ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 กรกฎาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
กรองกระแส
สถานการณ์กดดัน
ทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง
สถานการณ์ปรับ ครม.
ในเมื่อมีองค์ประกอบถาโถมเข้ามามากมายล้วนแต่นำไปสู่ความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับ ครม.ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะจากเงื่อนไข 1 การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
1 การลาออกจากหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล
1 การพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐของนายอุตตม สาวนายน การพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
ทั้งเป็นการพ้นในลักษณะอันมีการกดดัน รุกไล่
ไม่ว่าจะจากภายในพรรครวมพลังประชาชาติไทยอันเห็นได้จากการเสนอชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่เข้ามา
ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการแข็งกร้าวดุดันภายในพรรคพลังประชารัฐ
ไม่เพียงแต่ปลดระดับหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หากแม้กระทั่งนายทะเบียนพรรค หรือกรรมการบริหารในเครือข่ายก็ถูกขับออกไปจนหมดสิ้น
แล้วเหตุใดการปรับ ครม.จึงต้องทอดเวลายาวออกไปโดยไม่มีกำหนด
หน้าที่ปรับ ครม.
กับนายกรัฐมนตรี
มีความแจ่มชัดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์
แจ่มชัดว่า อำนาจในการปรับ ครม.เป็นของนายกรัฐมนตรี
แต่สภาพความเป็นจริงในทางการเมืองนับแต่การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นต้นมามีความเด่นชัดยิ่งว่าจำเป็นต้องปรับ ครม.
ยิ่งเมื่อเข้าสู่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ความเรียกร้องต้องการในการปรับ ครม.ยิ่งขึ้นสู่กระแสสูง ไม่เพียงเพราะความบกพร่องในห้วงแห่งการเผชิญกับไวรัสโควิด-19 เท่านั้น
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ ความเรียกร้องต้องการในการเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ
เป็นแรงกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระดับโลก เป็นผลสะเทือนจากมาตรการ “เข้ม” ในห้วงแห่งการปิดเมือง ปิดงาน ปิดอาชีพ ภายใต้การประกาศและบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน
จำเป็นต้องเข้าสู่ “นิวนอร์มอล” จำเป็นต้องมีการปรับ ครม.เพื่อรับมือกับ “สถานการณ์”
กระสวนปรับ ครม.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ความจริง เมื่อ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อำลาตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยเสนอตัวรัฐมนตรีคนใหม่มาให้นายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถปรับ ครม.ได้โดยอัตโนมัติ
เพราะว่าตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นไปตามสัดส่วนและโควต้าของพรรครวมพลังประชาชาติไทย จึงเป็นเรื่องที่สามารถต่อเนื่องไปได้เลย
ความล่าช้าในการปรับ ครม.จึงน่าจะมาจากปัจจัยอื่น
เป็นปัจจัยจากปัญหาและความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐที่เกิดปรากฏการณ์เปลี่ยนตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอย่างชนิดถอนรากถอนโคนมากกว่า
นั่นก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าไปแทนที่นายอุตตม สาวนายน
เมื่อภายในพรรคพลังประชารัฐต้องการเปลี่ยนแปลง หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรคอย่างชนิดถอนรากถอนโคนจึงกลายเป็นความหนักใจของนายกรัฐมนตรี
เพราะย่อมสะเทือนถึงตำแหน่งอันเป็นโควต้าของพรรคพลังประชารัฐไปด้วย
ผลดีและผลร้าย
จากการปรับ ครม.
เหมือนกับการทอดเวลายาวนานออกไปในการปรับ ครม.จะสะท้อนให้เห็นอำนาจและการควบคุมบงการรัฐบาลอยู่ในมือของนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่ความเป็นจริง ยิ่งล่าช้ายิ่งสะท้อนความขัดแย้งภายใน
หากว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ให้กับนายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ยิ่งจะขยายความขัดแย้งให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น
เพราะ 3 คนนี้ถูกกดดันจากภายในพรรคพลังประชารัฐอย่างรุนแรง แข็งกร้าว
ขณะเดียวกัน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปฏิบัติตามข้อเสนออันมาจากกลุ่มกุมอำนาจใหม่ภายในพรรคพลังประชารัฐ ความขัดแย้งก็ไม่ยุติลงอย่างง่ายดาย
เพราะเท่ากับสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มของนายอุตตม สาวนายน
การปฏิเสธกลุ่มของนายอุตตม สาวนายน ซึ่งมีส่วนกับรัฐบาลตั้งแต่ยุคหลังรัฐประหาร เท่ากับเป็นการปฏิเสธผลงานที่คิดว่าเป็นความสำเร็จของตนเอง
เท่ากับยอมรับว่า 6 ปีที่ผ่านมาเป็นความล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จ
สถานการณ์กดดัน
จำต้องปรับ ครม.
ความเรียกร้องต้องการในขณะนี้มิได้เป็นความเรียกร้องต้องการจากภายในพรรคพลังประชารัฐ จากภายในพรรครวมพลังประชาชาติไทย ให้มีการปรับ ครม.เท่านั้น
หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง ก็เรียกร้องอย่างจริงจัง
สถานการณ์เศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องการความเชื่อมั่นจากรัฐมนตรีที่จะนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นไปจากวิกฤตอันหนักหนาสาหัส
หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 มากมายหลายเท่า
สถานการณ์การเมืองภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรียกร้องการเมืองใหม่ อย่างที่เรียกกันว่า “นิวนอร์มอล” เพื่อสร้างความหวังใหม่ในการเมือง
การเมืองที่สร้างสรรค์ การเมืองที่สามารถแก้ปัญหาและนำพาประเทศตีฝ่าพ้นไปจากวิกฤต