รายงานพิเศษ / ปฏิบัติการเขย่า ‘บิ๊กแดง’ ถล่ม ‘ผบ.ทบ.’ มะกัน ถล่มข่าวลือ ยันเคาต์ดาวน์ เตรียมเกษียณ Set Zero จาก ทบ. เตรียมส่งธงให้ ‘บิ๊กบี้’ จับตานับ 1 ที่ไหน?!

รายงานพิเศษ

 

ปฏิบัติการเขย่า ‘บิ๊กแดง’

ถล่ม ‘ผบ.ทบ.’ มะกัน

ถล่มข่าวลือ

ยันเคาต์ดาวน์ เตรียมเกษียณ

Set Zero จาก ทบ.

เตรียมส่งธงให้ ‘บิ๊กบี้’

จับตานับ 1 ที่ไหน?!

 

บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เป็นเป้าโจมตีทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายต่อต้านทหารมาอย่างต่อเนื่อง

ไม่แค่นั้น เพราะถูกจับตามองว่าจะเป็นทายาททางการเมืองของ “3 ป.” ในอนาคต จึงยิ่งทำให้ถูกจับจ้องมากขึ้น เพราะเหตุที่อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต

หลังมีข่าวว่า ในอนาคต พล.อ.อภิรัชต์จะกลายเป็นชื่อที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก

จึงไม่แปลกที่ไม่ว่าจะมีอะไรที่มีชื่อ พล.อ.อภิรัชต์เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะถูกกระหน่ำ

รวมทั้งกรณีที่ พล.อ.James McConVille ผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทย ในฐานะแขกของกองทัพบก เมื่อ 9-10 กรกฎาคม 2563

ด้วยเพราะมีการปูดข่าวบิดเบือนว่า ผบ.ทบ.สหรัฐ และคณะไม่ยอมตรวจโควิด และไม่ยอมกักตัว

จนทำให้ทั้ง ผบ.ทบ.สหรัฐ และ พล.อ.อภิรัชต์ ถูกโจมตีอย่างหนัก

แถมมีการปล่อยข่าวจาก ศบค. ว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ขอให้เลื่อนออกไปก่อน แต่ทางสหรัฐไม่ยอมเลื่อน

แต่เพราะ ผบ.ทบ.สหรัฐมีกำหนดการเยือนทั้งสิงคโปร์ มาไทย และไปญี่ปุ่นไว้แล้ว ทาง ศบค.จึงกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะถือเป็นคณะแรกที่จะต้องทำเป็นมาตรฐาน สำหรับต่างชาติคณะอื่นที่จะมาเจรจาธุรกิจ หรือเซ็นสัญญาของนักธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติด้วย

“นายกฯ ไม่เคยบอกว่าให้เลื่อนการเดินทางเลย และทาง ผบ.ทบ.สหรัฐยอมทำตามมาตรการของเราทุกอย่าง” พล.อ.อภิรัชต์กล่าว

ไม่แค่นั้น อีกปมประเด็นที่ถูกนำไปกระพือตะแบง คือเหตุที่ ผบ.ทบ.สหรัฐขอที่จะให้ทีมแพทย์ ทบ.สหรัฐ หรือทีม AFRIMS ที่ทำงานวิจัยร่วมกับ ทบ.ไทย ที่ประจำการอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นทีมตรวจโควิด-19 ให้ เมื่อมาถึงสนามบิน

แต่ทาง พล.อ.ประยุทธ์ให้ความเห็นตามที่สาธารณสุขแนะนำว่า ควรจะให้ทีมแพทย์ของ สธ.ไทยเป็นทีมตรวจ และจัดทีมติดตามคณะตลอดเวลาที่อยู่ในไทย

ซึ่งทางทีมประสานงานของ ผบ.ทบ.สหรัฐก็ยอมที่จะปฏิบัติตามนั้น โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ โดยมีทีม สธ.ไทยและทางสหรัฐด้วย

โดยทำการตรวจโควิดที่สหรัฐ และกักตัว 14 วันมาแล้ว มีใบรับรองแพทย์ Fit to Fly และตรวจก่อนเดินทาง และมาตรวจที่สนามบินเมื่อมาถึงทันที และจะไปตามกำหนดการเท่านั้นใน 2 วัน ด้วยคณะเล็ก 6 คน

แต่ข่าวนี้ถูกกระพือออกมา จนทำให้เข้าใจไปว่า ผบ.ทบ.สหรัฐไม่ยอมตรวจโควิด และเลยไปถึงไม่ต้องกักตัว

ทั้งๆ ที่ ศบค.มีคำสั่งออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว ทั้งข้อกำหนดฉบับ 12 (2)

และคำสั่ง ศบค.ที่ 7/2563 (2) เพราะเป็นคณะที่ได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรี และเป็นแขกของหน่วยราชการ ที่มาไม่เกิน 14 วัน ไม่ต้องกักตัว

 

ร้อนถึง พล.อ.อภิรัชต์ที่ต้องออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะทำให้ ผบ.ทบ.สหรัฐเสียหาย จากการถูกบิดเบือนว่าไม่ยอมตรวจโควิด และไม่ยอมกักตัว

แถมมีการสืบสาวราวเรื่อง ก็รู้ที่มาที่ไป จนทำให้ได้รู้ว่า ที่ถูกโจมตีนั้น ไม่ใช่แค่เพราะฝ่ายตรงข้ามที่จ้องเขม็งอยู่แล้วเท่านั้น

แต่ยังมีการเมืองภายในอีกด้วย

งานนี้ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ไม่แฮปปี้ เพราะเป็นการบิดเบือนข่าว เพราะคณะของ ผบ.ทบ.สหรัฐไม่เคยขอหรือต่อรองที่จะไม่ตรวจโควิดเลย เขาไม่เคยปฏิเสธ และยอมปฏิบัติตามตั้งแต่ต้น

โดยครั้งนี้มาลงนามในการแถลงวิสัยทัศน์ร่วมระหว่างกองทัพบกไทย-สหรัฐ ซึ่งมีข้อตกลงเรื่องการฝึก การศึกษาแลกเปลี่ยน ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อครั้ง รมว.กลาโหมของสหรัฐมาเยือนไทยเมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา และลงนามในวิสัยทัศน์ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์มาแล้ว

เรื่องนี้กลายเป็นปมประเด็นที่ พล.อ.อภิรัชต์ต้องชี้แจงด้วยตนเองถึง 2 ครั้ง และทำให้รู้ว่าตนเองกลายเป็นเป้าของการโจมตีมากแค่ไหน

ไม่แค่นั้น ในช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหารครั้งใหญ่ ที่ 4 ผบ.เหล่าทัพจะเกษียณราชการพร้อมกันหมด และกำลังจะเลือก ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่มาแทนนั้น ยังปรากฏกระแสข่าวลือที่ว่าจะมีการต่ออายุราชการ พล.อ.อภิรัชต์เพียงคนเดียว

ที่ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ถูกโจมตีอีกระลอก

แม้ในยุคนี้การต่ออายุราชการเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และหมดสมัยไปแล้ว และรัฐบาลก็ไม่มีนโยบายในการต่ออายุราชการก็ตาม แต่ก็ยังมีคนเชื่อว่ามีความพยายามที่จะต่ออายุจริง

เพราะ พล.อ.อภิรัชต์สนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ และเป็นกำลังหลักของขั้วอำนาจ 3 ป.

แถมทั้งการเป็นนายทหารที่มีสถานะพิเศษ ที่เป็น ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ.904)

กระแสโจมตีเกิดขึ้นอีกประเด็น เพราะถูกมองว่าฝ่าย พล.อ.อภิรัชต์ปล่อยข่าว โยนหินถามทาง เพื่อหยั่งเชิง หยั่งกระแส

แต่ฝ่าย พล.อ.อภิรัชต์มองว่า มีคนไม่ประสงค์ดีปล่อยข่าวเพื่อให้เกิดความหวาดระแวงกันเองใน ทบ.

โดยเฉพาะระหว่าง พล.อ.อภิรัชต์ กับบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ. ที่เป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ทบ.คนใหม่ 1 ตุลาคม 2563 นี้

เพราะในเวลานี้ พล.อ.อภิรัชต์เตรียมนับถอยหลังเกษียณราชการแล้ว ทั้งการผ่องถ่ายงานให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์

และเตรียมสรุปผลงานความคืบหน้าด้านต่างๆ เพื่อเตรียมแถลงต่อสื่ออีกครั้งก่อนเกษียณ

ที่มีข่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์จะขึ้นเวทีทอล์กอีกครั้ง เป็นการทิ้งทวน เพื่อสรุปงาน และสายตรง ผบ.ทบ.ในปลายเดือนสิงหาคมนี้

 

“ทําไมเราต้องมานั่งรายงาน เพราะเราเป็นองค์กรที่มีระเบียบวินัย เมื่อพูดอะไรไปแล้ว ‘คำพูดเป็นนาย’ เมื่อได้รับคำสั่ง ก็ต้องปฏิบัติ ใครผิดก็ต้องลงโทษ ใครไม่ดีลงโทษ ย้าย ปลด” ผบ.ทบ.กล่าว

โดยเฉพาะการแก้ปัญหาธุรกิจสวัสดิการทหารให้เป็นสวัสดิการเชิงพาณิชย์ ตามที่ได้ลงนามกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังไปแล้ว และการดูแลทหารชั้นผู้น้อย

รวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นของเยาวชนคนรุ่นใหม่ จากการเดินสายพบปะพูดคุย นักศึกษาวิชาทหาร หรือ ร.ด. จนนำมาซึ่งการผ่อนคลายระเบียบ ร.ด. ทั้งทรงผมไม่ต้องเกรียน ขาวสามด้านแบบทหาร หัวเข็มขัด รองเท้า ไม่ต้องมันเงามากนัก

และการไปพบปะพูดคุยกับนักเรียนนายสิบ ทบ. และกับนายร้อย จปร. จนถึงขั้นที่เป็น ผบ.ทบ.คนแรกที่ไปกระโดดร่มกับนักเรียนนายร้อย จปร.

แม้แต่การเจรจาลับกับคนคิดต่าง อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เมื่อครั้งยังเป็นหัวหน้าพรรคและเลขาฯ พรรคอนาคตใหม่

ที่สำคัญที่สุดคือ การให้โอกาสแก่ลูกหลานประชาชน ในการให้พลทหารสอบเข้าโรงเรียนนายสิบ ทบ.ได้มากขึ้นถึง 560 นาย โดยให้คะแนนพิเศษกับพลทหารที่สมัครใจ ขอยืดปลดประจำการ ขอเป็นพลทหารต่อ และไปเรียนหลักสูตรส่งทางอากาศ โดดร่ม และแก้ระเบียบเรื่องรอยสัก ให้สมัครเป็นพลทหารได้

และหากต้องการเข้าโรงเรียนนายสิบ ทบ. ใครมีรอยสักนอกร่มผ้า ก็ให้หน่วยพาไปลบรอยสักให้ฟรี ด้วยเครื่องลบรอยสักคุณภาพสูง ที่ พล.อ.อภิรัชต์จัดหามาให้

โดย พล.อ.อภิรัชต์เตรียมเดินสายอำลาหน่วยต่างๆ ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ ส่วน ทบ.เตรียมจัดงานมุทิตาจิต วันเกษียณอายุให้ พล.อ.อภิรัชต์ ในวันที่ 30 กันยายน 2563 และมีการรวบรวมภาพต่างๆ ของ พล.อ.อภิรัชต์เพื่ออำลา

ที่เป็นดัชนีว่า พล.อ.อภิรัชต์เตรียมตัวที่จะเกษียณ

และเต็มใจที่เกษียณ เพราะอยากพักผ่อน ถึงขั้นที่ พล.อ.อภิรัชต์บอกกับคนใกล้ชิดว่า จะไม่เล่นการเมือง พอแล้ว เตรียมเกษียณ

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีกระแสข่าวการต่ออายุ พล.อ.อภิรัชต์เพราะถูกจับตาว่า หลังเกษียณจาก ทบ.แล้ว พล.อ.อภิรัชต์ จะมีตำแหน่งใดนอก ทบ. และไม่ใช่การเมืองรองรับ

เพราะมีการจับตามองกันว่า ก่อนเกษียณราชการ 30 กันยายนนี้ พล.อ.อภิรัชต์ที่เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) อาจได้ทำหน้าที่ในการถวายงานใน ทม.รอ. ต่อหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น พล.อ.อภิรัชต์ก็จะเกษียณจาก ทบ. แต่อาจไปทำหน้าที่ในส่วนอื่นต่อไป

จึงไม่แปลกที่เมื่อถูกถามว่า มีคนจับตามองอนาคตหลังเกษียณราชการ พล.อ.อภิรัชต์จะบอกว่า “ก็ให้เขาจ้องต่อไปแล้วกัน”

โดยยืนยันการเป็นทหารอาชีพ และมีแนวทางการรับราชการทหารที่ชัดเจน คือจะต้องเกษียณราชการ

ทั้งตนเองและผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนที่จะเกษียณราชการ ที่ได้มีการคุยกันในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพแล้วว่า ข่าวที่ออกมา ไม่ใช่ข่าวสร้างสรรค์ และจะทำให้เกิดความขัดแย้ง พร้อมมองว่า ข่าวลือต่ออายุที่ออกมา เป็นการสร้างกระแส และมันไม่มีสาระ ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น

“30 กันยายน ผมก็ ‘ส่งธง’ แล้ว ส่งมอบหน้าที่ จบภารกิจ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่ออายุผม การรับราชการมาได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่ามันดีที่สุดกับกองทัพ กับประเทศชาติ ที่สำคัญคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง และต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคนที่จะต้องมารับหน้าที่ต่อในการทำหน้าที่นี้ต่อ” บิ๊กแดงระบุ

“ผมเมื่อจบภารกิจ จบบทบาท ผมก็เซ็ตซีโร่ตัวเอง”

แต่ พล.อ.อภิรัชต์ก็ยังไม่ยอมตอบว่า หลังเกษียณจะไปทำอะไร

แม้หาก พล.อ.ประยุทธ์จะให้มาช่วยงาน ก็คิดว่า นายกฯ ก็คงไม่ทำแบบนั้น

“แล้วตัวผมเองก็คงไม่เข้าไปมีบทบาท อย่าลืมว่านายกฯ บริหารประเทศ มาจากการเลือกตั้ง มาโดยรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การที่จะเลือกสรรบุคคลคนใดที่จะเข้ามาทำงาน ผมว่าคงไม่ใช่ผมหรอกครับ”

แต่ก็ยังถูกจับตามองว่า หลังเกษียณจาก ทบ. จะไปทำหน้าที่ต่อในส่วนใด

เพราะยังต้องเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี หลังพ้นตำแหน่ง ส.ว.เสียก่อน

 

เป็นที่รู้จักดีว่า บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ. และรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 นายทหารคอแดง รุ่นน้อง ตท.22 เกษียณ 2566 จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ต่อจาก พล.อ.อภิรัชต์แน่นอน

และทำหน้าที่นายทหารคอแดง ที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเข้มข้น

แม้ดูเหมือนจะมีหลายตำแหน่งยังไม่ชัดเจน แต่ในระดับหัว ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่นั้น ก็ไม่มีปัญหา

ทั้งบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร นายทหารคอแดง ฉก.ทม.รอ.904 (ตท.21 เกษียณ 2566) ที่จะเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคนใหม่แทนบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่เตรียมผ่องถ่ายงานให้ พล.อ.เฉลิมพลแล้ว

พล.อ.อภิรัชต์เผยว่า ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการหารือเรื่องการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารแล้ว ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหา แต่ยังเหลืออีกหลายขั้นตอนและยังคงมีเวลา

โดยมีข่าวว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเสนอชื่อบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผช.ผบ.ทร. (ตท.20 เกษียณ 2564) จะได้รับการเสนอชื่อ เป็น ผบ.ทร.คนใหม่

และ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะเสนอชื่อบิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ. (ตท.20 เกษียณ 2564) คาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

โดยทั้ง พล.ร.อ.ชาติชาย และ พล.อ.อ.เอกธรินทร์ เป็นเพื่อน ตท.20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ด้วย

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้นโยบายในการจัดโผ ด้วยการจัดระดับหัว คือ ผบ.เหล่าทัพ และ 5 เสือเหล่าทัพ ให้ลงตัวก่อน จะได้ไม่มีปัญหาขยับไปขยับมา

  แต่ที่แน่ๆ นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น จากนี้ปฏิบัติการข่าวปล่อยข่าวลือ กระแสข่าวต่างๆ เตรียมสะพัด รับฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหารอีกครา