“ลึกแต่ไม่ลับ” ฉบับที่แล้ว ตั้งใจ “ดึงเช็ง” กะว่าจะมาปล่อยทีเด็ดในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับรายชื่อ “รัฐมนตรีใหม่” ใครเป็นใครที่จะมาแทนที่ “สี่กุมาร”

หลังจากทุกมุ้ง กลุ่ม ซุ้ม ชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ เปิดปฏิบัติการโหด แบบไม่ได้เขี่ย แต่ “ถีบทิ้ง” จนหลุดวงโคจรยกก๊วนไปแล้ว

“อำนาจ” ไหลมาอยู่กับผู้กุมชัยชนะ และ “ผู้ชนะ” บนเวทีการเมือง ไม่มีคำว่ามิตรหรือศัตรู พวกที่อ่อนแอกว่าถูก “กำจัด” ดุจวัชพืชออกไป

“ถนนสายอำนาจ” ในพรรรค พปชร.ดำเนินกันต่อไป ส่วนจะไปทางทิศไหน เข้าเขาวงกตอันคดเคี้ยว สู่นรกหรือขึ้นสวรรค์ แล้วแต่การบริหารจัดการของผู้กุมชะตากรรมกลุ่มใหม่

ล่าสุด “พปชร.” ประชุมลับ กรรมการบริหารพรรค เมื่อบ่ายจัดๆ วันที่ 21 กรกฎาคม มีมติ “เคาะ” เสนอชื่อ 5 รัฐมนตรี ยื่นเสนอต่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” และไม่ได้อยู่เหนือจุดคาดหมายแต่อย่างใด

1. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

2. “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

3. “นายอนุชา นาคาศัย” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

4. “นายสุชาติ ชมกลิ่น” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

5. “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

และหาก “บิ๊กตู่” รับเงื่อนไขทุกเม็ด รัฐมนตรีรัฐบาล “ตู่ 2/2” โควต้าพรรค พปชร. ยังประกอบไปด้วย

6. “นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

7. “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

8. “นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

9. “นายสันติ พร้อมพัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

10. “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

11. “นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

12. “นายอิทธิพล คุณปลื้ม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

บวกกับ “โควต้ากลาง” ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” สงวนสิทธิ์ไว้ได้แก่ 13. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 14. “นายวิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ 15. “นายดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 16. “พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

โดยภาพรวมของจากสัดส่วนรัฐมนตรี “พปชร.” บริหารจัดการอำนาจกันภายใน ค่อนข้างสมดุล มี “ตัวแทนกลุ่ม” ทุกเครือข่าย มีตำแหน่งแห่งหนลงตัว

กลุ่มหรือมุ้งใน พปชร. เป็นศูนย์รวมเขี้ยว ดาวกระจาย เดิมประกอบด้วย “สี่กุมาร-สามมิตร-ภาคตะวันออก-ภาคเหนือตอนบน-ตอนล่าง-ภาคกลาง-และ กปปส.เก่า”

ในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/1” ไม่มีขั้วไหนตกขบวน มีตัวตายตัวแทนดำรงตำแหน่งเสนาบดี แต่หลังจาก “สี่กุมาร” ถูกรุมกินโต๊ะ จนแตกทัพ “กลุ่มสามมิตร” ที่มี “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” กุมโต้โผ

อาศัยประสบการณ์ เหลี่ยมคูทางการเมืองอันโชกโชน ผ่านศึกมาหลายสงคราม ฆ่าคู่ต่อสู้ตายมาแล้วหลายศพ ฝีมือ ชั้นเชิงจึงขั้นเทพเซียนเหยียบเมฆ ระดับขี่พายุ สามารถบังคับให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ใส่เกียร์เดินหน้า ถอยหลังได้ “สามมิตร” เลยยกระดับเป็นกลุ่มที่มีอำนาจ-บารมี และ “เสียงดัง” กว่าใครเพื่อนใน พปชร.เวลานี้

3 เสาหลัก “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” แกร่ง ได้นั่งแป้นระนาบว่าการกันหมด

 

แต่ฝูงหมาป่ากับราชสีห์ มิใช่ผู้เลือกพื้นที่ “นายพราน” ต่างหากเล่า การปรับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 2/2” ที่ พปชร.มีมติ “เคาะ” ไปเมื่อวันวาน มักน้อยมากแค่ 5 ตำแหน่งเท่านั้นเอง

แต่ไม่ได้ชงเอง ชิมเอง และเออเองได้ซะเมื่อไหร่ คนที่จะตอบโจทย์ได้คือ “พล.อ.ประยุทธ์” ผู้เดียว

ในจำนวน 5 เก้าอี้ที่ พปชร. “เคาะ” ส่งชื่อให้ “บิ๊กตู่” พิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กลิ่นคาวเลือดมากที่สุด เพราะดังที่ทราบกันก่อนหน้านี้ว่า “สี่กุมาร” ไขก๊อกจาก พปชร.จนเกิดเงื่อนไขให้ถูกถีบพ้นเก้าอี้เสนาบดี

มีการไล่ล่าหาคนดี “มืออาชีพ” ต่างพากันส่ายหัวเดี๊ยะดุจพัดลม คนแล้วคนเล่า เห็น “เงา” ของเหล่าขุนพลต่างหวาดผวา แม้บางรายจะเห็นจะ-จะว่า เป็นบันไดอันคุ้นเคย แต่มิกล้าก้าวย่างปีนขึ้นไป กลัวจะตกลงมาตาย เสียผู้เสียคนโดยเปล่าประโยชน์

รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” มีปัญหาใหญ่ที่ต้องสะสางหลายปม ศึกในพรรค “พปชร.” ก็หนึ่ง ไหนยังมีระเบิดเวลาว่าด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งตามคำพยากรณ์ของโหรทุกสำนัก ฟันธงตรงกันว่า ไตรมาส 3-4 ตายหยังเขียด

ไหนจะ “แฟลชม็อบ” ที่คุโชนขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด เมื่อไม่กี่วันก่อน ทำท่าจะ “จุดติด” ประมาทการ์ดตกตายตื้นเอาได้ง่ายๆ

มีการนำจุดอ่อนจุดแข็งมาเปรียบเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ว่า “ม็อบฟันน้ำนม” ออกมาขับไล่รัฐบาล ขณะที่ “ม็อบฟันปลอม” เชียร์ให้ “ลุงตู่” อยู่ต่อ มันชักจะยังไงอยู่นะครับ

ตัดฉากกลับไปที่ ศึกฟอร์มรัฐบาล “ตู่ 2/2” กรณีที่ถูกเจาะยาง ตีกันเข้ามากๆ “คนนอก” 3-4 รายที่ปรากฏนามว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ทาบทามดึงมาร่วมงาน เกิดถอดใจปฏิเสธที่จะมารับตำแหน่ง ไม่ว่ารองนายกฯ เศรษฐกิจ-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

“ตู่ 2/2” ก็บริหารจัดการกันเองภายในร่มเงา “พรรคการเมือง” ไม่ต้องใช้ “คนนอก” ตามกลไกรัฐธรรมนูญ อยู่ได้สบายมาก เพราะขณะนี้เสียงสนับสนุนรัฐบาล ทะลุเพดานเกิน 280 เสียง

เกินกึ่งหนึ่ง 30 ที่นั่ง ไม่รวมฝักถั่ว ส.ว.อีก 250 เสียง

“ตู่ 2/2” ไม่มีชื่อ “ปรีดี ดาวฉาย” นั่งว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ปรากฏนาม “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯ

พิจารณาแต่งตั้ง ดู “คุณสมบัติ” จากฐานกำลัง ตามกฎข้อบังคับของพรรค เรียงลำดับไหล่จากสัดส่วนของสมาชิก มาเป็นองค์ประกอบสำคัญ

กลุ่มที่แข็งแรงที่สุดเวลานี้ใน พปชร.คือ “สามมิตร” ถูกต้องแม่นแล้ว “สุริยะ” ต้องคว้าพุงปลามันในตำแหน่งว่าการกระทรวงพลังงาน

กลุ่มภาคเหนือตอนบน ได้ร่มเงา “ร.อ.ธรรมนัส” ตามชื่อชั้นเมื่อไม่ได้ว่าการ ต้องโยก “ลุงป้อม” ไปนั่งว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ “ร.อ.ธรรมนัส” คั่ว มท.2 ปฏิบัติภารกิจแทนทุกอย่าง เพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งใหญ่ทั้งท้องถิ่นและสนามใหญ่ในอนาคต

“สันติ พร้อมพัฒน์” ที่โชว์เพาเวอร์ บริจาคที่ทำการพรรค พปชร.แห่งใหม่ถนนรัชดา เสียสละอย่างอื่นอีกมาก ขณะที่ “บิ๊กตู่” แต่งตั้งให้รักษาการว่าการกระทรวงการคลัง ขึ้นแท่น “ขุนคลัง” แบบเต็มตัวได้สบายๆ

การเป็น ส.ส.ไม่มีอะไรโชว์เป็นชิ้นเป็นอัน “บางที” สามารถเป็นรัฐมนตรีที่ดีได้

“อย่าสบประมาท” (ฮา)