ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 สิงหาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
กรองกระแส
กระแสจุดติด
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จากพลังเยาวชน
ไม่ว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าท่าทีของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ต่อเสียงเรียกร้องและข้อเสนอในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ถือว่าเป็นท่าทีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในด้านดี
อย่างน้อยทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ก็ยอมรับต่อบทบาทและความหมายของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
ขณะเดียวกัน แม้กระทั่งคณะกรรมาธิการเองก็มีการปรับท่าทีใหม่
จากที่ก่อนหน้านี้มีกรรมาธิการจากพรรคพลังประชารัฐบางคนบอกว่าจะได้บทสรุปก็ในเดือนกันยายน แต่ล่าสุดประธานกรรมาธิการสามารถได้คำตอบภายในต้นเดือนสิงหาคม
คำถามก็คือท่าทีที่เปลี่ยนไปในทางดีเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
คำตอบ 1 เกิดจากกระแสการเคลื่อนไหวและข้อเรียกร้องอันร้อนแรงที่มาจาก “เยาวชนปลดแอก” คำตอบ 1 เกิดจากการกดดันอย่างทรงพลังภายในคณะกรรมาธิการเอง
กระแสจาก “เยาวชนปลดแอก” ต่างหากที่สำคัญ
นิยามรัฐธรรมนูญ
ออกแบบเพื่อพวกเรา
การที่จะทำความเข้าใจต่อกระบวนการอันนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องทำความเข้าใจต่อรากฐานอันเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
1 มาจากกระบวนการของการรัฐประหาร
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากมาจากความมุ่งมั่นและการวางแผนอย่างรัดกุมของ คสช.เพื่อสร้างรัฐธรรมนูญอันนำไปสู่การสืบทอดอำนาจ
ที่ว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” นั้นถูกต้อง
รูปธรรมเห็นอย่างเด่นชัดนับแต่ก่อนและภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เห็นได้ผ่านบทบาทของ “องค์กรอิสระ” ในการหนุนเสริมอำนาจ คสช.สกัดขัดขวางฝ่ายตรงกันข้าม
ทุกพรรคการเมืองยกเว้นพรรคพลังประชารัฐล้วนเสียเปรียบ
ในทางยุทธศาสตร์ลึกๆ แล้วทุกพรรคการเมืองล้วนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีก็แต่กลุ่ม คสช.และเครือข่ายเท่านั้นที่ต้องการอนุรักษ์รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เอาไว้
เพราะนี่คือเครื่องมือในการสืบทอดและรักษาอำนาจทางการเมือง
ท่าทีและความคิด
แก้ไขรัฐธรรมนูญ
แม้ว่าทุกพรรคการเมืองยกเว้นพรรคอันเป็นเครือข่ายของ คสช.ล้วนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ธรรมชาติหนึ่งในทางการเมืองก็แสดงออกอย่างเด่นชัด
เด่นชัดว่ามีความโน้มเอียงเอนไปสู่การแอบอิงกับอำนาจ
ความโน้มเอียงเช่นนี้เองทำให้พรรคพลังประชารัฐได้รับการสนับสนุน ความโน้มเอียงเช่นนี้เองทำให้บางพรรคการเมืองเมื่อได้เป็นรัฐบาลก็มีลักษณะหลอกลวงมากยิ่งขึ้น
เป็นการหลอกลวงที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจ
แม้กระทั่งบางพรรคอย่างพรรคประชาธิปัตย์แม้จะมีเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลแต่ก็มิได้จริงจังอย่างเพียงพอที่จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสถานะอันเป็นนโยบาย “เร่งด่วน”
ต่อเมื่อความเรียกร้องต้องการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาจาก “เยาวชนปลดแอก” นั้นหรอก
จึงส่งผลสะเทือนไม่เพียงแต่สร้างความคึกคักให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน หากแต่ยังทำให้บางส่วนภายในพรรคร่วมรัฐบาลได้เปิดพื้นที่ให้กับพลังประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น
กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยืนยันว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เยาวชนปลดแอก
บทบาท ความหมาย
แม้ในทางเป็นจริง ปรากฏการณ์การชุมนุมบนถนนราชดำเนินเมื่อตอนค่ำของวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม จะสะท้อนถึงความต่อเนื่องของแฟลชม็อบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
แต่ปรากฏการณ์ที่นำโดย “เยาวชนปลดแอก” ก็มีลักษณะ “พัฒนา”
1 เป็นการจุดประกายที่มีลักษณะต่อต้านต่อความศักดิ์สิทธิ์ของ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยตรง
และด้วยการออกจาก “มหาวิทยาลัย” มายัง “ท้องถนน”
ขณะเดียวกัน 1 เป็นการชุมนุมที่มีข้อเสนอในทางการเมืองที่โดดเด่นเริ่มจาก 1 หยุดคุกคามประชาชน 1 แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย 1 ยุบสภาเพื่อมอบโอนอำนาจให้ประชาชน
จุดเด่นเป็นอย่างมากก็คือได้รับการขานรับอย่างคึกคัก กว้างขวาง
จากนั้นได้เกิดแฟลชม็อบไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย ไม่ว่าจะเป็นที่อุบลราชธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ไม่ว่าจะเป็นที่ปัตตานี สงขลา นครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะเป็นที่นครปฐม ราชบุรี
กระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงกลายเป็นกระแสในทางสังคม
กระแสการเมือง
พลังของเยาวชน
มีความเด่นชัดอย่างเป็นรูปธรรมว่า การเคลื่อนไหวที่มีเยาวชนเป็นกองหน้าครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงออกทั้งด้านลึกและด้านกว้าง
มิได้มีแต่นิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หากลงไปถึงระดับนักเรียน
ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวที่มีทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ครอบคลุมอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ
นำเสนอรูปแบบใหม่ กระบวนการใหม่ๆ อย่างสดใสงามตา
เพราะการเคลื่อนไหวที่มีความต่อเนื่องและดำเนินไปอย่างกว้างขวางเช่นนี้เองจึงก่อพลานุภาพกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จำเป็นต้องออกมายอมรับและขานรับข้อเสนอ
กระนั้น ท่าทีของรัฐบาล ของรัฐสภา ก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจ
ทำความเข้าใจทั้งลักษณะหลอกลวง ทั้งลักษณะปราบปราม ทั้งลักษณะสกัดขัดขวาง ที่ปรากฏมาในหลายรูปแบบเพื่อที่จะรับมือได้อย่างรู้เท่าทัน
ที่สำคัญก็คือ จะต้องหล่อเลี้ยงกระแสให้ต่อเนื่องและพัฒนาไปเป็นลำดับจนบรรลุเป้าหมาย