ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ / The Willoughbys

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

The Willoughbys

เธอจ๊ะ

The Willoughbys เป็นหนังการ์ตูน สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน อ่านหนังสือสนุก พอมาทำเป็นหนัง เขาย่อให้เหตุการณ์เหลือไม่กี่วัน เลยจำกัดเนื้อหา

หนังนี้เป็นหนังการ์ตูนก็จริง แต่เหมาะกับเด็กไหม? พ่อ-แม่ ผู้ปกครองต้องคิด

โดยเฉพาะเนื้อเรื่อง ในเรื่องมีเด็กสี่คน พ่อ-แม่ไม่รักเป็นหนักเป็นหนา ก็เลยพยายามหาทางทำให้ตัวเองกลายเป็นเด็กกำพร้า จะได้หาครอบครัวใหม่ที่เขารักเราได้ รักเราเป็น

จะว่าดาร์กก็ดาร์ก แต่คิดอีกทีก็ตลก มองโลกแง่ดี ในเมื่อคนเรามีพ่อ-แม่แล้วไม่รักไม่ดูแลเรา เราโตตามมีตามเกิด เราไม่ต้องมีพ่อ-แม่ก็ได้ ไปหาเอาใหม่ข้างหน้า หนทางยังมี

หนังเขาให้แมวตัวหนึ่งเป็นผู้บรรยายเหตุการณ์ ใช้เสียงพากย์ของ Ricky Gervais ดังนั้น ก็เดาได้ว่าต้องมีสำเสียงเสียงประชดประชันใส่เข้ามาเนืองๆ

 

คนทำหนังก็ประกาศจริงจังให้ผู้ชมได้รู้ไว้ตั้งแต่หัวเรื่องเลย

If you love stories about families that stick together

and love each other through thick and thin

and it all ends happily ever after…

this isn’t the film for you, okay?

ถ้าชอบเรื่องครอบครัวสมัครสมานสามัคคี

รักกันทุกยามยากดีมีจน

ลงท้ายได้มีสุขจวบจนกัลปาวสาน

หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำเพื่อคุณ เข้าใจนะ?

through thick and thin เป็นสำนวน ใช้เวลาที่เราจะอยู่เป็นกำลังใจและสนับสนุนใครอีกคนในทุกเวลา ทุกยามที่เขามีปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ หรือประสบความยากลำบากในทุกรูปแบบ

ในตำรากล่าวว่า สำนวนนี้ได้จากการเปรียบเทียบเวลาเราเดินทางผ่านป่า เราจะเจอทั้งป่ารกชัฏและป่าโปร่งที่ต้นไม้ไม่ได้แน่นหนาอะไร แต่ไม่ว่าป่าจะโปร่งโล่งสบาย หรือต้นไม้ใบหญ้าจะแน่นขนัด เราจะผ่านมันไปจนได้

ส่วนมากใช้อธิบายความเป็นครอบครัวหรือไม่ก็ความเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนแท้ก็ต้องอยู่ช่วยกัน เป็นกำลังใจให้กันในทุกสถานการณ์

 

ครอบครัววิลโลบี้ ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกสี่คน ลูกชายคนโตชื่อทิม

His loving parents

had no love left over for Tim.

All they gave him was his name.

พ่อ-แม่ผู้เป็นที่รัก

ไม่มีความรักเหลือให้ทิม

สิ่งที่พ่อ-แม่ให้มีสิ่งเดียวคือชื่อ

พ่อกับแม่ก็ยังมีลูกสาวรองลงมาชื่อเจน หนูเจนชอบร้องเพลง ระบายความรู้สึก แต่ร้องทีไร พ่อ-แม่จะตะโกนว่าหนวกหู ให้เงียบทุกครั้งไป

และฝาแฝด มีสองคนแต่ชื่อเดียวกันว่า บาร์นะบี้ พ่อ-แม่ตั้งชื่อให้ชื่อเดียวกัน เพราะพ่อ-แม่ไม่แคร์ ขี้เกียจตั้งชื่อก็ว่าได้ เด็กๆ เลยต้องเรียกกันเองว่า บาร์นะบี้ เอ กับ บาร์นะบี้ บี

If you need love, I beg of you,

find it elsewhere. Thank you.

ถ้าอยากได้ความรัก ขอร้องเลยนะ

ไปหาที่อื่นเลย ขอบใจ

เด็กๆ หิวโหย เพราะพ่อ-แม่ไม่ได้สนใจจะหาอาหารให้กิน

พอลูกบ่นหิว ขออาหารกิน พ่อ-แม่ก็แค่ทบทวนกฎให้ฟัง

We eat today’s food.

You eat yesterday’s food.

เรากินอาหารของวันนี้

พวกเธอกินอาหารของเมื่อวาน

แต่ถ้าพ่อ-แม่กินอาหารหมด ลูกก็อด ก็เท่านั้น ไม่เห็นจะยาก

ในฐานะที่ทิมเป็นพี่คนโต ก็พยายามเจรจากับพ่อ-แม่เพื่อน้องๆ แต่เด็กสิบขวบละนะ จะไปทำอะไรได้

Son, you insist on bothering us

with your childish needs.

Go to the coal bin!

ลูกเอาแต่มาตื๊อน่ารำคาญอยู่ได้

กะอีแค่ความต้องการแบบเด็กๆ

ไปตู้เก็บถ่านเลยไป!

อ้าว! ทิมโดนลงโทษเลย!!

 

ด้วยความที่เป็นเด็กช่างอ่าน ทิมก็รู้ประวัติต้นตระกูลของตนเองเป็นอย่างดี รุ่นคุณปู่รุ่นทวดย้อนขึ้นไป ก็ดูดีมีความสามารถเป็นทหาร เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักปราชญ์ นักบิน นักประพันธ์ บางคนก็ไปพิชิตยอดเขาที่ได้ชื่อว่าไม่มีทางมีใครปีนไปถึง แล้วไหงรุ่นนี้ รุ่นพ่อของทิมและน้องๆ ไหงเป็นเยี่ยงนี้เล่า?!

This Willoughby family isn’t great,

and by the looks of it, they never will be.

ครอบครัววิลโลบี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร

เท่าที่ดูๆ ไม่มีทางยิ่งใหญ่ได้เลย

by the looks of it บางทีก็ใช้ by the look of it เป็นสำนวน ใช้เวลาจะออกความคิดเห็น โดยพิจารณาจากข้อมูลที่มี หรือไม่ก็จากเท่าที่เห็น

อยู่มาวันหนึ่ง มีใครก็ไม่รู้เอาทารกใส่กล่องกระดาษมาทิ้งไว้ที่ประตูรั้วบ้าน หนูเจนแอบไปเอาเข้าบ้านมาเลี้ยง แต่พอพ่อ-แม่รู้ ยื่นคำขาด

Do not return until that thing is gone.

You are punished.

ไม่ต้องกลับมาจนกว่าสิ่งนั้นจะหายไป

นี่คือการลงโทษ

สี่พี่น้องเลยต้องหาบ้านใหม่ให้ และเหตุการณ์นี้เอง ทำให้หนูเจนบังเกิดความคิด ลองคิดดูนะ ถ้าเราเป็นเหมือนทารกน้อยนี้ มันจะดีกว่านี้ไหมถ้าเราไม่มีพ่อ-แม่

What if we orphaned ourselves?

มันจะเป็นยังไงถ้าทำตัวเรากำพร้า?

“What if …?” ใช้ถามคำถามถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยเฉพาะสิ่งไม่ดี เช่น What if there is a second wave? What if Coronavirus vaccine fails? เป็นต้น

 

สี่พี่น้องเลยช่วยกันจัดการให้พ่อ-แม่ไปเที่ยว โดยได้จัดสรรที่ทางที่อันตรายให้พ่อ-แม่ได้ไปเยือน ในดินแดนชื่อ Sveetzerl?nd ชื่อตลกดีทำให้พ้องกับ Switzerland ดินแดนแสนสงบในความเป็นจริง

ความตลกของหนังเรื่องนี้มันจะออกแนวดาร์กไง เขาไม่ได้ขนาดจะทำเป็นหนังฆาตกรรม เด็กๆ เขาแค่จัดการให้พ่อ-แม่ไปเผชิญสถานการณ์อันตราย ให้มีที่มีทางให้พ่อ-แม่เกิดอุบัติเหตุด้วยตนเอง ตลกดี ฉันว่า

ส่วนพ่อ-แม่ผู้ซึ่งเห็นความสนุกสนานบันเทิงจากการท่องเที่ยว กลุ้มใจอยู่เรื่องเดียวว่าจะเอาลูกไปทิ้งไว้ที่ไหน จะให้จ้างพี่เลี้ยงมันก็ต้องจ่ายหลายตังค์ ไม่อยากจ่ายน่ะสิ

So we’ll hire a not-good nanny for cheap.

งั้นเราก็จ้างพี่เลี้ยงไม่ต้องดีจะได้ถูกๆ

 

แล้วเด็กๆ ก็ได้พี่เลี้ยงค่าจ้างไม่แพงเลยมาหนึ่งคน หนูทิมแสดงออกชัดเจนว่าไม่ไว้ใจพี่เลี้ยง เพราะเห็นเป็นคนที่พ่อ-แม่ส่งมา จะเป็นคนดีได้อย่างไรกัน กว่าหนูๆ กับพี่เลี้ยงจะเข้าใจกัน ก็ต้องเกิดเรื่องหลายเรื่องเลย เกิดอุปสรรคขวากหนามให้ต้องฝ่าฟันกันไป ยิ่งตอนที่ต้องมีหน่วยสงคราะห์เด็กกำพร้ามาข้องเกี่ยว พี่เลี้ยงถูกจับ พี่น้องสี่คนโดนจับแยกกันไปคนละทางสองทาง มันช่างแสนเศร้า

ชอบบ้านที่เด็กๆ เอาทารกน้อยไปปล่อย เป็นโรงงานลูกกวาดสีสวยสด น่ากินมาก มีนายพันเมลานอฟเป็นเจ้าของ ท่านนายพันสูงล่ำกำยำ แต่จิตใจแสนจะอ่อนโยน โดยเฉพาะต่อเด็กๆ

การ์ตูนนี้ภาพวาดดีงาม สีสวยสด มีรายละเอียดเปี่ยมล้น เนื้อเรื่องมันออกแนวดาร์กก็จริง แต่สนุกดี เด็กๆ พ่อ-แม่ไม่รัก ก็แค่หาวิธีเป็นเด็กกำพร้า จะได้เลือกพ่อ-แม่เอง ได้มีความสุขที่เลือกเอง น่ายินดีจะตาย

ฉันเอง

 

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่