ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต cars@khaosod.co.th
เจาะสเป๊ก 2 เก๋งสปอร์ตต่างสายพันธุ์
‘โตโยต้า Supra’ – ‘เบนซ์ C 300’
วี้ดวิ้วกันแน่นอนสาวกพันธุ์สปอร์ต กับการมาถึงของ ‘โตโยต้า จีอาร์ ซูปรา’ (Toyota GR Supra 2020 Edition) เก๋งสปอร์ต 2 ประตู และการอวดโฉมเมอร์เซเดส-เบนซ์ ‘C 300 e AMG Sport’
แม้รายหลังจะเป็นรถแบบ 4 ประตู แต่การออกแบบและอารมณ์การขับขี่ไม่ต่างจากเก๋งสปอร์ตสักเท่าไหร่
เริ่มกันที่รุ่นที่เพิ่งอวดโฉม ‘โตโยต้า จีอาร์ ซูปรา’ พัฒนาและแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการโดย Toyota GAZOO Racing แบรนด์รถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของโตโยต้า
ถ่ายทอดประสบการณ์อันเป็นที่สุดแห่งการผสมผสานสุดยอดสมรรถนะในการขับขี่ และเอกลักษณ์สไตล์รถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ภายใต้แนวคิด ‘Condensed Extreme’ ที่มุ่งเน้นการจัดสรรองค์ประกอบและมิติต่างๆ ของตัวรถให้ส่งเสริมสมรรถนะอันโดดเด่นของรถ
กระจังหน้าเอกลักษณ์ของซูปรา ไฟหน้า Adaptive LED แบบ 6 เลนส์ พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED
ส่วนไฟท้าย ไฟตัดหมอกหลัง และไฟเบรกดวงที่ 3 เป็บแบบ LED ทั้งหมด
แบ่งช่องดักลมด้านหน้าออกเป็น 3 ช่องขนาดใหญ่ เพื่อให้ลมไหลผ่านตัวรถได้ดีขึ้น
แนวสันด้านข้างตัวถังที่ถูกกดให้ต่ำและโป่งนูนออกมามากเป็นพิเศษ ส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุมและมีเสถียรภาพในระดับสูง
กระจกมองข้างแบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ (Hydrophilic) พร้อมปรับไฟฟ้า, ระบบบันทึก และปรับลดแสงอัตโนมัติ
ท่อไอเสียคู่
ล้ออัลลอยสีดำด้าน ขนาด 19 นิ้ว
ตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกที่ล้อด้านหน้า ด้วยโลโก้ ‘Supra’
ภายในโทนสีดำ พวงมาลัยขนาดเหมาะมือพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นและแป้นเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift)
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบ 3 มิติ หน้าจอ HUD แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี
เบาะนั่งหนังแท้ทรงสปอร์ตมีให้เลือกทั้งสีดำ-แดง หรือดำ-น้ำเงิน คู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Heater และปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า
เครื่องเสียงพร้อมระบบนำทาง และลำโพง JBL 12 ตำแหน่ง สั่งการผ่านจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา)
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V 2 ตำแหน่ง ที่คอนโซล และที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Push Start and Smart Entry)
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 6 สูบ 24 วาล์ว เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 387 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
เพิ่มค้ำโช้กและปรับช่วงล่างใหม่ เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ลดการบิดของตัวถัง ให้เสถียรภาพในการเข้าโค้งที่ดียิ่งขึ้น
ความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกในการขับขี่จัดเต็ม เด่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (DRCC) แบบ All-Speed Range, ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (LDA)
ระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง
กล้องมองภาพขณะถอยหลัง ถุงลมนิรภัยรอบคัน ฯลฯ
‘โตโยต้า จีอาร์ ซูปรา’ ราคา 5,199,000 บาท
ส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ C 300 e AMG Sport เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดดีไซน์สปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า EQ Power เจเนอเรชั่นที่ 3
รูปลักษณ์ภายนอกเด่นด้วยไฟ LED ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดีไซน์ที่สะดุดตาของไฟหน้าและไฟท้ายซึ่งส่องสว่างในตอนกลางวัน จะส่องสว่างอย่างโดดเด่นในตอนกลางคืน
ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ AMG Body styling พร้อม Night Package สีดำเงา ทั้งในส่วนของกระจังหน้า กันชนหน้า และกันชนหลัง
ล้ออัลลอย AMG 5 twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ
ห้องโดยสารเริ่มตั้งแต่วัสดุตกแต่งห้องโดยสารแบบ Open-pore black ash wood และอะลูมิเนียม
เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่หุ้มด้วยหนัง Artico leather สีดำตัดสลับด้วย DINAMICA Micro-fibre ไปจนถึงแผงหน้าปัดดิจิตอลเต็มรูปแบบ
หน้าจอเรือนไมล์ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้มากถึง 3 สไตล์ ได้แก่ Classic, Sporty และ Progressive
ยังสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ตามต้องการ เพื่อลดขั้นตอนการเข้าเมนู และทำให้ผู้ขับขี่ใช้เวลาในการอ่านข้อมูลน้อยลง ไม่ต้องละสายตาจากถนนเป็นเวลานาน
ระบบความบันเทิง Audio 20 สามารถใช้งานได้ทั้งบนหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว และบนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
เชื่อมต่อสมาร์ตโฟน พร้อมระบบ Apple CarPlay รวมถึงทุกฟังก์ชั่นบนระบบ Audio 20 GPS ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีการรบกวนผู้ขับขี่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
และอีกหนึ่งไฮไลต์ในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz C 300 e AMG Sport ก็คือ แสงในห้องโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนได้สูงสุด 64 สี ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสร้างบรรยากาศของห้องโดยสารที่ชอบ และเติมเต็มอารมณ์การขับขี่ที่ต้องการได้ทุกครั้ง
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,991 ซีซี ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 จังหวะแบบ 9G-TRONIC ที่ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร
เมื่อผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกที่ 122 แรงม้า
เมื่อขับขี่ด้วย E-Mode ไปไกลกว่าเดิมถึง 30% หรือพิสัยการวิ่งถึง 50 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ที่สามารถทำได้ในเวลาเพียง 5.4 วินาที
อุปกรณ์ความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกมาครบครันสไตล์รถยุโรป
นอกจากสวยและซิ่งได้ใจแล้ว ราคาถือว่าน่าคบหาสำหรับรถจากค่ายดาวสามแฉก
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ‘C 300 e AMG Sport’ ราคา 2,699,000 บาท
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่