ก่อนหน้านี้ ละครจักรๆ วงศ์ๆ ช่วงเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ เรื่อง “พระสุธนมโนห์รา” ที่ผลิตโดยค่ายสามเศียร และออกอากาศทางช่อง 7 (35 HD) ได้เคยออกอากาศไปแล้ว 8 ตอน ก่อนจะยุติการลงจอชั่วคราวเมื่อขึ้นเดือนเมษายน ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ระลอกแรก?)

เพราะกองถ่ายละครพื้นบ้าน ซึ่งมีลักษณะ “ถ่ายไป ออกอากาศไป” ไม่สามารถทำงานต่อได้ โดยทางบริษัทสามเศียรได้นำละครฮิตเมื่อไม่กี่ปีก่อน อย่าง “แก้วหน้าม้า 2558” มาออกอากาศแทน

ล่าสุด หลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ พร้อมๆ กับตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาภายในประเทศที่เป็นศูนย์ (ก่อนจะมีกรณี “ทหารอียิปต์” ที่ระยอง และครอบครัว “นักการทูตซูดาน” ที่สุขุมวิท)

สามเศียรและช่อง 7 จึงประกาศว่า “พระสุธนมโนห์รา” (ซึ่งกลับมาถ่ายทำต่อได้ระยะหนึ่ง) จะได้ฤกษ์หวนมาออกอากาศใหม่อีกครั้งในวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2563

หมายความว่า “แก้วหน้าม้า 2558” ฉบับตัดต่อสั้นกระชับเพื่อออกฉายเฉพาะกิจในช่วงล็อกดาวน์ จะมีความยาวอยู่ที่ 34 ตอน (ลดลงจากจำนวน 102 ตอน เมื่อคราวออกอากาศครั้งแรกอย่างมหาศาล)

ทั้งนี้ “พระสุธนมโนห์รา 2563” ที่จะเริ่มแพร่ภาพในเดือนสิงหาคม นั้นจะย้อนกลับไปรีสตาร์ตกันที่ตอน 1 ใหม่ ส่วนหนึ่งคงเพื่อช่วยให้คนดูสามารถติดตามเรื่องราวได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ ไม่ขาดห้วงขาดตอน หรือต้องย้อนกลับไปทบทวนเหตุการณ์ในช่วง 8 ตอนแรกให้วุ่นวาย

อีกส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะมีการปรับเปลี่ยนหนึ่งในนักแสดงที่มารับบทเป็นพี่สาวกินรีของ “มโนห์รา” จนน่าจะส่งผลให้ต้องถ่ายซ่อมละครในช่วงแรกๆ กันเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ “สยม สังวริบุตร” ผู้บริหารค่ายดีด้า-สามเศียร เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหลังวิกฤตโควิด รูปแบบการถ่ายทำละครจักรๆ วงศ์ๆ ของบริษัทจะต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยจะหันไปถ่ายทำละครสต๊อก (ถ่ายทำจนเสร็จก่อนออกอากาศ) แทนการถ่ายไปออกอากาศไปตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมาอย่างคุ้นชิน

คราวนั้น เขาบอกใบ้ว่า พร้อมๆ กับการต้องเริ่มเดินหน้าถ่ายทำ “พระสุธนมโนห์รา” กันต่อ สามเศียรยังได้จัดเตรียมโครงการ “ละครสต๊อกจักรๆ วงศ์ๆ” ไว้ทั้งหมดสามเรื่อง และคงจะเปิดกล้องละครเหล่านี้หลังปลดมาตรการล็อกดาวน์

ล่าสุด สยมได้เปิดเผยผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าละครสต๊อก 2 ใน 3 เรื่อง ที่กำลังจะเริ่มกระบวนการถ่ายทำ คือ “พิกุลทอง” และ “ไกรทอง”

“ไกรทอง” นั้นถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่สามเศียรตั้งท่าจะทำมาหลายปีแล้ว (เคยบวงสรวงพร้อม “แก้วหน้าม้า 2558” ด้วยซ้ำ) ขณะที่แฟนละครก็ดูจะเรียกร้องอยากชมละครเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ

จนถึงตอนนี้ ข้อมูลหนึ่งเดียวที่แน่ชัดเกี่ยวกับ “ไกรทอง” ฉบับใหม่ ก็คือตัวละคร “ชาละวัน” จะสวมบทโดย “โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์” ซึ่งโด่งดังจากบทบาท “เจ้าเงาะ” ใน “สังข์ทอง 2561”

กดรีโมตทีวีเปลี่ยนตัวเลขจาก 35 ลงมาเป็น 31 ช่องวัน ก็เพิ่งเปิดตัวละครใหม่เรื่อง “วันทอง” ซึ่งจะถ่ายทอดเรื่องราว “ขุนช้างขุนแผน” ผ่านมุมมองของตัวละคนนำหญิงอย่าง “นางวันทอง”

โดยมีทีมนักแสดงนำประกอบด้วย “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” (วันทอง) “ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” (ขุนแผน) และ “ชาคริต แย้มนาม” (ขุนช้าง)

น่าสนใจว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบันเทิงไทยได้นำนิทานพื้นบ้านเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” มาผลิต-ตีความเป็นหนัง-ละครกันมากมายหลากหลายเวอร์ชั่น

ไล่ตั้งแต่ละคร “ขุนแผนแสนสะท้าน” ทางช่องดาวเทียมจ๊ะทิงจา (ผลิตโดยค่ายสามเศียร) ที่หยิบยืมเอาตัวละครหลักๆ จาก “ขุนช้างขุนแผน” มาโลดแล่นในเรื่องราว “สร้างใหม่” เป็นละครขนาดยาวหลายร้อยตอน โดยแบ่งซอยเป็นบทสั้นๆ (หนึ่งบทออกอากาศประมาณ 5 ตอน)

ทั้งนี้ “ขุนแผนแสนสะท้าน” เพิ่งจะอำลาจอไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน โดยมีความยาวรวมทั้งสิ้น 728 ตอน!

มาถึงภาพยนตร์ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” ผลงานการกำกับฯ ของ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” ซึ่งนำแสดงโดย “มาริโอ้ เมาเร่อ” เมื่อปีก่อน ที่พยายามใส่องค์ประกอบความเป็นแฟนตาซี อารมณ์ขัน และเทคนิคซีจีล้ำยุคลงไป

พร้อมๆ กับการตีความ “ขุนช้างขุนแผน” ใหม่ในบางแง่มุม อาทิ ที่มาของตัวละคร “ขุนช้าง”

ต้องจับตาดูว่า “วันทอง 2020” ที่น่าจะออกอากาศเร็วๆ นี้ จะช่วยเปิดมุมมองอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับ “ขุนช้างขุนแผน” บ้าง?