การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ : ทวีปที่สาบสูญ แต่กระฉอกข้างในเกินใครเห็น

[คนเดินทาง

วันนี้มีลมบางพัดที่นี่

กับฟ้ากว้างอากาศสะอาดดี

รู้ไหมฉันอยู่ที่แห่งหนใด

 

ข้างหลังมีแนวยาวหาดขาวสวย

ฉันเดินด้วยเท้าเปล่าอีกก้าวใหม่

เพราะวานนี้มีคนสับสนใจ

จึงโผล่ไปถึงบ้านว่าผ่านเยือน

 

เขาเป็นหนุ่มช่างฝันเหมือนฉันแหละ

หากไม่ได้เกาะแกะแค่เป็นเพื่อน

เพียงรู้จักทักทายกันหลายเดือน

เขาก็เหมือนคล้ายเธอเมื่อเจอพบ

 

คือมีความว่างไร้ในสีหน้า

หากมองตากลับเห็นใจไม่รู้จบ

มีบางมุมดูเหงาแสนเซาซบ

เมื่อได้สบตาก็รอนอ่อนไหวนัก…]

 

เพียงบัว

ขอบคุณตัวหนังสือด้วยซื่อศักดิ์

ขอบคุณที่บอกกันให้ฉันพัก

ใจที่อยากบอกรักได้รั้งรอ

(ขีดฆ่า)

 

เพียงบัว

ขอบคุณตัวหนังสือซื่อด้วยศักดิ์

ยินดีกับความสุขทุกความรัก

ยินดีนักกับความสุขทุกดวงตา

 

สำหรับฉันทะเลเพียงเห่กล่อม

ให้โดดเดี่ยวในอ้อมแขนฝุ่นฝ้า

(ขีดทิ้ง)

สำหรับเธอทะเลคงเห่กล่อม

ให้พรั่งพร้อมของขวัญอันรอท่า

ขณะฉันร่อนเร่ในเวลา

เสมอมาเพื่อนแท้แค่ตัวเอง

(ขีดฆ่า)

ขณะดวงตะวันอันโสภา

อาบแสงมาเฉิดฉันรื่นบรรเลง

 

[คนเดินทางคะ

รู้ไหมว่าเธอน่ะเป็นคนเก่ง

มีหลายคนพูดกันฉันยินเอง

เธอคือเพลงไพเราะเพราะตัวเธอ

 

ฉันแค่มากับเพื่อนเดือนละหน

เพื่อยืนบนหาดทรายใจมองเหม่อ

คิดถึงใครบางคนจนละเมอ

คิดว่าถ้าพบเจอจะอย่างไร

 

ฉันเขียนกลอนอ่อนหัดสัมผัสผิด

แต่ความคิดถึงแอบแนบมาให้

ถ้าไม่ซึ้งถึงกมลก็จนใจ

จะรอให้เปิดเผยเอ่ยสักวัน…]

 

นั่งอยู่กับโต๊ะสี่ขาข้างหน้าต่าง

มีแสงแดดพร่าพร่างข้างนอกนั่น

ซองจดหมายหลายซองกองปนกัน

หนึ่งซองนั้นอ่านซ้ำทุกคำ, พบ

 

ดั่งหลายสิ่งกระเพื่อมเหลื่อมทับซ้อน

ฉากละครวนใหม่ไม่รู้จบ

หลากอารมณ์คุคั่งกระทั่งทบ

อวลตลบกลิ่นช้ำช่อน้ำตา

 

ปราศจากถ้อยคำจะย้ำเขียน

มีบทเรียนมากมายสอนไว้ว่า

บนเส้นทางกันดารที่ผ่านมา

ความจริงกับมายามาด้วยกัน

 

ความจริงคือเธอไกลในเมืองอื่น

ส่วนฉันตื่นอีกเรือนเหมือนม่านกั้น

ระยะทางห่างจนบนทางนั้น

ย่อมเป็นฉันจะพลัดหายที่ปลายทาง

 

หมึกปากกาแห้งขาดกระดาษยับ

เสียงคนเดินหยับหยับใต้ถุนล่าง

แว่วพี่โฟได้เสื้อผ้าเนื้อบาง

เครื่องสำอางจากกาดตลาดจร

 

เสียงพ่อพูดกลั้วเรื่องขันอันนำเล่า

แทรกแม่ร้องบอกข้าวนึ่งนุ่มอ่อน

มีต้มยำปลาแห้งกับแกงบอน

รีบมากินร้อนร้อนแต่ตอนนี้

 

เสียงเพื่อนบ้านผ่านเรือนมาเยือนเพิ่ม

และก็เริ่มยินชัดถนัดถนี่

คนสอบถามงานหมั้นวันใดดี

พ่อจะมีเขยเจ๊กเด็กลูกใคร

 

ข่าวว่าเป็นคนดีแสนมีศักดิ์

มาพบรักเพราะกลอนสอนพาให้

ตกลงเป็นคนจีนกินอย่างไทย

หรือคนใต้หล่อเข้มเงินเต็มรถ

 

ฉีกใบตองรองจานเมื่อบ้านเงียบ

พลางแม่เลียบสอบถามตามปรากฏ

ได้ยินข่าวพรั่งพรูอยู่เลี้ยวลด

เกณฑ์กำหนดเพราะต้องอุ้มท้องจริง?

 

หมึกปากกาพร่าบาดกระดาษเปียก

เพียงสำเหนียกความเศร้าเคล้าทุกสิ่ง

มีขวากหนามลามแทงขึ้นแย่งชิง

ความเป็นหญิงความเป็นชายให้สำนึก

 

ถึงเพียงบัว

ฉันรู้ตัวว่าอ่อนแอ, แค่รู้สึก

ยังจ่อมจมอยู่ใต้สายน้ำลึก

อึกทึกอยู่ในใจฉันเอง

 

อย่าพูดเลยว่าฉันนั้นมีค่า

กรุณาอย่าปั้นมองฉันเก่ง

โลกที่นี่เงียบเหงาเศร้าวังเวง

เพราะมันเฮงซวยบัดซบจบในตัว

 

ตราบที่ฉันต้องไปในเส้นทาง

ไร้เงินทองก็ต้องกางขาหาผัว

ตราบใดที่ยังตกอับอยู่กับครัว

จะดีชั่วต้องตามบทในกฎเกณฑ์!

 

ฉันคิดถึงเธอมากอยากจะบอก

แต่กระฉอกข้างในเกินใครเห็น

คือหยดหยาดบาดแผลเลือดแรเร้น

เกินจะเป็นเมียใครในยามนี้!