พิเคราะห์ “คลิปทะลุแสน” จากการอภิปราย “งบฯ 2564” เมื่อ “ก้าวไกล” แจ้งเกิดสำเร็จ!

เมื่อผ่านไปค่อนทาง ดูเหมือนการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม จะดำเนินไปอย่างเรียบเรื่อยเงียบเชียบ ไม่มีอะไรแปลกใหม่

สังเกตได้จากจำนวนคนดูการถ่ายทอดสดการประชุมสภาในช่วงสองวันแรกที่ไม่เยอะแยะมากมายเท่าปีที่แล้ว เช่นเดียวกับ #ประชุมสภา ที่มิได้ถูกใช้สอยอย่างคึกคักเปี่ยมความหวังในโซเชียลมีเดียเหมือนปีก่อน

แม้อาจมีการอภิปรายงบประมาณโดย ส.ส.มือเก๋าบางราย ที่ช่วยสร้างสีสันขึ้นมาได้บ้าง แต่นั่นก็เป็นคล้าย “ละครเรื่องเดิมๆ” ที่แสดงโดย “ดาราหน้าเดิมๆ” เพื่อตอบสนอง “คนดูกลุ่มเดิมๆ”

กระทั่งช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายของการอภิปรายงบประมาณในวันที่ 3 กรกฎาคม เดินทางมาถึง

เมื่อนั้น สถานการณ์จึงแปรเปลี่ยนไป

ขออนุญาตฉายภาพ-ลงรายละเอียดจากการสรุปความตามเนื้อหาข้างต้น ด้วยการอ้างอิงสถิติข้อมูลผู้ชมคลิปการอภิปรายงบประมาณ 2564 ของช่องยูทูบมติชนทีวี (matichon tv) ซึ่งมียอดผู้ติดตามเกิน 3 ล้านคน

จากการอภิปรายงบฯ สองวันแรก มีคลิปของ ส.ส.ฝ่ายค้านเพียงหนึ่งเดียวที่โกยยอดผู้ชมทะลุหลักแสน นั่นคือคลิป “ครูมานิตย์ เพื่อไทย” ชำแหละจัดงบประมาณไม่มีประสิทธิภาพ แล้วเอาโควิด-19 เป็นผู้ร้าย” ซึ่งนำเสนอการอภิปรายของ “ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม” ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่ทำยอดวิวไป 1.1 แสนครั้ง

กลับกลายเป็นว่าพรรคการเมืองที่สร้างผลงานได้ดีที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี ส.ส.ในพรรคหลายคนหันมาเล่นเกมวิพากษ์วิจารณ์การจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณอย่างเข้มข้นจริงจัง

นำโดย “ส.ส.ฝ่ายค้านในฟากรัฐบาล” คนดัง อย่าง “เทพไท เสนพงศ์” จากนครศรีธรรมราช ที่พาคลิป “เทพไท” โวย จาก “ทักษิณ” ถึง “ประยุทธ์” คนใต้ถูกทอดทิ้ง “บิ๊กตู่” ลุกโต้ทันควัน” ไปสัมผัสกับยอดผู้ชมจำนวนเกือบ 1.8 แสนวิว

ตามมาด้วยคลิป “ปชป.เล่นบทฝ่ายค้าน ซักฟอกงบฯ บิ๊กตู่มึนหนัก อยู่ข้างไหนกันแน่?” ที่นำไฮไลต์จากการอภิปรายของ “รังสิมา รอดรัศมี” “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” “เทพไท เสนพงศ์” และ “กนก วงษ์ตระหง่าน” มาตัดต่อรวมกัน ซึ่งได้ยอดวิวไป 1.6 แสนครั้ง

วันที่ 1-2 กรกฎาคมผ่านพ้นไป ประชาธิปัตย์คล้ายจะได้เล่นบทพระเอก (และนางเอก) ของการอภิปรายงบประมาณเที่ยวนี้ แม้คนดูล้วนตระหนักอยู่แก่ใจว่า ท้ายที่สุดแล้ว พระเอก/นางเอก (จำเป็น) คงไม่วายต้องยกมือเข้าข้างผู้ร้ายอยู่ดี

การอภิปรายในวันที่ 3 กรกฎาคม ยังดำเนินไปตามเค้ารอยเดิมๆ กระทั่งมาถึงช่วงเย็น

เริ่มจากการที่ “สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายงบประมาณในสัดส่วนกระทรวงคมนาคมอย่างเผ็ดมันไม่น้อย (คลิปนี้มียอดผู้ชมราว 4.7 หมื่นวิว)

ก่อนที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี จะลุกขึ้นมาตอบโต้ เพราะรู้สึกว่าตนเองโดนดูถูกสติปัญญา แล้วจึงหลุดปากลากโยงเรื่องทั้งหมดเข้าสู่ประเด็นอ่อนไหว ดังเนื้อความว่า

“มันไม่ทันใจท่านหรอกครับ ไม่ทันใจที่ท่านจะเปลี่ยนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราได้ ไม่ทันใจหรอกครับ”

หลังจากนั้นกระแสร้อนแรงจึงบังเกิดขึ้น โดย “ศิริกัญญา ตันสกุล” ผู้อภิปรายสรุปในส่วนของพรรคก้าวไกล ได้เปลี่ยนแนวทางการสื่อสารกับสาธารณะ จากที่เคยเป็นนักวิชาการบรรยายประกอบสไลด์ มาเป็นนักการเมืองหญิงมาดดุดันทั้งในแง่วาทศิลป์และบุคลิกภาพ

“ศิริกัญญา” วิจารณ์จุดอ่อนที่ยากแก้ไขของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณอย่างเป็นระบบ แล้วโยนข้อเสนอเด็ดขาด โดยท้าทายให้นายกฯ ประกาศยุบสภา เพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชน

ทั้งยังตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ย้ำอีกครั้งนะคะว่าสิ่งที่เราอยากให้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และไม่ทันใจ ซึ่งไม่ใช่ไม่ทันใจแต่เฉพาะพวกเรา แต่ไม่ทันใจประชาชน คือตัวท่านนายกรัฐมนตรี

“แต่แทนที่ท่านจะตระหนัก เมื่อสักครู่ท่านกลับดึงเอาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากลบเกลื่อนความผิดพลาดของท่านเอง ดิฉันคิดว่าท่านต้องปรับทัศนคตินะคะ เลิกคิดว่าคนเห็นต่างจากท่านเป็นพวกชังชาติ เป็นพวกไม่หวังดี เลิกป้ายสีว่าคนที่เห็นต่างจากท่านเป็นพวกคิดร้ายต่อสถาบันหลักของชาติ”

จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายที่คลิป “ศิริกัญญา” มาดุ! ประกาศคนไทยรอไม่ไหวแล้ว จี้นายกฯ ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน” จะมียอดวิวเกิน 1.6 แสนครั้ง

กระแสดราม่ายังอุบัติขึ้นต่อเนื่อง เมื่อ “บิ๊กตู่” ลุกขึ้นโต้ ส.ส.หญิง พรรคก้าวไกล ว่าแม้จะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่พูดจาเก่ง แต่ควร “ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน” เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย

ส่งผลให้ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกรายของพรรคก้าวไกล ต้องยกมือประท้วงประธานในที่ประชุม แล้วสอบถามว่าที่นายกฯ บอกให้ “ระวังตัว” นั้นหมายถึงอะไร? จะเกิดสิ่งใดขึ้นกับพวกตนหรือเปล่า?

เช่นเดียวกับ “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” อีกหนึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เห็นว่าคำพูดของผู้นำประเทศถือเป็น “การข่มขู่”

ขณะที่ “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.หนุ่ม อดีตนักกิจกรรม ก็ได้ประท้วง “ศุภชัย โพธิ์สุ” รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ปล่อยให้นายกรัฐมนตรีกดไมโครโฟนโต้เถียง “ส.ส.อมรัตน์” ตามอำเภอใจ โดยไม่ขออนุญาตท่านประธานก่อนตามข้อบังคับ

แน่นอนว่าคลิป “นาทีเดือด! นายกฯ หลุด นักการเมืองรุ่นใหม่ “ระวังตัว” ไว้ – ส.ส.ก้าวไกล รุมโต้ไม่มีกลัว” ซึ่งบันทึกสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้ สามารถดึงดูดผู้ชมคอการเมืองได้มากถึงเกือบ 2.4 แสนวิว

จนถือเป็นไฮไลต์โดดเด่นสุดในการอภิปรายงบประมาณรอบนี้

แม้คลิป “สุทิน” สรุปย้ำ งบฯ 2564 อย่างไรก็รับไม่ได้ แก้ใหม่เถอะ ทำนายอีกไม่นาน รบ.ต้องกู้เงินเพิ่ม” ซึ่งนำเสนอการอภิปรายของ ส.ส.มหาสารคาม “สุทิน คลังแสง” ที่เป็นผู้สรุปเนื้อหาของทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน (โดยมีประเด็นเห็นต่างจาก “ศิริกัญญา” ในเรื่องข้อเสนอยุบสภา) จะทำผลงานดีตามมาตรฐาน ด้วยยอดผู้ชม 1.4 แสนวิว

แต่ดูเหมือนการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2564 จะกลายสภาพเป็นเวทีแจ้งเกิดของพรรคก้าวไกล หรือ “พรรคอนาคตใหม่ในร่างใหม่” ผู้ก้าวเข้ามาแย่งซีนในช่วงท้ายเกมไปแล้วเรียบร้อย

ประจักษ์พยานสำคัญ ก็คือคลิป “สุดฮอต รวมฮิต ส.ส.ก้าวไกล เขย่า “ลุงตู่” หัวร้อน แบบ โหด มัน ฮา” ที่โกยยอดวิวไปร่วม 3 แสนครั้ง ขณะที่คลิป “สุดยอด “ดาวสภา” อภิปรายงบประมาณ 2564 เนื้อหา “หนักแน่น” ยิงเข้าเป้า” ซึ่งมี ส.ส.พรรคก้าวไกลติดโผอยู่ด้วยราวครึ่งหนึ่ง ก็ทำยอดวิวได้เกิน 1.7 แสนครั้ง

ตัวเลขจากหลังบ้านของยูทูบมติชนทีวีฉายภาพที่ไม่ต่างอะไรกับการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดยสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ซึ่งชี้ว่าถ้ามีการเลือกตั้ง ณ ปัจจุบัน ประชาชนมีแนวโน้มจะเลือกพรรคก้าวไกลมากที่สุด ขณะที่พรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐอาจมีคะแนนนิยมลดลง

นี่เป็นความสอดคล้องต้องตรงกันระหว่างผลงาน สถิติตัวเลข และความรู้สึกของประชาชน โดยมีอีกหนึ่งปัจจัยที่รอคอยการยืนยัน นั่นคือการเลือกตั้งทั่วไปรอบหน้า