เชื้อไฟความแค้นเคืองจากการถูกเลือกปฏิบัติของคนผิวสีในสหรัฐอเมริกาถูกเติมให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เมื่อเรย์ชาร์ด บรูกส์ ชายผิวสีวัย 27 ปีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม

เหตุเกิดขึ้นในค่ำคืนของวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีชายหลับในรถ ขวางถนนที่เป็นเส้นทางรับสินค้าแบบไดรฟ์ทรูของร้าน “เวนดี้” เครือข่ายร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของสหรัฐ

คลิปวิดีโอจากหลากหลายมุมเผยให้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยคลิปจากกล้องที่หน้าอกของเดวิน บรอสแนน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาถึงเป็นนายแรก ในเวลาราว 22.40 น. แสดงให้เห็นบรอสแนนพยายามเคาะกระจกเรียกบรูกส์ที่นอนหลับอยู่ในรถหลายครั้ง

จากนั้นบรูกส์ที่รู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความงัวเงีย บรอสแนนบอกให้บรูกส์เลื่อนรถไปจอดในช่องจอดซึ่งบรูกส์ก็ปฏิบัติตาม

บรอสแนนสอบถามบรูกส์อีกครั้งว่าดื่มมาหรือไม่ บรูกส์ตอบว่าดื่มมาเพียงแก้วเดียว และในขณะที่บรูกส์กำลังหาใบขับขี่ของตนอยู่ บรอสแนนก็เรียกการ์เร็ตต์ รอล์ฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายมาเพื่อร่วมทำการทดสอบอาการเมาแล้วขับ

ซึ่งไม่กี่นาทีต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจรอล์ฟก็เดินทางมาถึง

 

หลังจากรอล์ฟได้รับแจ้งข้อมูลจากบรอสแนน แล้วรอล์ฟก็เริ่มสอบสวนบรูกส์ ซึ่งบรูกส์ยืนยันว่า ตนจำไม่ได้ว่ามาอยู่ในช่องไดรฟ์ทรูดังกล่าวได้อย่างไร และดูเหมือนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนกำลังอยู่ที่ไหน

ไม่กี่นาทีต่อมาในเวลา 23.00 น. รอล์ฟเริ่มทำการทดสอบอาการเมาแล้วขับทางกายภาพ รวมถึงมีการใช้เครื่องเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งบรูกส์ก็อธิบายอีกครั้งว่าตนดื่มมา และบอกด้วยว่าวันนี้เป็นวันเกิดของลูกสาว

จากนั้นรอล์ฟก็แจ้งข้อหาเมาแล้วขับกับบรูกส์ และเตรียมใส่กุญแจมือ

“ผมคิดว่าคุณดื่มมากเกินกว่าที่จะขับรถได้ ช่วยเอามือไพล่หลังด้วยครับ”

ในวินาทีนั้นเองที่เกิดการยื้อยุดกันขึ้น บรูกส์พยายามดิ้นเพื่ออิสระ ส่วนตำรวจอีก 2 นายพยายามเข้าควบคุมตัว

คลิปวิดีโอจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ แสดงให้เห็นบรูกส์คว้าปืนช็อตไฟฟ้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้

มีเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนเตือน “เอามือออกจากปืนไฟฟ้านั่นซะ” ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกนายตะโกนว่า “อย่าขัดขืน”

ในที่สุดบรูกส์แย่งปืนช็อตไฟฟ้าไปได้และหลุดจากมือเจ้าหน้าที่บรอสแนน ขณะที่กำลังยืนขึ้นบรูกส์ชกไปที่หน้าของเจ้าหน้าที่รอล์ฟ 1 ครั้ง

รอล์ฟลุกขึ้นหยิบปืนช็อตไฟฟ้าขึ้นมาและยิงไปที่บรูกส์ ขณะเดียวกันก็วิ่งตามบรูกส์ไปติดๆ

จังหวะนี้กล้องวงจรปิดของร้านเวนดี้จับภาพเอาไว้ได้ โดยรอล์ฟที่วิ่งตามไป สลับเอาปืนช็อตไฟฟ้าที่ถือด้วยมือขวาไปถือด้วยมือซ้ายก่อนจะจับไปที่ปืนพกที่เอว

ด้านบรูกส์เองก็หันมาใช้ปืนไฟฟ้าเล็งมาที่รอล์ฟ จังหวะนี้เองที่รอล์ฟก็ชักปืนพกออกมาและยิงสวนไป 3 นัด จนบรูกส์ล้มลง

ท่ามกลางสายตาประชาชนที่ใช้กล้องมือถือถ่ายเหตุการณ์เอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามปั๊มหัวใจบรูกส์และเรียกรถพยาบาลมายังที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายบรูกส์ก็เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล

กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่บันทึกเสียงของผู้เห็นเหตุการณ์ที่ต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายเอาไว้ได้ด้วย

“อาชีพของแกทั้งคู่จบเห่แล้ว เพราะแกยิงชายคนนี้อย่างไร้เหตุผล” ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งระบุ

 

ทนายความของครอบครัวบรูกส์เปิดเผยในวันถัดมาว่า บรูกส์เพิ่งฉลองวันเกิดให้ลูกสาววัย 8 ปี และวางแผนจะพาลูกสาวไปเล่นสเก๊ตในวันรุ่งขึ้น

“เธอใส่ชุดฉลองวันเกิด และกำลังรอพ่อมารับเพื่อพาเธอไปเล่นสเก๊ต” คริส สจ๊วต ทนายความระบุ และเปิดเผยด้วยว่า บรูกส์มีลูกสาว 3 คนอายุ 1, 2 และ 8 ขวบ และเพิ่งพาลูกสาวไปเที่ยวก่อนหน้านั้น 1 วัน รวมถึงในวันที่เขาเสียชีวิตด้วย

คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วและปะทุกลายเป็นการประท้วงที่รุนแรงถึงขั้นเผาร้านเวนดี้ที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจรอล์ฟถูกไล่ออกจากราชการในทันที ส่วนเจ้าหน้าที่บรอสแนนถูกย้าย ขณะที่เอริกา ชิลด์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐแอตแลนตา ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที

เหตุการณ์นี้นับเป็นอีกเหตุการณ์ที่เติมเชื้อไฟแห่งความโกรธแค้นของกลุ่มคนผิวสีที่มักถูกเลือกปฏิบัติ และการประท้วงที่ลุกลามไปทั่วโลกในเวลานี้คงไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ อย่างแน่นอน

 

---

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่