้ยตี้ได้มีการสะท้อนออกมาอย่างไม่กลัวเกรงอิทธิพลผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่
ผ่านวิธีวิทยาในการตรวจสอบในยุคใหม่
คำตอบ 1 เป็นเพราะความแข็งแกร่งของ”รัฐราชการรวมศูนย์”ที่ครองอำนาจอย่างต่อเนื่องมายาวนานได้เริ่มผุกร่อนและมีโอกาสที่จะพังทลายอย่างง่ายดาย
ความเสื่อมทรุดเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในมือของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ความเสื่อมทรุดเหล่านี้เห็นได้จากการออกมาชี้หน้ากล่าวหาคนอื่นอย่างเป็นระบบเป็นกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นจากตำรวจ อัยการ
ที่เด่นชัดอย่างที่สุดก็คือ เป็นการพังทลายจาก”ภายใน”แห่งโครงสร้างของ “ระบบ”
การสาวไส้ให้กากินจึงเป็นสภาพการณ์ที่ธรรมดาอย่างปกติ