รับประกัน BY ป๋า (อีกแล้ว)

“การที่เรามาพร้อมเพรียงกันวันนี้ แสดงให้เห็นว่านายกฯ เป็นที่ไว้วางใจได้ จะเป็นผู้นำของเราตราบใดที่นายกฯ ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะประสบความสำเร็จ

ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี จะมีความภูมิใจมาก หยิ่งในตัวเองมาก ว่าเกิดมาทั้งทีเราเป็นคนดี เราทำงานเพื่อชาติ เพื่อบ้านเมืองของเรา ไม่ได้ทำให้ใครทั้งนั้น แต่ทำให้คนไทยทุกคน…ไม่ว่าคนไทยนั้นจะชอบเราหรือชอบเราน้อยก็ไม่เป็นไร เราก็ทำตามไปตามสิ่งที่เรามุ่งมั่นปรารถนาให้ประเทศชาติของเรารุ่งเรือง เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี จะภูมิใจมากที่มีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ขอให้นายกฯ มีความภาคภูมิใจว่า เกิดมาทั้งที เราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราได้ทำให้ประเทศชาติบ้านเมือง เป็นผู้นำที่ดี เป็นผู้นำที่สร้างความเชื่อมั่นให้คนในชาติของเราว่า รัฐบาลนี้ นายกรัฐมนตรีคนนี้ ผบ.เหล่าทัพเหล่านี้ จะทำเพียงอย่างเดียว คือนำความสุขกลับมาให้คนไทย

ก็ขอให้ความตั้งใจมุ่งมั่นปรารถนาอันแรงกล้าของนายกรัฐมนตรีประสบผลสำเร็จ ตามที่นายกรัฐมนตรีปรารถนา

ผมไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีเอาเวลาที่ไหนไปนอน เห็นทำแต่งาน..คงเป็นสิ่งที่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของพวกเราทุกคนของคนไทยว่ารัฐบาลนี้ทุ่มเททุกอย่าง เพื่อความสุขของพวกเรา ขอบคุณมาก นายกรัฐมนตรี”

เป็นอีกครั้งที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แสดงการสนับสนุนและยืนอยู่เคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ โดยเปิดเผย

คำพูดดังกล่าว มีขึ้นระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรี และ ผบ.เหล่าทัพ รดน้ำดำหัวขอพร พล.อ.เปรม ตามประเพณีไทย เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา

และว่าที่จริง พล.อ.เปรม ผู้มากด้วยบารมี ได้แสดงจุดยืนเช่นนี้มาตั้งแต่รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 แล้ว

ทบทวนกันเล็กน้อย…
ช่วงส่งท้ายปีเก่า 2557 ต้อนรับปีใหม่ 2558 พล.อ.เปรม ได้กล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า

“การยึดอำนาจของ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมนั้น เชื่อว่าประชาชนคงดีใจที่บ้านเมืองสงบ ไม่มีความขัดแย้ง เป็นการแสดงให้เห็นว่า หากมีความจำเป็น ทหารก็ต้องออกมาดูแลบ้านเมือง และนายกรัฐมนตรีควรจะภูมิใจ เพราะเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นว่า หากตั้งใจจะทำอะไร ก็สามารถทำได้ และทำได้ดีด้วย หากชาติบ้านเมืองอยู่ในภาวะคับขัน ทหารจะเข้ามาดูแล ตามที่ได้ปฏิญาณตนไว้”

และเมื่อ 26 สิงหาคม 2558 ในโอกาส พล.อ.เปรม ฉลองวันเกิดครบรอบ 95 ปี ย่างเข้า 96 ปี ได้กล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้าอวยพรว่า

“ผมมั่นใจว่าถ้าพวกเรายังดำรงความรัก ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมใจกันทำ เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อมอบให้ประชาชน เมื่อนั้นมั่นใจว่า ตู่ คุณป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) คนอื่นๆ จะนำความสุขคืนให้ประชาชน และจะทำให้เกิดความปรองดองในชาติได้แน่นอน”

“ต้องร่วมมือกันอย่างนี้ รักกันอย่างนี้ตลอดไป เพราะจะสร้างเกียรติประวัติให้กับกองทัพของเรา และให้กับรัฐบาล อีกทั้งเราก็จะมีความสุขบนความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากบนความเสียสละที่เรามีให้ประชาชนคนไทยทุกคน อีกทั้งขอชื่นชมและขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้มองเห็น ขอให้ประชาชนมองเห็น มองเห็นความเสียสละของพวกเราที่มีต่อประชาชน”

ทั้งนี้ พล.อ.เปรมมาย้ำอีกครั้งในวันที่ 30 ธันวาคม 2558 เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

“พวกเราไม่ได้เข้ามาเพื่อหวังอำนาจ แต่เข้ามาเพื่อชาติ บ้านเมือง และประชาชนของเรา ทั้งนี้ ผมคงจะช่วยพวกท่านได้ไม่มากนัก เพราะอายุมากแล้ว แต่จะช่วยคิดและให้กำลังใจ ให้ความรู้ได้บ้างพอสมควร อีกทั้งผมเป็นเพื่อนพวกท่านทั้งหลาย ถ้ามีสิ่งใดที่จะช่วยพวกท่านได้ก็พร้อมที่จะช่วยด้วยความเป็นเพื่อน เป็นมิตร และความสามัคคี ขอจบด้วยคำว่า ความดีคือเกราะกำบัง ก็ขอให้ทำความดี ซึ่งความดีเป็นเกราะป้องกันไม่ให้มาทำอันตรายกับเราได้ ถ้าทุกคนทำความดีทุกวัน ก็จะเป็นเกราะที่แข็งแรง และจะช่วยให้เราพบความสำเร็จ มีใจชื่นบานในการช่วยเหลือคนอื่น”

ยิ่งไปกว่านั้น พล.อ.เปรม ที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวน้อยครั้ง ยังยอมให้สัมภาษณ์ถึงความประทับใจในตัว พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จได้ เพราะ

ข้อที่หนึ่ง เขามีความมุ่งมั่น

ข้อที่สอง เขาเป็นคนสะอาด บริสุทธิ์ ภริยาเขาก็สะอาดบริสุทธิ์ ครอบครัวก็สะอาดบริสุทธิ์

เพราะฉะนั้น คนที่สะอาด บริสุทธิ์ กล้าที่จะทำอะไรก็ได้ที่มันเสี่ยงๆ เพราะตัวไม่มีแผล จึงคิดว่าเขาทำได้

ก้าวสู่ปี 2559 พล.อ.เปรม ก็ยังอยู่เคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป

โดยบอกในวันเกิดว่า

“ตู่ เดี๋ยวนี้ป๋าอายุมากแล้ว ก็อยากจะช่วยตู่เท่าที่สามารถจะช่วยได้ ซึ่งสิ่งที่ช่วยคือ เวลาคุยกับใครก็จะไปบอกเค้าว่าทำไมตู่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้มันเหนื่อยเปล่าทำไม ป้อม (พล.อ.ประวิตร) ต้องมาช่วยน้องชาย และเจี๊ยบ (พล.อ.ธนะศักดิ์) ต้องมาช่วยเพื่อน พวกเราทุกคนเห็นว่ามีความจำเป็นในการเข้ามาในสถานการณ์เช่นนี้ ที่พูดไม่ได้หมายความว่าเรามาทำเพื่อใคร แต่เราทำเพื่อคนไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ขอให้ตู่มั่นใจว่าทหารแก่อย่างเราจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ตู่สามารถทำงานบรรลุภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของชาติ ถ้าไม่ได้ก็ต้องทำต่อไปจนกว่าจะได้ หากมีอุปสรรคก็ต้องแก้ไข”

และเมื่อ 29 ธันวาคม 2559 ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2560 พล.อ.เปรมก็ย้ำว่า อยากให้ทุกคนมั่นใจว่าภายใต้การนำของนายกฯ จะทำให้ความเหนื่อยของเราสิ้นสุดโดยเร็ว

การตอกย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าของ พล.อ.เปรม ในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะหลังสุดในช่วงก่อนสงกรานต์ และหลังที่มีรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้แล้ว

ทำให้มีการมองว่า นี่อาจจะไม่ใช่เพียงการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำแค่ตามโรดแม็ป

แต่อาจจะทะลุยาวตามที่รัฐธรรมนูญเปิดทางไว้ นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องเหนื่อยต่อไป ในฐานะ “นายกรัฐมนตรีคนนอก”

โดยมีโมเดลเหมือนสมัยที่ พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยสามารถบริหารเหนือพรรคการเมือง โดยมีวุฒิสภา กองทัพ ข้าราชการ เป็นฝ่ายสนับสนุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานถึง 8 ปี และได้รับการยกย่องเป็นรัฐบุรุษ

แม้ว่าประเทศจะถูกมองว่าเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ แต่ก็สามารถนำพาประเทศไปสู่ความเจริญมั่นคงได้

ด้วยโมเดลที่สำเร็จแล้วนี้เอง อาจทำให้ พล.อ.เปรม เชื่อว่า พล.อ.ปรนะยุทธ์ น่าจะสืบทอดได้

ซึ่งจะจริงหรือไม่ เวลาที่เหลืออีกปีเศษๆ ก็น่าจะมองเห็น

ส่วนเมื่อเห็นแล้ว

จะเป็นสวรรค์ หรือนรก ก็แล้วแต่วาสนา พล.อ.เปรมคงตามไปการันตีไม่ได้