รายงานพิเศษ / จับทาง ‘บิ๊กตู่’ วางหมาก ทบ. ยุค ‘บิ๊กบี้’ มองอนาคต ‘บิ๊กแดง’ จากมัฆวานฯ สู่วังลัดดา เขย่า 5 เสืออากาศ วัดดวง ‘บิ๊กตั้ว-บิ๊กต่วย’ ‘ธนศักดิ์-ชานนท์’

รายงานพิเศษ

 

จับทาง ‘บิ๊กตู่’ วางหมาก ทบ.

ยุค ‘บิ๊กบี้’

มองอนาคต ‘บิ๊กแดง’

จากมัฆวานฯ สู่วังลัดดา

เขย่า 5 เสืออากาศ

วัดดวง ‘บิ๊กตั้ว-บิ๊กต่วย’

‘ธนศักดิ์-ชานนท์’

เหลือเวลาบนเก้าอี้ ผบ.ทบ.อีกแค่ 2 เดือนเท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะขยับซ้าย ขยับขวา หยิบจับอะไร บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ก็ตกเป็นเป้าของการถูกโจมตี และเป็นเป้าหมายของกระแสข่าวลือเสมอๆ

จนเจ้าตัวเอ่ยปากว่า “อีกไม่กี่วันก็ไม่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้แล้ว”

ที่อาจสะท้อนถึงอนาคตหลังเกษียณของ พล.อ.อภิรัชต์ ว่า เลือกที่จะปล่อยวางจากทุกสิ่ง ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการเมือง ทั้งแบบเปิดเผย และ ว.5

จากที่คาดการณ์กันในกองทัพว่า พล.อ.อภิรัชต์จะทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับ ฉก.ทม.รอ.904 ต่อไป ในสถานะที่เป็นนายทหารพิเศษประจำ ทม.รอ. 904 หลังเกษียณจาก ทบ.

บางกระแสข่าวลือก็ระบุถึง อาจจะได้ถวายงานในตำแหน่งองคมนตรีบ้าง เป็นรองราชเลขาธิการบ้าง

แต่สไตล์และแนวทางของ พล.อ.อภิรัชต์อาจไม่ใช่แนวนั้น ไม่ใช่การทำงานที่เป็นแบบแผน เพราะถนัดการรบนอกแบบมาตลอด

อีกทั้ง พล.อ.อภิรัชต์น่าจะตัดสินใจปล่อยมือจากกองทัพ และส่งธงให้บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่ กุมบังเหียนกองทัพบกอย่างเต็มตัว

เพราะมั่นใจในจุดยืนและความแข็งของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ที่เห็นเงียบๆ นิ่งๆ แต่บทเอาจริงก็ดุและเด็ดขาด

แม้ในใจลึกๆ จะยังเป็นห่วงอยู่บ้าง เพราะความเคลื่อนไหวของขบวนการจาบจ้วงสถาบัน เคลื่อนไหวรุนแรง และชัดเจนมากขึ้นก็ตาม

แต่ก็ต้อง set zero ตัวเอง พร้อมปล่อยวางจากการเมือง

มีข่าวว่า หลังเกษียณ พล.อ.อภิรัชต์จะไปทำงานในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเขาเป็นคณะกรรมการอยู่ก่อนแล้วอย่างเต็มตัว

โดยปัจจุบัน มี พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการสำนักพระราชวัง เป็นประธานกรรมการ และเป็นผู้อำนวยการสำนักงาน

จากกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ไม่ได้เข้าทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงกลาโหม เพราะต้องเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี หลังพ้นหน้าที่ ส.ว.โดยตำแหน่ง จากการพ้น ผบ.ทบ.

แต่จากมัฆวานฯ พล.อ.อภิรัชต์ไม่น่าจะไปไกล แต่มุ่งหน้าเข้าสู่วังลัดดา ที่ทำการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

กระนั้นก็ยังเชื่อกันว่า พล.อ.อภิรัชต์จะยังคงมีบทบาทแฝงในทางการเมืองอยู่เงียบๆ

เพราะยังคงเป็นน้องรักที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงต้องพึ่งพิง ทั้งในการประสานงาน และเป็นตัวเชื่อมกับกองทัพบก

 

ต้องยอมรับว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์นั้นไม่ได้สนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะเคยเป็นนายกับลูกน้อง เมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ตาม

เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์เติบโตมาใน ร.31 รอ. และ พล.1 รอ. ส่วน พล.อ.ประยุทธ์เดินมาในเส้นทางทหารเสือฯ ร.21 รอ. พล.ร.2 รอ.

ประเด็นนี้จึงทำให้ถูกจับตามองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องวางตัวนายทหารไว้ใน ทบ. เพื่อเป็นหูเป็นตา

จากที่มีบิ๊กติ่ง พล.ท.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทบ. น้องรักสายทหารเสือราชินี ที่คาดว่าโผนี้จะขึ้นรอง เสธ.ทบ.

และในระดับคุมกำลัง ก็จะมีบิ๊กต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 น้องรักสายทหารเสือฯ ที่จะขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ที่จะเป็นหูเป็นตาให้อีกคน และเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์หวังผลักดันให้ขึ้นถึง ผบ.ทบ.เลยทีเดียว

จากเดิมที่มีกระแสข่าวว่า มี “กองหนุนพิเศษ” ดันรองอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 รุ่นน้อง ตท.24 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ตัดหน้า พล.ท.เจริญชัย เด็กนายกฯ รุ่นพี่ ตท.23

แต่เพราะ พล.อ.ประยุทธ์มี พล.อ.อภิรัชต์คอยช่วยเจรจากรุยทางให้ จึงทำให้ พล.ท.เจริญชัยยังมีชื่อเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่

 

และคาดว่าในระดับบริหาร 5 เสือ ทบ. จะยังคงให้บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นรอง ผบ.ทบ. ต่อเป็นปีที่ 3 หลังจากที่ไม่สามารถหาตำแหน่งลงที่เหมาะสมให้ได้ ไม่อาจไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด เพราะมีบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร เป็นตัวเต็งอยู่

ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ สมช.นั้น พล.อ.ณัฐพลก็ไม่เต็มใจจะไปนั่ง เพราะเห็นว่ามีบิ๊กโจ้ พล.อ.ณตฐพล บุญงาม รุ่นน้อง ตท.21 จ่อคิวอยู่แล้ว แม้ใครๆ จะมองว่า พล.อ.ณัฐพลเหมาะสมก็ตาม

ครั้น พล.อ.ประยุทธ์จะผลักดันให้ลาออกไปเป็น รมช.กลาโหม แต่ พล.อ.ประวิตรก็ยังสนับสนุนให้บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล เป็น รมช.กลาโหมต่อไป

พล.อ.ณัฐพลก็เต็มใจที่จะเป็นรอง ผบ.ทบ.ต่อ และบันทึกประวัติศาสตร์เป็นนานถึง 3 ปี

ที่สำคัญ จะยังทำหน้าที่เพื่อเป็นมือไม้และสายตาของ พล.อ.ประยุทธ์ในกองทัพบกยุค พล.อ.ณรงค์พันธ์

แม้ว่าเดิมจะมีการขยับบิ๊กเป้ง พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสธ.ทบ. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ. ส่วน พล.อ.ณัฐพลจะถูกส่งไปเป็นรองปลัดกลาโหม หรือรอง ผบ.ทหารสูงสุดเลยทีเดียว

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้ พล.อ.ณัฐพลเป็นเลขาฯ สมช. แต่เจ้าตัวสะดวกใจที่จะเป็นรอง ผบ.ทบ.เก้าอี้เดิมมากกว่า แม้ว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์จะเป็นรุ่นน้อง ตท.22 ก็ตาม

เพราะในยามที่น้องๆ ทหารใน ทบ.ทยอยเกษียณราชการไป พล.อ.ประยุทธ์ก็จำเป็นต้องหาคนที่มีอยู่ มาเป็นหูเป็นตา

ด้วยเพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่นั้น อาจกลายเป็นกล้ามเนื้อนอกบังคับ ด้วยเพราะ ผบ.ทบ.จะเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 คุมทหารคอแดงด้วย

แต่กระนั้น โผ ทบ.ในส่วน 5 เสือ ก็ยังไม่นิ่งจนกว่าจะได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ 31 กรกฎาคม

โดยเฉพาะ ทบ. ที่ยังติดอยู่ที่ พล.อ.ณัฐพล ที่ท้ายที่สุดอาจต้องยอมไปเป็นเลขาฯ สมช.เพื่อให้โผ ทบ.ลงตัว

แต่ที่ฮือฮาคือกระแสข่าวการเขย่า 5 เสือ ทบ.ใหม่ ที่หัวมี พล.อ.ณรงค์พันธ์เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ธีรวัฒน์ขยับจาก เสธ.ทบ. เป็นรอง ผบ.ทบ.

แต่สำหรับ เสธ.ทบ.นั้น แม้เดิมมีชื่อของบิ๊กโต้ง พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ หัวหน้าสำนักงาน ผช.ผบ.ทบ. เพื่อนรัก ตท.22 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็ตาม

แต่มีข่าวออกมาอีกว่า พล.อ.อภิรัชต์ดันบิ๊กหน่อย พล.ท.วรเกียรติ รัตนานนท์ รอง เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.20 ขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ. และเพื่อเตรียมดันให้ข้ามไปเป็นปลัดกลาโหมในปลายปี 2564

ไม่อย่างนั้น ใน 5 เสือ ทบ. จะมี ตท.22 ถึง 3 คน คือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ พล.อ.อภินันท์ และ พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 ที่จะขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทบ.

ขณะที่ทุ่งดอนเมือง เกิดพายุข่าวสะพัดระลอกใหญ่ เมื่อมีข่าวว่า บิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. ที่กำลังจะเกษียณในเวลาแค่ 2 เดือน ตัดสินใจวางทายาททัพฟ้าให้ชัดเจน

มีข่าวสะพัดว่า จะส่งบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ. ข้ามไปกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด

จากเดิมที่ลูกทัพฟ้าทั้งหลายคาดคิดว่าจะได้ขยับขึ้น 5 เสืออากาศ นั่งรอง ผบ.ทอ. ครองอัตราจอมพล เพื่อเตรียมจ่อคิวเป็น ผบ.ทอ.ในปลายปี 2564 ต่อจากบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ที่จะเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ในโผนี้

เพราะเป็นที่รู้กันว่า พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์นั้นเป็นลูกรักของ 2 ป. “ป้อม-ป๊อก” และถูกมองว่าจะเป็น ผบ.ทอ.ในอนาคต ด้วยโปรไฟล์เลิศ ทั้งเป็นนักบินเอฟ 16 ผ่านการเป็นผู้นำฝูง ผู้การกองบิน และเป็น ผช.ทูตทหารอากาศ ประจำกรุงลอนดอน

แม้ว่าเดิมมีข่าวว่าจะส่งบิ๊กต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง เสธ.ทอ. ข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด หรือรองปลัดกลาโหมก็ตาม

แต่ พล.อ.อ.มานัต และ พล.อ.อ.ธรินทร์ ซึ่งเป็นเพื่อน ตท.20 ด้วยกัน มองว่า พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ควรจะขึ้นมาเป็นรอง ผบ.ทอ. และจะช่วยงาน พล.อ.อ.ธรินทร์ได้ดีกว่า

เพราะเคยทำงานเป็นฝ่ายเสนาธิการของบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีต เสธ.ทอ. พี่ชายของบิ๊กจ้อ จึงมีความสนิทสนมเข้าขากันมากกว่า

 

แม้ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์จะมีอายุราชการถึงกันยายน 2565 แต่ก็ใช่ว่าในโยกย้ายปลายปี 2564 จะได้ขึ้น ผบ.ทอ.ได้ เพราะเมื่อถึงตอนนั้น อาจถูกแขวน หรือส่งข้ามห้วย

เพราะหมากเกมนี้ พล.อ.อ.มานัตได้วางตัว ผบ.ทอ.คนต่อไปแบบข้ามช็อตไว้แล้ว

โดยเฉพาะบิ๊กหนึ่ง พล.อ.ท.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) รอง เสธ.ทอ. ที่โผนี้จะขึ้น 5 เสืออากาศ เป็น เสธ.ทอ. จ่อเอาไว้ก่อนเลย

ให้ดูเหมือนว่า ขึ้นมาชิงกับบิ๊กป้อม พล.อ.ท.ธนศักดิ์ เมตะนันทน์ รอง เสธ.ทอ. รุ่นพี่ ตท.22. ที่จะขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทอ.ในโผนี้

แต่หาก พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ได้เป็น ผบ.ทอ.ในตุลาคม 2564 แต่ไม่มีหลักประกันใดว่าจะเลือก พล.อ.ท.ชานนท์ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.อย่างที่ พล.อ.อ.มานัตตั้งใจไว้

เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน และไม่มีสัญญาใดที่จะผูกมัดกันได้

แม้แต่กรณีของ พล.อ.ท.ธนศักดิ์นั้นถูกวางตัวในยุคบิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน เป็น ผบ.ทอ. ให้ขึ้นมา จนเป็นรอง เสธ.ทอ. เข้าไลน์ จนใครๆ คิดว่า เมื่อ พล.อ.อ.มานัตขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ.ต่อจากบิ๊กต่ายแล้วจะเลือก พล.อ.ท.ธนศักดิ์

แต่จู่ๆ เมื่อโยกย้ายเมษายน 2563 ที่ผ่านมา พล.อ.อ.มานัตก็ดัน พล.อ.ท.ชานนท์ จากเจ้ากรมยุทธการ ทอ. ที่เพิ่งนั่งมา 6 เดือน ขึ้นมาเป็นรอง เสธ.ทอ. เพื่อที่จะดันขึ้น 5 เสืออากาศให้ทันในโผนี้

และกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ พล.อ.ท.ธนศักดิ์ที่เคยถูกวางตัวไว้เลยทีเดียว

อีกทั้ง พล.อ.ท.ธนศักดิ์ และ พล.อ.ท.ชานนท์ เกษียณกันยายน 2567 พร้อมกัน ดังนั้น จึงต้องมีแค่ 1 คนเท่านั้นที่จะได้เป็นแม่ทัพฟ้า นภา 1 ในอนาคต

เพราะเชื่อกันว่า เมื่อ พล.อ.อ.ธรินทร์ขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. ก็จะมองที่ พล.อ.ท.ชานนท์ ตามที่ พล.อ.อ.มานัตวางตัวเอาไว้

 

ไม่แค่นั้น โผนี้ยังเป็นการปิดตำนานตระกูลธูปะเตมีย์ ที่ถูกจับตามองว่าจะได้มี ผบ.ทอ.คนที่ 2 หรือไม่ หลังจากที่ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ. คนที่ 10 ที่เพิ่งล่วงลับไปเมื่อธันวาคม 2562 ได้เป็น ผบ.ทอ.คนแรกของตระกูล และเกษียณไปเมื่อ 2530 หรือกว่า 30 ปีที่แล้ว

บิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ลูกชายสายเลือดนักบินทัพฟ้า ขยับมาเป็น ผบ.กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ (ผบ.คปอ.) ที่ก็ถือว่าคุมกำลังรบ เคยมีความพยายามจะสร้างธรรมเนียม ให้ถือว่า ผบ.คปอ. เป็น 1 ใน 6 เสืออากาศ แต่ที่สุดก็ไม่สามารถขึ้นเป็น ผบ.ทอ. จาก ผบ.คปอ.ได้เลย ต้องโยกเป็น ผช.ผบ.ทอ. เป็น 5 เสืออากาศเสียก่อนจึงจะขึ้น ผบ.ทอ.ได้

โผนี้จึงมีข่าวว่า พล.อ.อ.นภาเดชถูกโยกข้ามห้วยไปเป็นรองปลัดกลาโหมเลยทีเดียว เดินตามรอยบิ๊กหมู พล.อ.อ.ปรเมศร์ เกษโกวิท ที่เดินมาตามไลน์นี้

แต่อายุราชการยังเหลือถึงกันยายน 2565 แม้จะรอลุ้นได้กลับไปเป็น ผบ.ทอ. ในปลายปี 2564 แต่โอกาสก็เหลือน้อย

 

ที่ต้องจับตาคือ แม้จะส่ง พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์พ้น ทอ.ไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุดในโผนี้ก็ตาม แต่เขาก็สามารถรีเทิร์นกลับดอนเมืองได้เสมอ ไม่ใช่เพราะแค่ 2 ป. และหากย้อนดูคอนเน็กชั่น ก็ถือว่าเคยเป็นดองกับเสี่ยหนู นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ประเด็นนี้นี่เองที่ทำให้ลูกทัพฟ้าจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ด้วยต้นทุนที่มี และพลัง 2 ป. และอีกทั้ง พล.อ.อ.มานัตก็สนิทสนมคุ้นเคยกับนายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน จึงน่าจะเป็นพลังขับให้ พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ต้องอยู่ใน ทอ. และนั่งรอง ผบ.ทอ. เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทอ.ได้แน่นอนในที่สุด

นี่เองจึงทำให้โผโยกย้ายทหารอากาศเข้มข้น ไม่ใช่ที่เก้าอี้ ผบ.ทอ.คนใหม่ แต่เป็นเก้าอี้ ผบ.ทอ.ในอนาคต

บรรดาลูกทัพฟ้าจึงรอลุ้นกันไม่น้อย หลัง ผบ.เหล่าทัพได้หารือโผโยกย้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ วันที่ 31 กรกฎาคม และเขย่าโผสุดท้าย ก่อนส่ง รมว.กลาโหม 3 สิงหาคม เพื่อนำเข้าขั้นตอนการทูลเกล้าฯ

โผทหารครั้งนี้จึงมีกลิ่นอายการเมือง กลิ่นอายพี่น้อง 2 ป. 3 ป. คละคลุ้งอยู่ด้วย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นทั้งนายกฯ และสนามไชย 1 รมว.กลาโหม ส่วน พล.อ.ประวิตรก็เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง

      แม้ระดับหัวจะนิ่ง แต่หลายเก้าอี้ยังไม่นิ่ง การวิ่งเต้นต่อสู้แย่งชิงจึงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ตราบใดที่ยังไม่มีโปรดเกล้าฯ ออกมา