ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | เชิงบันไดทำเนียบ |
ผู้เขียน | ปรัชญา นงนุช |
เผยแพร่ |
เมื่อ ‘พยัคฆ์เฒ่า’ ในนาม 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ก้าวสู่สนามการเมือง หนึ่งในศึกที่ต้องรับคือการงัดข้อกับบรรดานักการเมือง ที่ไม่สามารถสั่งจัดแถวได้เหมือนทหาร สิ่งที่ทั้ง 3ป. ต้องเผชิญอีกคือการรับมือกับ ‘ข่าวปล่อย’ ทั้งที่มีมูลและไม่มีมูล ทำให้กระทบสัมพันธ์ทั้ง 3ป. ล่าสุดคือ ปฏิบัติการยึดพรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดย ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะ ‘เจ้าของพรรคตัวจริง’ ขึ้นนั่ง หน.พรรค เอง หลังใช้ ‘4กุมาร’ เป็น ‘ทนายหน้าหอ’ เพื่อลดภาพพรรคทหาร-สืบทอดอำนาจ
.
กลายเป็นจุดที่ทำให้มีการมองว่า ‘2ป.ประวิตร-ประยุทธ์’ เกิดรอยร้าวขึ้น เพราะปฏิบัติการยึดพรรคคืน ส่งผลต่อเรตติ้งของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปด้วย เพราะปฏิบัติการเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ยังไม่ทันซาหรือสะเด็ดน้ำ จนทำให้ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ ออกมาซัดกลับ “ไม่ใช่เวลามาพูดถึงอำนาจ จะเอาอำนาจไปทำอะไร” ทำให้บรรยากาศใน ครม.เป็นไปอย่างอึมครึม แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเรียก ‘อุตตม – สนธิรัตน์’ มาพูดคุยที่ ทำเนียบฯ แต่กลับสงบศึกได้เพียงชั่วคราว
.
จนสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกมาชี้แจงในทำนอง ‘ไม่ขัดข้อง’ หาก พล.อ.ประวิตร จะขึ้นเป็น หน.พรรคฯ แต่ต้องทำหน้าที่ รองนายกฯ – หน.พรรค พร้อมกันให้ได้ อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ก็ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยในเรื่องนี้ ในเรื่องเหตุผลความจำเป็นต่างๆ
“ท่านก็รับปากว่า ถ้าจำเป็น ที่จะต้องเป็น ก็จะทำให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าท่านอยากเป็นไหม ท่านก็ไม่เคยบอกว่าท่านอยากเป็น แต่เมื่อถึงเวลาเมื่อจำเป็น ก็อาจจะต้องเป็น ซึ่งผมก็ทราบมาอย่างนี้ แค่นั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
“บางทีคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เราก็ต้องไปดู” พล.อ.ประวิตร ตอบสื่อถึงความจำเป็นในการเข้าไปดูแล พปชร.
.
สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำคำวิจารณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ รู้เห็นกับปฏิบัติการยึดพรรคคืนหรือไม่ไปในตัว ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปิดประตูตัวเองว่าจะขึ้นเป็น หน.พลังประชารัฐ เองในอนาคตหรือไม่ ว่า “ยังไม่ได้คิดอะไรเลย”
รวมทั้งมีการปล่อยข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะกลับมาคุมตำรวจอีกครั้ง โดยรอให้ ‘บิ๊กแป๊ะ’พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เกษียณฯก.ย.63ก่อน หลัง พล.อ.ประวิตร คุม ตร. นั่งเก้าอี้ ประธาน ก.ตร. ในยุค คสช. มายาว 5 ปี ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมาคุมแทนในยุครัฐบาลเลือกตั้ง ท่ามกลางศึกที่เกิดขึ้นใน ‘กรมปทุมวัน’ โดยเฉพาะปรากฏการณ์ ‘โจ๊กเอฟเฟกต์’ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาปฏิเสะกระแสข่าวจะมานังคุ่ม ตร. โดยส่ายหน้าและบอกว่า “ไม่จริง”
อีกกระแสข่าวที่มีอีกคือ พล.อ.ประวิตร จะควบเก้าอี้ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย แทน ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทว่าก็ยังคงเป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น ซึ่งข่าวในลักษณะนี้มาตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. การที่ข่าวดังกล่าวกลับมาอีกครั้งเพราะชื่อ พล.อ.ประวิตร แผ่บารมีไม่น้อยในรั้วมหาดไทย ซึ่งตำแหน่ง รมว.มหาดไทย นี้เป็นตำแหน่งโควต้าของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการเลือกเข้ามา แน่นอนว่าเก้าอี้ รมว.กลาโหม- มหาดไทย ยังคงอยู่ในมือ 3ป. อย่างแน่นอน อีกทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ ก็อยู่ระหว่างการให้ ก.มหาดไทย เตรียมพร้อมการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ พล.อ.ประยุทธ์ หวังให้เกิดขึ้นในปีนี้ให้ได้ ทำให้ปี่กลองการเมืองท้องถิ่นเริ่มขยับ ว่าที่แคนดิเดตที่จะลงเลือกตั้งท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ เริ่มเปิดตัวกลุ่มต่างๆและลงพื้นที่กันมากขึ้น
.
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า 3ป. ยังคงเหนียวแน่น ไม่มีอะไรมาแทรกกลางได้ ตามสำนวนที่ว่า ‘เลือดข้นกว่าน้ำ’ แม้ไม่ได้เป็นพี่น้องกันโดยสายเลือด แต่สายสัมพันธ์กว่า 40 ปี กรำศึกทั้งในทางทหาร-การเมืองมา ทั้ง 3ป. เป็นพี่น้องที่จะ ‘ล่มหัวจมท้าย’ ไปด้วยกัน
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่