อุรุดา โควินท์ / ทางรอดอยู่ในครัว : เบาสบายแต่อร่อย

ฉันอยากนิยามฤดูฝนปีนี้ว่าเป็นฤดูร้อนที่ฝนตกบ่อย วันไหนฝนไม่ตกก็ร้อนเจิดจ้าชนิดแสบตากันไป ส่วนฝนนั้นมาแบบขาดๆ หายๆ เหมือนไม่เต็มใจจะตก

บรรยากาศในเมืองดีขึ้น แต่ก็อย่างซึมๆ ยังไม่เห็นนักท่องเที่ยว มีแต่คนเชียงรายออกมาจับจ่ายซื้อของ กินก๋วยเตี๋ยวกันบ้าง ฉันคิดว่าเรากำลังใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่แค่ระวังสุขภาพ เงินในกระเป๋าเราก็ต้องระวัง

บ้านเป็นที่ซึ่งฉันรู้สึกปลอดภัยที่สุด ไม่ต้องใส่หน้ากาก ไม่ต้องล้างมือบ่อยๆ ไม่ต้องกังวลว่าช้อนจานสะอาดพอหรือยัง

เมื่อตุ๊กชวนไปกินมื้อเย็นในร้านอาหาร ฉันจึงบอกเธอให้มาบ้านฉัน ไม่ได้เจอตุ๊กกับสามีของเธอหลายเดือน ตอนที่เราเรียนด้วยกัน ทั้งสองคนเรียนเก่ง เป็นเด็กหัวกะทิของโรงเรียน ช่วงเรียนมัธยมเพื่อนของฉันเป็นแฟนกันหลายคู่ เป็นแฟนกับรุ่นพี่ก็มาก แต่จะมีสักกี่คู่ที่ได้แต่งงานกันอย่างคู่ของเธอ

ตุ๊กโทร.มาบอกฉันว่า ยังไม่ต้องเตรียมอะไร ไว้ไปตลาดด้วยกัน

ถือเป็นหนึ่งการเปลี่ยนแปลง ตุ๊กที่ฉันรู้จักไม่ชอบทำอาหาร และไม่มีวันเดินตลาด เธอว่า ตลาดสดมีกลิ่นที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย

 

“จ่ายในท็อปกันมั้ย” ฉันถาม ไม่อยากให้เธอไปเพราะเกรงใจ “ถ้าเชียงรายมีฟู้ดแลนด์ก็ดีสิ ของดีกว่าท็อปเยอะเลย ถูกกว่าด้วย”

ตุ๊กหัวเราะ “ท็อปแพงจะตาย เราจ่ายตลาดประจำเลย กาดหลวงบ้าง บ้านใหม่บ้าง”

ฉันทำตาโต

“เราต้องปรับตัวนะ” ตุ๊กบอก “ต้องประหยัดอ่ะ เงินเดือนเรากับพี่พงษ์ไม่ได้เยอะ ลูกก็กำลังเรียน แล้วตอนนี้ อย่างที่รู้ ทุกอย่างมันพังไปหมด มีงานทำก็รู้สึกว่าโชคดีแล้ว เป็นความโชคดีที่โหดร้ายสักหน่อย เพราะเงินเดือนก็โดนลด แต่นั่นล่ะ รอบๆ ตัวเรายังมีคนตกงานอีกเยอะเลย เราจะบอกว่าเราลำบากไม่ได้หรอก”

สถานการณ์ทำให้คนเปลี่ยน การปรับตัวเป็นความสามารถของมนุษย์ และเราปรับตัวได้มากกว่าที่เราคิดเสมอ

“เราดีใจนะ ที่ตุ๊กบอกว่ากินข้าวกันที่บ้านก็ได้ เพราะมันประหยัดกว่ามาก” ฉันบอกเธอ

“เธอเป็นยังไงบ้าง ยังโอเคมั้ย” ตุ๊กถาม

ฉันก็เหมือนตุ๊ก รายได้ลดลง ต้องพยายามลดรายจ่าย แต่ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ใช่คนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จึงเป็นเรื่องยากที่จะลดรายจ่ายลงอีก เหมือนรีดเลือดจากปูนั่นล่ะ มันไม่มีจะให้รีด

“โอเคสิ เรายังโอเค” ฉันบอกเธอ

ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง และการบอกว่าเราลำบากอย่างไร ไม่ได้ช่วยให้เราลำบากน้อยลง ตรงกันข้าม ดูเหมือนมันจะลดทอนกำลังใจของเรา

 

เราซื้อกุ้งจำนวนมาก เพราะกุ้งสดและราคาดี ตุ๊กบอกว่าเธอไม่อยากกินแป้ง ฉันก็เลยจะทำทอดมันกุ้งกินกับสลัด

ทำน้ำสลัดแบบญี่ปุ่นง่ายๆ มีผักอะไรก็จัดลงจาน เราโชคดี ได้รากบัวด้วย เอามาต้มแล้วหั่นเป็นแว่น ทำให้สลัดพิเศษขึ้นอีกหน่อย

“ต้มน้ำตาลก็อร่อยนะ รากบัวน่ะ” ฉันบอกเธอขณะเราขับรถกลับบ้าน “สนใจมั้ย”

ตุ๊กหัวเราะ “เราจะลดความอ้วนย่ะ ทำให้แฟนเธอกินเถอะ”

“เขาไม่กินของหวานสักกะอย่าง ผลไม้ที่หวานยังไม่กินเลย กินแต่ผักกับผลไม้เปรี้ยวๆ” ฉันบอก

 

กลับมาถึงบ้าน เราช่วยกันแกะกุ้ง ไม่ใช้ส่วนหัว ใช้แต่เนื้อ แล้วสับหยาบๆ

ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด ใส่เกลือนิดหน่อย คลุกให้เข้ากับเนื้อกุ้ง กุ้งมีรสหวานอยู่แล้ว ฉันจึงไม่ปรุงอะไรไปมากกว่านี้

น้ำสลัดนั้น ฉันทำแช่ตู้เย็นไว้ ใช้ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น น้ำเชื่อม น้ำส้มสายชูไวน์แดง ชิมให้ได้รส เปรี้ยว เค็ม หวาน แล้วเติมน้ำมันงาลงไปหน่อย แค่นี้ก็เรียบร้อย

มีสลัดแก้ว คอส เรดโอ๊ก ถั่วแดงต้ม รากบัวต้ม และผักทองนึ่ง ไม่มีแป้ง ฉันต้องการผักที่หนักท้องสักหน่อย

แช่ตู้เย็นไว้ทั้งผักและน้ำสลัด ตอนกินจะกรอบและอร่อย

ฉันเพิ่งเห็นว่าตุ๊กเอาไวน์ขาวมาด้วย เธอวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์ตั้งแต่เมื่อไรกัน มันเข้ากับอาหารมื้อนี้มากเลยล่ะ

เทแป้งสาลีอเนกประสงค์ลงชามที่หนึ่ง ชามที่สองคือไข่ไก่ที่ตีจนเนียนดี ชามที่สามคือเกล็ดขนมปังจำนวนมาก

“ทอดมันกุ้งน่ะยังไงก็อร่อย และทำไม่ยาก” ฉันบอกตุ๊ก

“อือ ถ้าไม่นับว่ามือต้องเปื้อนแบบนี้นะ” ตุ๊กว่า

ฉันอมยิ้ม ฉันให้เธอช่วยปั้นกุ้งสับที่ปรุงรสแล้วเป็นก้อน ปั้นเนื้อกุ้งวางในจานให้หมดก่อน แล้วเราจึงล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง

จับกุ้งมาคลุกแป้ง ชุบไข่ และชุบเกล็ดขนมปังเป็นอย่างสุดท้าย

ทุกขั้นตอนการชุบ ต้องทำอย่างเบามือ เพราะกุ้งสับไม่ใช่วัตถุดิบที่แข็งแกร่งนัก

ช่วยกันทำสองคน ใช้เวลาไม่นานก็ได้กุ้งจานใหญ่พร้อมทอด ล้างมือกันอีกครั้ง แล้วตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเยอะๆ

กุ้งสุกง่าย ทอดในน้ำมันร้อน ด้วยไฟแรง แต่ไม่แรงจัด ทอดกระทั่งเกล็ดขนมปังเป็นสีน้ำตาลทอง แล้วตักขึ้นมาพักไว้ในตะแกรง

ฉันเลือกจานสโตนแวร์ออกมา เสิร์ฟสลัดกับทอดมันกุ้งในจานเดียว โดยมีน้ำสลัดแยกต่างหาก

 

ตุ๊กกินไปสองจาน หลังไวน์หมดขวด เธอว่า “ควรเปิดร้านอาหาร”

“ทำไมทุกคนคิดว่าคนทำอาหารได้ต้องเปิดร้านด้วยนะ วิธีคิด วิธีทำงานของแม่ครัวในบ้านกับการทำร้านอาหารแตกต่างกันเหมือนฟ้ากับเหวเลยล่ะ”

ตุ๊กเลิกคิ้ว “แล้ว…”

“ไม่เปิดสิ ไม่เหมาะกับเรา”

ตุ๊กหัวเราะก๊าก “ดี ทำให้เรากินก็พอ อาทิตย์หน้าเจอกันอีกนะ จะซื้อเนื้อมาย่าง”