ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 มิถุนายน 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความหวังในการขายอสังหาริมทรัพย์ให้กับตลาดชาวจีนหายวับไป ไม่ต่างอะไรกับตลาดท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่หายไป
หลายปีก่อนหน้านี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ กับเมืองท่องเที่ยวมีลูกค้าจากประเทศจีนเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่มาซื้อห้องชุดในสัดส่วน 49% ที่เป็นโควต้าต่างชาติมีสิทธิซื้อ
ว่ากันว่า ชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ซื้ออสังหาฯ ไทยปีละประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว
ปีที่แล้วก่อนหน้าโควิด-19 ระบาด กำลังซื้ออสังหาฯ จากจีนก็อ่อนแรงลงไปมากพอสมควร จากเหตุหลายประการ เช่น ทางการจีนควบคุมจำกัดการโอนเงินออกมาซื้ออสังหาฯ นอกประเทศจีนมากขึ้น ทำให้ลูกค้านำเงินออกมาลำบาก สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ทำให้ธุรกิจบางประเภทของจีนได้รับผลเสียหาย กำลังซื้อของคนจีนบางกลุ่มจึงลดน้อยลง
แต่สาเหตุสำคัญก็คือ กลุ่มคนจีนที่ซื้อห้องชุดในช่วงเวลานั้น จำนวนมากเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนเก็งกำไร ไม่ได้เป็นการซื้อเพื่อมาอยู่อาศัยจริง
ดังนั้น แรงจูงใจการซื้อจึงเป็นการหวังกำไรจากการขายต่อเป็นสำคัญ จึงเป็นการซื้อไปตามแรงจูงใจของกำไรและความเชื่อแรงเชียร์ของคนขาย
ระบบการขายเวลานั้นก็ใช้เอเย่นต์หรือนายหน้า มีการบวกกำไรเพิ่มเติม ทำให้ราคาขายที่คนจีนซื้อสูงกว่าราคาที่ขายในประเทศไทยกับคนไทย
ดังนั้น เมื่อการเก็งกำไรที่มีแนวโน้มจะไม่ได้กำไรตามที่คิด รัฐบาลจีนควบคุมการนำเงินออกเข้มงวด และสุดท้ายเจอการแพร่ระบาดโควิด-19 นักลงทุนเก็งกำไรชาวจีนก็เลยหายไปตามกระแสโควิด ไม่สามารถตามตัวมาผ่อนงวดเงินดาวน์ หรือมาโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดตามกำหนดเวลาได้
หลังโควิด-19 แพร่ระบาดจบลง ซึ่งเวลานี้ที่ประเทศจีนถือว่าจบแล้ว ตลาดอสังหาฯ ไทยกับลูกค้าจีนจะเป็นอย่างไร จึงเป็นคำถามตัวโตๆ ที่ทุกฝ่ายอยากรู้
นักพัฒนาอสังหาฯ จีนในไทย, Sold Agent ขายตลาดจีน และเจ้าของโครงการคอนโดฯ ที่ขายจีน ให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่า
คนจีนยังจะมาซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทย แต่กลุ่มคนที่จะมาซื้อจะเปลี่ยนไป จากนักลงทุนเก็งกำไร มาเป็นผู้ซื้อที่ต้องการใช้จริง
เพราะโควิด-19 ทำให้คนจีนที่มีกำลังซื้อสามารถซื้อบ้านในต่างประเทศได้ มีความเชื่อมากขึ้นกว่าเดิมอีกว่า จะต้องมีบ้านหลังที่ 2 ในต่างประเทศ
ซึ่งนอกจากจะเป็นทรัพย์สินที่ลงทุนไว้ต่างประเทศแล้ว ยังเป็นที่หลบภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก
ข้อเท็จจริงยืนยันสมมุติฐานที่ว่า คนจีนที่เป็น Real Demand ต้องการที่อยู่จริงจะซื้อคอนโดมิเนียมในไทยนั้น เห็นได้จากโครงการคอนโดมิเนียมผสมโรงแรมแห่งหนึ่งที่ย่านห้วยขวางกรุงเทพฯ ยังไม่เปิดตัวแกรนด์โอเพนนิ่ง สามารถขายห้องชุดให้กับกลุ่มนักลงทุนจีนในโควต้าต่างชาติ 49% ได้หมดแล้ว
หรือคอนโดฯ ที่ภูเก็ตแห่งหนึ่งที่เจ้าของโครงการทำตลาดขายตรงกับคนจีนที่ประเทศจีน มีการโอนเงินมาเพื่อโอนกรรมสิทธิ์งวดสุดท้ายระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ระบาด อย่างราบรื่นดีกว่าสถานการณ์ปกติเสียด้วยซ้ำ
เช่นนี้ก็คล้ายกับตลาดผู้ซื้อคนไทย ที่เวลานี้นักลงทุนเก็งกำไรติดดอยไม่มีเงินไปโอน หรือโอนมาแล้วขายต่อไม่ได้ ตลาดเก็งกำไรก็วายหายไป เหลือแต่ตลาดที่ผู้ซื้อต้องการใช้สอยจริงหรือตลาด Real Demand
ต่างกันอยู่หน่อยเดียวที่ว่า ผู้ซื้อคนไทยหันไปซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ มากกว่าคอนโดฯ ขณะนี้ผู้ซื้อชาวจีนมีสิทธิซื้อตามกฎหมายเฉพาะห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมเท่านั้น จึงยังซื้อคอนโดฯ เหมือนเดิม
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่