อุรุดา โควินท์ / ทางรอดอยู่ในครัว : เป็นมิตรต่อร่างกาย

เกือบสองเดือน ฉันไม่ค่อยหยิบกางเกงออกมาใส่ ถึงใส่ก็เลือกกางเกงที่หลวม อากาศร้อน สบายตัวไว้ก่อนเป็นดี

กลับมาใส่กางเกงยีนส์อีกที พบว่าคับมาก ไม่ได้การแล้วละ ฉันลองขึ้นตาชั่ง น้ำหนักเพิ่มสองกิโลกรัม-เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

อันที่จริงฉันอยากเพิ่มน้ำหนักตลอดมา ฉันรู้สึกว่าฉันผอมไปสักนิด กินข้าวเท่าไรก็ไม่ได้เนื้อเพิ่ม ทำไมจู่ๆ ตอนนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเอง

“เอวเพิ่มหนึ่งนิ้ว น้ำหนักเพิ่มสองกิโล” ฉันบอกเขา

เขาหัวเราะ “ตาชั่งเสียหรือเปล่า หมู่นี้กินน้อยนะ กินอะไรก็บ่นไม่อร่อย”

ช่วงนี้ฉันซื้ออาหารกินบ่อยขึ้น เพราะครัวร้อน และเบื่อทุกอย่างโดยไม่มีสาเหตุ ความเบื่อทำให้มักง่าย ลองสั่งอาหารจากร้านมากิน เพื่อจะพบว่า ฉันเรื่องมากกว่าที่คิด ไม่มีร้านไหนที่ฉันอยากสั่งซ้ำเลย

ฉันกลับมาทำอาหารกินเองทุกมื้อเหมือนเดิม แต่ยังกินน้อยลง เพราะความเบื่อไม่จางไปจากใจ

น้ำหนักของฉันเพิ่มขึ้นได้อย่างไร

“ตาชั่งอาจเสียได้ แต่สายวัดเอวไม่มีวันเสีย เอวขึ้นมาหนึ่งนิ้ว หมายถึงอ้วนขึ้นจริง” ฉันบอกเขา

“ก็ดีแล้วนี่ อยากได้เนื้อไม่ใช่เหรอ” เขาว่า

“อยากได้เนื้อที่อื่น ไม่ใช่ที่เอว อยากได้น้ำหนักเพิ่ม แต่เอวเท่าเดิม หน้าท้องไม่มี”

เขาหัวเราะ ส่ายหัวแรง “ก็ต้องออกกำลังกายเยอะๆ”

อา ครั้นเขาพูดถึงการออกกำลังกาย ฉันก็คิดได้ว่า ฉันออกกำลังกายน้อยลงจริงๆ

ครูโยคะไม่อยู่ ฉันไม่ได้ฝึกโยคะ โควิดทำให้ไม่อยากไปไหน ฉันก็เลยไม่ค่อยได้ออกไปวิ่ง และเพราะเบื่อไปทุกสิ่ง ฉันจึงไม่ค่อยคิดอยากทำอะไร

โดยรวม ฉันใช้พลังงานน้อยลง น้ำหนักขึ้นแบบนี้ไม่ดีเลย ไม่ได้หมายถึงสุขภาพดี

“ไม่เอาละ” ฉันทำหน้ามุ่ย “เปลี่ยนใจ ไม่อยากเพิ่มน้ำหนักแล้ว ถ้าเอวใหญ่ขึ้น เสื้อผ้าครึ่งตู้ก็ใส่ไม่ได้อ่ะ”

“อย่าลืมนะ ว่านัดเพื่อนมากินขนมบ่ายนี้ คงต้องผ่านวันนี้ไปก่อน ค่อยคิดเรื่องลดเอว” เขาเตือน

 

ฉันนัดต่อมากินขนมดื่มกาแฟ เมาธ์มอยกัน

และใช่ ตลอดสองเดือนมานี้ ฉันกินขนมเยอะขึ้น จากเดิมที่ไม่มีขนมติดบ้านเลย พอฉันไม่ค่อยได้ไปไหน ไม่รู้จะทำอะไร อ่ะ คุกกี้กับโกโก้ร้อนสักแก้วคงดี

จากที่แทบไม่แตะขนม ฉันมีซูครีมติดบ้าน มีคุกกี้ มีเค้กกล้วยหอม ฉันทำงานเขียนได้เยอะ บางคืนเขียนนิยายถึงตีหนึ่งตีสอง มื้อดึกของฉันคือคุกกี้กับโกโก้

อย่างนี้นี่เองที่มาของเอวหนึ่งนิ้ว และน้ำหนักสองกิโล

แล้วไหนจะไขมันในเลือดซึ่งปริ่มแล้วปริ่มอีก น้องหมอขู่ว่า ถ้ามันเกินขอบเขตก็ต้องกินยา ซึ่งฉันไม่อยากกิน

โอเค ลืมเรื่องเนื้อหนังไปก่อน ฉันต้องคำนึงถึงสุขภาพ เลิกมีขนมติดบ้าน ทำกับข้าวกินเองทุกมื้อเหมือนเดิม

แล้วนัดกับต่อบ่ายนี้ล่ะ ฉันจะทำยังไง ต่อต้องซื้อขนมมาเยอะแยะ ทั้งพาย ทั้งเค้ก ทุกอย่างล้วนเพิ่มไขมัน เพิ่มเอว

ฉันต้องทำอย่างอื่น อะไรสักอย่างที่ทดแทนขนม กินแล้วไม่อ้วน ดีต่อสุขภาพ และเข้ากับชา-กาแฟ

เขาชี้หน้าฉัน อมยิ้ม “อดกินขนมกับเพื่อนเลย”

ฉันเชิดหน้า “ใครบอก จะหาขนมดีๆ มากิน มันต้องมีสิ”

“มีผลไม้ในตู้เย็นนะ” เขาบอก

เขาคงหมายถึง ให้ฉันกินผลไม้แทนขนม นั่นต้องดีอยู่แล้ว แต่มันง่ายไปมั้ย

 

ฉันเดินไปเปิดตู้เย็น เรามีนมสด มีโยเกิร์ต

รู้แล้วว่าจะทำอะไร ในวงเล็บ-ถ้ามีเจลาติน ซึ่งเมื่อสำรวจดูแล้ว ฉันเจอเจลาตินผงในตู้เย็น

หาแก้วสวยๆ มาหลายๆ ใบ เคลียร์ตู้เย็นให้มีที่ว่าง ยังมีเวลาพอให้ขนมเซ็ตตัว และเรามีน้ำผึ้งมานูก้าด้วย

เทนม 100 ML ลงหม้อก้นหนา ตักเจลาตินลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ ตั้งไฟอ่อน คนให้เจลาตินละลาย แล้วฉันก็ปิดไฟ

เราต้องรอให้ส่วนผสมนี้เย็นลงก่อน ระหว่างที่รอ ฉันจึงซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปซื้อโยเกิร์ตรสน้ำผึ้ง

ใช้โยเกิร์ตรสธรรมดาก็ได้ แต่เราจะราดด้วยน้ำผึ้ง โยเกิร์ตรสน้ำผึ้งย่อมอร่อยกว่า

ซื้อมา 5 ถ้วย ฉันใช้ทั้งหมด เทลงในนมที่ผสมกับเจลาติน คนให้เข้ากัน ถ้าตักลงพิมพ์กลม แช่ตู้เย็นไว้ เราจะได้ขนมที่หน้าตาคล้ายเค้กโยเกิร์ต

จะเอาแครกเกอร์มาบดผสมกับเนยทำเป็นฐานขนมก็ได้ แต่เพราะฉันไม่ต้องการแป้งและไขมัน ฉันจะตัดฐานออก ใช้แต่โยเกิร์ต

ตักส่วนผสมลงแก้วที่เตรียมไว้ โดยเหลือพื้นที่สำหรับผลไม้ จากนั้นก็จับแช่ตู้เย็น

เวลาเสิร์ฟ ฉันจะเอาผลไม้ชิ้นเล็กๆ หั่นโรยหน้า ราดด้วยน้ำผึ้งมานูก้า เย็น อร่อย ชื่นใจ และเป็นมิตรต่อร่างกาย

แทบรอให้โยเกิร์ตเซ็ตตัวไม่ไหว ระหว่างรอ ฉันหั่นผลไม้ โชคดีที่มีทับทิม เพราะมันทำให้ขนมดูสวยน่ากินมาก

ใส่มะม่วงน้ำดอกไม้ลงไปก่อน ตามด้วยกีวีสีทอง โรยเมล็ดทับทิม และราดน้ำผึ้งมานูก้า

 

ยกไปเสิร์ฟเขาที่โต๊ะทำงาน ฉันอยากให้เขาชิม เพราะไอเดียเริ่มต้นมาจากเขา

เขาไม่ชอบขนม และไม่กินผลไม้ที่มีรสหวาน แต่เขาก็กินหมด เขาว่า มันไม่เหมือนขนมเลย และเขาจะชอบมันมากกว่านี้ ถ้าฉันไม่ราดน้ำผึ้ง

โอเค เชื่อแล้วว่าความหวานใดๆ เขาก็ไม่ต้องการทั้งสิ้น

 

สูตรสั้นพร้อมปรุง

– นม 100 ML ผสมในเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟอ่อน แค่พอให้เจลลาตินละลาย ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น

– เทโยเกิร์ตรสน้ำผึ้ง 5 ถ้วย ใส่ชามใหญ่ เทนมผสมเจลาตินลงไป คนให้เข้ากัน

– เอาผลไม้หั่นรองก้นแก้ว เทส่วนผสมใส่แก้วเกือบเต็ม แช่ตู้เย็นให้เซ็ตตัว

– เสิร์ฟโดยใส่ผลไม้สดข้างบนและราดน้ำผึ้ง