ระวังตัวไว้บ้างก็แล้วกัน / ฉบับประจำวันที่ 10-16 กรกฎาคม 2563

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2564
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำพูด “หลุด” ไปยังส.ส.พรรคก้าวไกล
“มันไม่ทันใจท่านหรอกครับ ไม่ทันใจที่ท่านจะเปลี่ยนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราได้ ไม่ทันใจหรอกครับ”
เท่านั้นก็เป็นเรื่อง
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกล อภิปรายตอบโต้ทันที
“สิ่งที่เราอยากให้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และไม่ทันใจ ซึ่งไม่ใช่ไม่ทันใจแต่เฉพาะพวกเรา แต่ไม่ทันใจประชาชน คือตัวท่านนายกรัฐมนตรี แต่แทนที่ท่านจะตระหนัก เมื่อสักครู่ท่านกลับดึงเอาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากลบเกลื่อนความผิดพลาดของท่านเอง ฉันคิดว่าท่านต้องปรับทัศนคตินะคะ เลิกคิดว่าคนเห็นต่างจากท่านเป็นพวกชังชาติ เป็นพวกไม่หวังดี เลิกป้ายสีว่าคนที่เห็นต่างจากท่านเป็นพวกคิดร้ายต่อสถาบันหลักของชาติ”
เจอหนักอย่างนี้ มีหรือ พล.อ.ประยุทธ์จะนิ่งเฉย
ลุกขึ้นโต้ น.ส.ศิริกัญญาว่า แม้จะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่พูดจาเก่ง แต่ควร “ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน” เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย
คำพูดดังกล่าว ส่งผลให้ “นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกรายของพรรคก้าวไกล ต้องลุกขึ้นถามว่า ที่นายกฯ บอกให้ “ระวังตัว” นั้นหมายถึงอะไร? จะเกิดสิ่งใดขึ้นกับพวกตนหรือเปล่า?
ประสานกับ “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” อีกหนึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เห็นว่าคำพูดของผู้นำประเทศถือเป็น “การข่มขู่”
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็โต้กลับทันควัน
“จะพูดอย่างไม่เข้าใจแบบนี้ไม่ได้ ที่ผมบอกให้ระวังตัวคือระวังตัวในเรื่องของข้อกฎหมายที่อาจจะทำผิดได้ ผมก็ระวังของผม ท่านก็ต้องระวังของท่าน ความหมายของผมคือแค่นี้ ไม่ได้ไปขู่อะไรท่าน เข้าใจไหม ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดอะไรจะกลัวอะไร”
เมื่อนายกฯ พูดจบก็เดินออกไปจากที่นั่งทันที

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยืนยันว่าที่เตือนระวังตัว คือให้ระวังเรื่องกฎหมาย
แต่กระนั้น การที่ พล.อ.ประยุทธ์แฉลบไปว่า
“มันไม่ทันใจท่านหรอกครับ ไม่ทันใจที่ท่านจะเปลี่ยนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราได้ ไม่ทันใจหรอกครับ”
มีผู้มองว่า มันสะท้อนปมที่ฝังลึกในใจของ พล.อ.ประยุทธ์ที่มีต่อพรรคก้าวไกล และพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไป
ซึ่งแน่นอน รวมไปถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้าด้วย
ในฐานะกลุ่มมีแนวคิดที่เป็นอันตรายต่อชาติ
อันเป็นจุดยืนที่ “ตรงกันข้าม” กับจุดยืนของฝ่ายของตนเอง
จึงมีเป้าจำกัด ขจัดตลอดมา
แต่ก็พยายามวางตัว “ห่างๆ” โดยโยนให้เป็นเรื่องของ “กฎหมาย”
และยืนกรานว่า เมื่อทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ

ซึ่งแน่นอนในฝั่งฟากพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพวก ย่อมไม่เห็นด้วย
และวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดเกี่ยวกับกฎหมายที่มีหลายมาตรฐาน
ขณะเดียวกัน ก็ขับเคลื่อนหรือทำกิจกรรมท้าทายฝั่งฟาก พล.อ.ประยุทธ์อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
อย่างเรื่องงบประมาณปี 2564
พรรคก้าวไกลได้เสนอชื่อนายธนาธรเข้าไปเป็นกรรมาธิการวิสามัญ ในสัดส่วนของพรรคด้วย
เป็นการท้าทายกลายๆ ว่าแม้จะยุบพรรคอนาคตใหม่ จะตัดสิทธิการเมืองนายธนาธร
แต่ก็มีช่องเปิดให้นายธนาธรมีเวทีเล่แน่นอน
และย่อมเป็น “หนาม” ให้ฝั่งฟากรัฐบาลรำคาญใจ
อย่าง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้มีการปรับตัวเลขงบประมาณครั้งใหญ่ เช่น โครงการซื้อเรือดำน้ำ รวมถึงเสนอจะตัดงบฯ ของกระทรวงกลาโหม 11,000 ล้านบาท เพื่อไปเพิ่มดีกรีความพร้อมทางสาธารณสุขแทนให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม
แน่นอนท่าทีและจุดยืนเช่นนี้ ย่อมทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์
หงุดหงิดใจเพิ่มอย่างแน่นอน

นอกจากการเข้าไปเป็นกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณแล้ว
นายธนาธร ในนามคณะก้าวหน้า ยังประกาศส่งผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งระดับ “ท้องถิ่น”
มีเป้าหมายในการส่งครั้งนี้มากกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 4,000 แห่งทั่วประเทศ
เพื่อต่อต้านฝ่ายเผด็จการที่ไม่อยากให้มีการเบือกตัะงท้องถิ่น
พร้อมประกาศว่า
“คณะก้าวหน้าพร้อมจะเขย่าการเมืองท้องถิ่น ดั่งพวกเราเคยเขย่าประเทศไทยมาแล้ว”

เป้าหมายที่ชูต่อต้านเผด็จการ ด้วยการเดินหน้าลุยเลือกตั้งท้องถิ่น
แน่นอน ย่อมกระทบกับฝ่ายที่กุมอำนาจอยู่ในขณะนี้อย่างหลีกเลี่ยงยาก
ดังที่เราได้ยินคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เผลอหลุดออกมาในสภา
“มันไม่ทันใจท่านหรอกครับ ไม่ทันใจที่ท่านจะเปลี่ยนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราได้ ไม่ทันใจหรอกครับ”
ซึ่งเป็นการเตือนตรงๆ ถึง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ว่ามีสิทธิจะเจออะไรที่ไม่คาดฝันได้ตลอด
ตั้งแต่ทุบ ยุบ คุก!
ดังที่เตือนไว้ในสภา
“ระวังตัวไว้บ้างก็แล้วกัน”
————————————————–