รายงานพิเศษ / ‘บิ๊กตู่’ จัด ครม.ควบโผทหาร สนามไชยระส่ำ ‘บิ๊กช้าง’ สะเทือน โฟกัส ‘บิ๊กเล็ก’ เคาะ ‘บิ๊กแก้ว-บิ๊กบี้’ ‘แม่ทัพ 1’ เข้มข้น ส่องโผ 5 เสือ 5 ฉลาม 5 เสืออากาศ

รายงานพิเศษ

 

‘บิ๊กตู่’ จัด ครม.ควบโผทหาร

สนามไชยระส่ำ

‘บิ๊กช้าง’ สะเทือน

โฟกัส ‘บิ๊กเล็ก’

เคาะ ‘บิ๊กแก้ว-บิ๊กบี้’

‘แม่ทัพ 1’ เข้มข้น

ส่องโผ 5 เสือ 5 ฉลาม 5 เสืออากาศ

ฤดูกาลปรับคณะรัฐมนตรี กับฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหาร อยู่ในช่วงเข้มข้น ขนาบคู่กันไป

หลังจากบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประกาศว่า การปรับคณะรัฐมนตรี “เริ่มตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

แม้จะคาดกันว่าการปรับ ครม.อาจทอดเวลาไปจนถึงเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อรอให้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ผ่านสภาให้เรียบร้อยก่อน

ยกเว้นว่าจะมีเกมการเมืองกดดันจากการลาออกของ รมต.เพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่ม 4 กุมาร ที่ลาออกจาก พปชร.ไปแล้ว และมีข่าวจะลาออกจาก รมต.ตามมา แม้แต่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เอง ที่อาจทำให้ปรับ ครม.เร็วขึ้น

แต่ในส่วนโผโยกย้ายทหารนั้น ก็ไม่ต้องรีบมาก ทำตามขั้นตอน เพราะ ผบ.เหล่าทัพมีกำหนดส่งให้ รมว.กลาโหมต้นสิงหาคมเลย

ก่อนหน้านี้ หากปรับ ครม.ล่าช้าถึงกันยายน-ตุลาคม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์กำลังรอให้ข้าราชการบางคนที่เล็งไว้ว่าจะให้เป็นรัฐมนตรีใน ครม. “ประยุทธ์ 2/2” ได้เกษียณราชการออกมาก่อนด้วย

แต่ตัดบรรดา ผบ.เหล่าทัพที่จะเกษียณ 30 กันยายนนี้ออกไปได้เลย เพราะต้องเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี หลังพ้นจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา แม้จะเป็นโดยตำแหน่งก็ตาม แต่หากต้องปรับ ครม.เร็วขึ้น ก็สามารถให้ข้าราชการลาออกมาก่อนกันยายนก็ได้

 

แต่ที่ในแวดวงทหารจับตามองก็คือ จะมีการเปลี่ยน รมช.กลาโหมหรือไม่ หลังมีข่าวออกมาจากฝ่ายนักการเมืองว่า บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ที่เป็น รมช.กลาโหม มาตั้งแต่พฤศจิกายน 2560 ในยุครัฐบาล คสช. อาจจะหลุดเก้าอี้

แม้ว่า พล.อ.ชัยชาญจะทำหน้าที่ได้ดียิ่งในการดูแลงานของกลาโหมทั้งหมด แทน รมว.กลาโหม มาตั้งแต่บิ๊กป้อม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม ในรัฐบาล คสช. เรียกได้ว่าช่วยงานบิ๊กป้อมตั้งแต่ พล.อ.ชัยชาญยังเป็นปลัดกลาโหม

เมื่อเกษียณ พล.อ.ประวิตรก็ให้เป็น รมช.กลาโหมช่วยงานต่อ จนข้ามมารัฐบาลเลือกตั้ง “ประยุทธ์ 2/1” แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะควบ รมว.กลาโหมเองก็ตาม

จนถูกมองว่า พล.อ.ชัยชาญเป็นสายตรงบิ๊กป้อม และเสมือนมีบิ๊กป้อมเป็น รมว.กลาโหมเงา

เพราะตลอด 1 ปีของรัฐบาลนี้ พล.อ.ชัยชาญทำงานแทน พล.อ.ประยุทธ์มาตลอดทุกอย่าง แม้แต่การตอบกระทู้ หรือชี้แจงในสภา เพราะนายกฯ ไม่มีเวลาเข้ากระทรวงเลย ได้แต่ประชุมสภากลาโหมเดือนละครั้ง

แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ออกตัวว่า กำลังมองหาคนที่จะมาช่วยงาน ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสาธารณสุข สังคมอยู่

แต่เมื่อถูกถามว่า จะเปลี่ยน รมต.ด้านความมั่นคงด้วยหรือ พล.อ.ประยุทธ์ก็รีบตัดบทว่า ก็พูดในภาพรวม

“ทำไม ฉันเป็น รมว.กลาโหม ฉันทำผิดพลาดตรงไหนมั้ย ถ้าไม่มีจะเปลี่ยนทำไม” พล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณควบ รมว.กลาโหมต่อ สยบข่าวจะให้ พล.อ.ประวิตรกลับมาควบ รมว.กลาโหมตามเดิม

แต่ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดถึง รมช.กลาโหม

มีข่าวสะพัดออกมาจากนักการเมืองสายบ้านป่ารอยต่อฯ ว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจจะให้ พล.อ.ประวิตรคุมตำรวจตามเดิม หลังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว เพื่อเพิ่มเสริมบารมีและอำนาจในมือ

รวมทั้งจะเปลี่ยนตัว รมช.กลาโหม เพราะเห็นว่า พล.อ.ชัยชาญเป็น รมช.กลาโหมมาจะ 3 ปีแล้ว

ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตั้งบิ๊กทหารที่กำลังจะเกษียณกันยายนนี้ หรือบิ๊กทหารที่เกษียณไปแล้ว แต่เป็นน้องรัก

ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็แต่งตั้งนายทหารน้องรักเหล่านั้นเป็น ส.ว.ไปแล้ว ก็ไม่สามารถมาเป็น รมต.ได้ เช่น บิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกลาโหม สายทหารเสือราชินี

หรือแม้แต่บิ๊กอั๋น พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่กำลังจะเกษียณ

แต่ที่สุดแล้ว ชื่อของบิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. ก็มาแรงสุด

ทว่า พล.อ.ณัฐพลยังไม่เกษียณ แต่เกษียณกันยายน 2564 จึงมีข่าวสะพัดในกองทัพว่า นายกฯ จะขอให้ พล.อ.ณัฐพลลาออกจากราชการทหารมาเป็น รมช.กลาโหม ร่วม ครม. “ประยุทธ์ 2/2”

ที่เป็นการแก้ปัญหาการโยกย้ายทหารที่ไม่ลงตัว เพราะหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้ พล.อ.ณัฐพลไม่ได้ เพราะเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพลมา 2 ปีแล้ว จะให้นั่งรอง ผบ.ทบ.เป็นปีที่ 3 ก็จะยิ่งเสียระบบกองทัพบก เพราะแค่เป็นรอง ผบ.ทบ. 2 ปีก็ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว

อันเป็นการตัดจบกระแสข่าวที่ว่า นายกฯ จะดัน พล.อ.ณัฐพลไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด

แต่ทว่าจะได้เป็น รมช.กลาโหมหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป แม้ว่า พล.อ.ณัฐพลจะยังไม่ได้รับการทาบทามใดก็ตาม

แต่จากการทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์มายาวนาน ตั้งแต่บิ๊กตู่เป็น ผบ.ทบ. จนมาเป็นนายกฯ ในยุค คสช. 5 ปีแล้ว มาตอนนี้ ที่นายกฯ เรียกตัวจาก ทบ.มานั่งทำงานที่ทำเนียบ ช่วยงาน ศบค.ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ไว้วางใจและเชื่อมืออย่างมาก และเป็นกำลังหลักฝ่ายความมั่นคง เคียงข้าง พล.อ.สมศักดิ์เลยทีเดียว

จนเชื่อกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็คงจะต้องดูแล พล.อ.ณัฐพลคนทำงานแน่นอน แต่ไม่อาจดันไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด แต่หากจะให้เป็นเลขาฯ สมช. เจ้าตัวก็ไม่สบายใจ ที่จะไปตัดหน้าบิ๊กโจ้ พล.อ.ณตฐพล บุญงาม น้อง ตท.21 จ่อคิวรออยู่แล้ว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจที่จะไม่ล้วงลูกแทรกแซงการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ ที่ได้วางตัวกันไว้แล้ว

เพราะไฟเขียวให้บิ๊กแก้ว เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร ตท.21 ไว้แล้ว หลังจากที่นายกฯ เรียกมาปิดห้องคุยไปก่อนหน้านี้

ส่วน ผบ.ทบ.ก็จบลงที่บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ. (ตท.22) ตามเดิม

ทั้ง พล.อ.เฉลิมพล และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เป็นนายทหารคอแดงใน ฉก.ทม.รอ.904 และเกษียณกันยายน 2566 เช่นกัน

อันเป็นการสยบกระแสข่าวลือ สูตรการโยกย้ายสลับไขว้ข้ามห้วย ที่จะให้ พล.อ.ณัฐพลเป็น ผบ.ทหารสูงสุด แล้วให้ พล.อ.เฉลิมพลข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทบ. แล้วให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์รอไปก่อน

ใน บก.ทัพไทยนั้น เป็นที่รับรู้กันแล้วว่า พล.อ.เฉลิมพลจะขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทั้งจากการที่บิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี มอบหมายงานให้ พล.อ.เฉลิมพลทำแทนเกือบทุกอย่าง

และจากการจัดโผทหารที่มีบิ๊กแขก พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผบ.สปท. ขยับมาเป็นเสนาธิการทหาร ครองอัตราจอมพล เพราะเป็นเพื่อนทหารม้า เตรียมทหาร 21 ของ พล.อ.เฉลิมพล

ส่วนที่กองทัพบก คลื่นลมสงบ หลังจากบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สยบข่าวลือการต่ออายุราชการ

ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนว่า พล.อ.อภิรัชต์แคร์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ไม่น้อย จึงรีบออกมาสยบข่าวลือการต่ออายุราชการ

โดยให้เหตุผลว่า เป็นข่าวที่ไม่สร้างสรรค์ และจะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นถึงขั้นที่หยิบยกขึ้นมาพูดในวงประชุม ผบ.เหล่าทัพ

ทั้งนี้เพราะแม้จะรู้ดีว่าหมดสมัยการต่ออายุราชการไปแล้ว แต่ทว่าด้วยสถานภาพพิเศษของ พล.อ.อภิรัชต์ ก็อาจทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์หวาดระแวงได้

ส่วนอนาคตหลังเกษียณของ พล.อ.อภิรัชต์ ก็คงต้องรอดูต่อไปว่า จะมีตำแหน่งใดที่ไม่ใช่การเมืองรองรับ

แต่สายสัมพันธ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ น่าจับตามอง เพราะว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ที่อาจจะฟังบิ๊กแดงไม่มากนัก

ดังนั้น การจัดโผ ทบ.ครั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ก็น่าจะยอมให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์เลือกทีมเวิร์กได้บ้าง โดยเฉพาะ เสธ.ทบ.คู่ใจ

จึงมีข่าวสะพัดใน บก.ทบ.ว่า บิ๊กเปาะ หรือบิ๊กโต้ง พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ หัวหน้าสำนักงาน ผช.ผบ.ทบ. เพื่อนรัก ตท.22 เตรียมความพร้อมที่จะเป็น เสธ.ทบ. และเลขาธิการ กอ.รมน.แล้ว

แม้บิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 จะเป็นเพื่อนสนิท ตท.22 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็ตาม แต่ทว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์สนิทสนมซี้ปึ้กกับ พล.อ.อภินันท์มากกว่า ขั้นที่เรียกว่า มองตารู้ใจ รู้ทาง และรู้แนวกัน

จึงเป็นที่รู้กันว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์อยากได้ พล.อ.อภินันท์สายบุ๋นมาเป็นแม่บ้าน ทบ. เพื่อนคู่คิด

เพราะใน 5 เสือ ทบ.นั้น พล.อ.อภิรัชต์จึงน่าจะให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์แค่เลือก เสธ.ทบ.ได้

ส่วน ผช.ผบ.ทบ.นั้น เป็นไลน์ของ พล.ท.ธรรมนูญ ที่มาจากแม่ทัพภาคที่ 1 อยู่แล้ว เรียกได้ว่าอาจจะเป็นแม่ทัพภาคคนเดียวที่ได้ขยับขึ้น 5 เสือ ทบ.

หากเป็นไปตามนี้ ใน 5 เสือ ทบ.ก็มี ตท.22 เพื่อนของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ถึง 3 คน คือ บิ๊กบี้ บิ๊กโต้ง บิ๊กหนุ่ย

ส่วนแม่ทัพเดฟ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ (ตท.20) แม่ทัพภาคที่ 4 และแม่ทัพอี๋ด พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร (ตท.21) แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ได้เป็น พล.อ. ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ.

โดยที่ พล.ท.พรศักดิ์นั้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 มา 2 ปี ก็เหนื่อยเต็มที จึงพร้อมขยับออกมาอยู่ ทบ. ไม่ได้ต้องการจะเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ต่อ แต่ปล่อยให้ พล.อ.อภิรัชต์ตัดสินใจเลือกแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่เอง

ส่วน ผช.ผบ.ทบ.อีกเก้าอี้หนึ่งนั้น แม้เดิมจะมีชื่อบิ๊กป๋อ พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 และเพื่อน ตท.20 ของ พล.อ.อภิรัชต์

แต่ต้องไม่ลืมบิ๊กหน่อย พล.ท.วรเกียรติ รัตนานนท์ รอง เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ ต้องขึ้นมาเป็น พล.อ. 5 เสือ ทบ. เพื่อที่ ทบ.จะส่งข้ามห้วยไปเป็นปลัดกลาโหม ในโยกย้ายกันยายน 2564 แทน พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ที่ครบเกษียณ

เพราะในโผนี้มีการขยับรองเสนาธิการทหารบกทั้ง 5 คน ที่ก็ต้องได้เป็น พล.อ. ทั้งใน ทบ. และข้ามไป บก.กองทัพไทย

 

ตําแหน่งสำคัญที่ถูกจับตามอง และเป็นการสะท้อนการวางหมากของ พล.อ.อภิรัชต์ คือแม่ทัพภาคที่ 1

แม้โดยความชอบธรรมแล้ว แม่ทัพต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 จะต้องขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อจาก พล.ท.ธรรมนูญ เพราะถือว่าคุณสมบัติถูกทุกข้อ ทั้งเป็นนายทหารคอแดง และเป็นรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 เดินมาในสายคอมแมนด์ของทหารเสือราชินี ใน ร.21 รอ. เป็นทั้งผู้พัน ผู้การ และ ผบ.พล.ร.2 รอ.

ที่สำคัญที่สุดคือ เป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะอยู่ ร.21 รอ.ด้วยกันมา จนทำให้ พล.ท.เจริญชัยถูกจับตามองว่ามีโอกาสขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่เกษียณกันยายน 2566 เพราะ พล.ท.เจริญชัย ตท.23 เกษียณกันยายน 2567

แต่ทว่าก็มีปล่อยกระแสข่าวลือว่า เกิดรอยร้าวในใจของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กับ พล.ท.เจริญชัย ตั้งแต่อยู่กองทัพภาคที่ 1 ด้วยกัน

จนทำให้เกิดกระแสข่าวว่า อาจมีการดันรองอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 รุ่นน้อง ตท.24 ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เลย

ที่สำคัญคือ พล.ต.ทรงวิทย์รับหน้าที่ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ฉก.A และเจ้ากรมยุทธการ ของ ฉก.ทม.รอ.904 นี้มีกองหนุนพิเศษ จึงทำให้ชื่อของ พล.ต.ทรงวิทย์ถูกจับตามองว่าจะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ควบแข่งกับ พล.ท.เจริญชัยด้วยเช่นกัน

 

แม้ว่าหากเป็นไปตามสถานการณ์ปกติ พล.ท.เจริญชัยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ส่วน พล.ต.ทรงวิทย์ขึ้น พล.ท. เป็นแม่ทัพน้อยที่ 1

เพราะมองกันว่า พล.ท.เจริญชัยจะเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ในตุลาคม 2566 เพราะเขาเกษียณกันยายน 2567 โดยมี พล.ต.ทรงวิทย์ที่ไลน์จะขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 และห้าเสือ ทบ. และเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.ท.เจริญชัยได้ เพราะรองอ๊อบเกษียณกันยายน 2568

แต่กล่าวกันว่า คนเลือกแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ อาจจะไม่ใช่ พล.อ.อภิรัชต์ หรือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จึงทำให้ใน ทบ.ลุ้นตำแหน่งนี้กันมาก เพราะคนขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็หมายถึง การเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคตเลยทีเดียว

ส่วน พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.23) นั้น จากที่ลุ้นแม่ทัพน้อยที่ 1 ก็มีชื่อไปเป็นเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก แทนบิ๊กติ่ง พล.ท.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ ที่ขึ้นรอง เสธ.ทบ.

ขณะที่กองทัพเรือ เริ่มมีความชัดเจนว่า บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. จะเสนอชื่อบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน (ตท.20) ผช.ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่

ที่คาดว่า บิ๊กช่อ พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รอง ผบ.ทร. อาจจะต้องข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด หากพลาดเก้าอี้ ผบ.ทร.

โดยมีบิ๊กแมว พล.ร.อ.สมชาย ณ บางช้าง เป็นรอง ผบ.ทร. เสธ.แก๋ง พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม เสธ.ทร. เป็น ผช.ผบ.ทร.

ส่วน เสธ.ทร.น่าจับตาระหว่าง พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ (ตท.22) ผบ.ทัพเรือภาคที่ 3 กับ พล.ร.ท.ภราดร พวงแก้ว (ตท.21) รอง เสธ.ทร.

ส่วน ผบ.กองเรือยุทธการ มีชื่อของ พล.ร.ท.วราห์ แทนขำ (ตท.20) ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ กับ พล.ร.ท.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 เบียดกันอยู่ ในการคุมกำลังทางเรือ

ส่วน ทอ. พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. จะเสนอชื่อบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผู้ช่วย ผบ.ทอ. เพื่อน ตท.20 เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ โดยมีบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษดิ์พงษ์ วัฒนวรางกูร ที่เป็นน้องรักของ “2 ป.” เป็นรอง ผบ.ทอ.

หากจัดสูตรนี้ เสธ.ต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง เสธ.ทอ. คงจะไม่ได้ขึ้น ผช.ผบ.ทอ. เพราะอายุราชการถึงกันยายน 2565 จะชิง ผบ.ทอ.ในปีหน้าได้อีก จึงอาจถูกส่งไปเป็นรองปลัดกลาโหมเลย

และมีบิ๊กป้อม พล.อ.ท.ธนศักดิ์ เมตะนันทน์ รอง เสธ.ทอ. ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทอ.

ที่ต้องจับตาคือ บิ๊กหนึ่ง พล.อ.ท.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) รอง เสธ.ทอ. จะขึ้นมาเป็น เสธ.ทอ. และจ่อชิง ผบ.ทอ. กับ พล.อ.อ.สฤษดิ์พงษ์ และ พล.อ.ท.ธนศักดิ์ ในโยกย้ายตุลาคม 2564 เมื่อ พล.อ.อ.ธรินทร์เกษียณเลยทีเดียว

แต่หาก พล.อ.อ.สฤษดิ์พงษ์ได้เป็น ผบ.ทอ.ในตุลาคม 2564 จากนั้น พล.อ.ท.ชานนท์ และ พล.อ.ท.ธนศักดิ์ ก็ไปชิง ผบ.ทอ.กันอีก เพราะเกษียณกันยายน 2567 พร้อมกัน

      วิถีการแต่งตั้งโยกย้ายทหารก็เป็นเช่นนี้… แต่จะโยกย้ายอีกกี่ครั้ง ขั้วอำนาจในกองทัพก็ไม่ได้เปลี่ยน ตราบใดที่ยังมี “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” คุมอำนาจ ทั้งรัฐบาล พรรคการเมือง และกองทัพต่อเนื่องเช่นนี้