แมลงวันในไร่ส้ม / ข่าวทับซ้อนโควิด พปชร.ดันบิ๊กป้อม กดดัน ‘ปรับ ครม.’

แมลงวันในไร่ส้ม

ข่าวทับซ้อนโควิด

พปชร.ดันบิ๊กป้อม

กดดัน ‘ปรับ ครม.’

 

ความเคลื่อนไหวปรับ ครม.ในพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่รัฐบาลเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

กลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. แทนนายอุตตม สาวนายน ใช้วิธีให้กรรมการบริหารพรรค 18 คนยื่นใบลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ซึ่งรวมถึงหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค รุกคืบหน้าไปเรื่อยๆ

กระทั่งมีการกำหนดวันประชุมใหญ่ เพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้

มีการแห่ขันหมากไปสู่ขอ พล.อ.ประวิตรให้มานั่งเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบิ๊กป้อมตอบรับนั่งหัวหน้าพรรคแล้ว

ส่วนเลขาธิการพรรคจะได้แก่ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท แกนนำพรรค ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงตอนหาเสียงเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ทั้งที่มีการรับปากรับคำเอาไว้

หากการประชุมใหญ่ผ่านพ้นไปเรียบร้อยในวันที่ 27 มิถุนายน ก็จะตามมาด้วยการผลักดันให้ปรับ ครม. โดยมีเป้าหมายที่ทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

สำหรับทีมของนายสมคิด ผู้ที่ดึงเข้ามาทำหน้าที่ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเกิดกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรีเองไม่อยากปรับเปลี่ยน หากไม่มีตัวเลือกที่สังคมให้ความเชื่อถือ

พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ย้ำหลายครั้งว่า การเปลี่ยนแปลงในพรรคเป็นเรื่องของสมาชิกพรรค ส่วนการปรับ ครม. ตนเองจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะปรับหรือไม่และเมื่อไหร่

อย่างไรก็ตาม ได้เกิดการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของ “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล พร้อมกับประกาศว่า พร้อมจะพ้นจากตำแหน่ง รมว.แรงงานที่นั่งอยู่ด้วย

และพรรครวมพลังประชาชาติไทยก็ได้ประกาศทันทีว่า จะส่งนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำพรรค มารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทน

ทำให้เกิดการคาดหมายว่า การลาออกของหม่อมเต่าจะเป็นตัวเร่งให้การปรับ ครม.เกิดเร็วขึ้น

ที่เป็นข่าวฮือฮาได้แก่ การปิดประตูคุยกันของ 3 ป. เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน หลังประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ครั้งที่ 1/2563

พล.อ.ประยุทธ์ได้ดึงมือ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไปนั่งคุยที่ห้องรับรอง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

และเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 19 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ได้ไลน์ส่งข้อความไปหานายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่า ไม่ปรับ ครม.อะไรทั้งสิ้นช่วงนี้ เพราะยังปวดหัวกับการแก้ปัญหาเงินเยียวยา ในส่วนของประกันสังคมที่ยังล่าช้า และปัญหาในส่วนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย

รายงานข่าวยังระบุว่า ในไลน์ พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกกับนายสมคิดว่า การพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นการพูดคุยเรื่องอื่น ไม่ใช่เรื่องปรับ ครม.

และต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์เรื่องการปรับ ครม.ว่า การคัดเลือกใครเป็นรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องของเขา อย่าเอาอันนั้นมาตีกันตรงนี้ จะเอาตรงนั้นมากดดันผมไม่ได้ เพราะผมเคารพในสัดส่วนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว

“แต่บางส่วนผมจำเป็นต้องบริหารเอง เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่จะตั้งกันมาจนเกิน ครม.แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรับตอนนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

ในห้วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ยังมีกระแสข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ ว่า กลุ่มพรรคเล็กได้เริ่มรวมตัวต่อรองขอตำแหน่ง รมต.

อาทิ พรรคพลังท้องถิ่นไท เสนอขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับนายชัชวาลล์ คงอุดม และกลุ่มพรรคเล็ก 9 พรรคจาก 11 พรรค เสนอชื่อนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นรัฐมนตรี

และมีกระแสข่าวว่า นายสมคิดและทีม รมต.เศรษฐกิจถอดใจ จะขอวางมือ แต่ทีมนายสมคิดระบุว่า เป็นการปล่อยข่าวจากอีกขั้วในพรรค

และมีข่าวตามมาอีกว่า การปรับควรจะเกิดขึ้นหลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณ 2564 ผ่านสภาแล้ว ซึ่งจะตกประมาณเดือนตุลาคม

วันที่ 22 มิถุนายน มีข่าวสะพัดว่า นายกรัฐมนตรีได้แจ้งพรรคร่วมรัฐบาลหากพรรคใดต้องการปรับตำแหน่งรัฐมนตรี ให้ส่งรายชื่อภายในวันที่ 7-9 กรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยกับนักข่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และในส่วนของพรรค ภท. ก็ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าจะยังได้โควต้าเดิมหรือไม่ เพราะภูมิใจไทยได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น และรัฐมนตรีของพรรคจะยังเป็นคนเดิมอยู่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรทั้งสิ้น ยังไม่รู้ว่าจะปรับเมื่อไรด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับหลังผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 นายอนุทิน ได้แต่พยักหน้าและกล่าวสั้นๆ ว่า “ค่อยว่ากัน”

 

น่าสังเกตว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปรับ ครม.ในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้อธิบายและตอบคำถามต่อสื่ออย่างต่อเนื่อง

หลังการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์และกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจมาปีนี้ทั้งปี

โดยกล่าวถึงรัฐบาลว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย รัฐมนตรีมาจาก ส.ส. และรัฐมนตรีที่เหมาะสม ที่นายกฯ จำเป็นต้องมีในส่วนตรงนี้ด้วย

“อันนี้เป็นการพูดคุยกันในเรื่องของการเมือง แต่ไม่อยากให้เอาการเมืองมาพันทั้งหมด หากบ้านเมืองเสียหายใครรับผิดชอบ ใครจะแก้ไหว ถ้าต่างประเทศเชื่อไปด้วยยิ่งไปกันใหญ่”

“ตอนนี้เรื่องธุรกิจ การค้าการลงทุนก็มีปัญหาอยู่ เรื่องอะไรที่พูดจาไกล่เกลี่ยกันได้ เป็นเรื่องของกฎหมายกระบวนการตรวจสอบ ก็ว่ากันไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ ซึ่งวันนี้ส่วนใหญ่ชอบนำมาเป็นประเด็นในการสร้างการรับรู้ในเวทีของสื่อเยอะแยะ โดยการพูดของพิธีกร มันก็เลยขัดแย้งไม่จบ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

การเคลื่อนไหวให้ปรับ ครม.ที่เริ่มนับหนึ่งแล้ว คงจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

ที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ การตัดสินใจสุดท้ายเป็นหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะมีแรงกดดันของการเมืองภายใน พปชร.ที่จะมี “พี่เลิฟ-บิ๊กป้อม” นั่งหัวหน้าพรรคเป็นปัจจัยสำคัญด้วย

 

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่