ปฏิบัติการด้อยค่า “อุ้ม” วันเฉลิม

ปฏิบัติการ “กลิ่นกัญชา” โชยมาแต่ไกล ด้อยค่า “อุ้ม” วันเฉลิม

การหายตัวไปของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยการเมืองจากปฏิบัติการสุดอุกอาจกลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์บุกอุ้มไปจากหน้าที่พักคอนโดฯ เหตุเกิดช่วงเย็นวันพฤหัสบดี 4 มิถุนายนที่ผ่านมา

รายงานข่าวจากเว็บไซต์โมโนรูมของกัมพูชา https://monoroom.info ระบุมีพยาน 1 คนไม่เปิดเผยชื่อและสัญชาติ เห็นเหตุการณ์ขณะวันเฉลิมออกมาซื้อเบียร์ บุหรี่ และนมจากร้านขายของชำใกล้ที่พัก

ก่อนถูกชายฉกรรจ์ 3 คนมากับรถยนต์เอสยูวี ยี่ห้อโตโยต้า ไฮแลนเดอร์ สีดำ ลงมาทำร้ายและลากตัวขึ้นรถไป

วันเฉลิมทิ้งคำพูดสุดท้ายระหว่างคุยโทรศัพท์กับพี่สาว “โอ๊ย…หายใจไม่ออก” แล้วขาดการติดต่อไปนับตั้งแต่บัดนั้น ถึงตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบ 10 วัน ไม่มีใครรู้ “วันเฉลิม” อยู่ที่ไหน เป็นตายร้ายดีอย่างไร

เหตุการณ์ทำให้สังคมเกิดความหวาดหวั่นต่อกลุ่มชายฉกรรจ์ผู้เปิดปฏิบัติการข้ามประเทศสุดอุกอาจ ประกอบกับเคยมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาแล้วกับคนไทยผู้ลี้ภัยการเมือง 7-8 ราย หลังการรัฐประหารในไทยปี 2557

ยังทำให้แฮชแท็ก #SAVEวันเฉลิม พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ของไทย

รวมถึงกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานทางการกัมพูชาช่วยคลี่คลายปมร้อน

สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) จัดกิจกรรมทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิมและผู้ลี้ภัยทุกคน พร้อมเดินหน้าทำกิจกรรมผูกโบว์ขาวตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้นายวันเฉลิม

ขณะที่นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมกลุ่มประชาชน 30 คน ยื่นหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เรียกร้องรัฐบาลกัมพูชาสืบสวนและติดตามกลุ่มคนร้ายบุกอุ้มวันเฉลิมเช่นกัน

ปฏิกิริยาจากเหตุการณ์ “ต้าร์ วันเฉลิม” เป็นที่สนใจและจับตาจากหลายฝ่ายทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการไทย

รวมถึงองค์กรระดับโลกอย่างสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รับทราบเรื่องและกำลังติดตามตรวจสอบ

องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ออกแถลงการณ์เรียกร้องไปยังรัฐบาลกัมพูชาว่า รัฐบาลกัมพูชามีพันธกิจที่ต้องสืบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับวันเฉลิม และใครเป็นผู้ลงมือจากเหตุการณ์นี้

โดยเรียกร้องไปยังนานาประเทศและองค์กรระหว่างประเท ร่วมกันกดดันทางการกัมพูชาให้มีมาตรการติดตามตัววันเฉลิม

เช่นเดียวกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ออกแถลงการณ์ขอให้ทางการกัมพูชาสืบสวนการหายตัวไปของวันนายเฉลิม

ว่าทางการกัมพูชาต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน หากพบตัววันเฉลิม ต้องไม่ส่งตัวกลับไทย หรือถ้าถูกควบคุมตัวอยู่ ทางการกัมพูชาต้องยืนยันว่าอยู่ในการควบคุมของทหารหรือตำรวจ

เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลเมืองไทยหายตัวไปหลังแสดงความเห็นทางการเมือง

ฟากนักศึกษาและนักวิชาการจากหลายสถาบันต่างออกมาเคลื่อนไหว #SAVEวันเฉลิม

ทั้งคณะกรรมการนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, สโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล

รวมถึงการเข้าชื่อของคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 32 คน

นำโดยนายมุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ เป็นต้น

ออกแถลงการณ์สรุปว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความสงสัยและความวิตกกังวลอย่างยิ่งแก่ประชาชนถึงชะตากรรมของนายวันเฉลิม

ต่อบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ

คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงมีความเห็นร่วมกันว่า

ประชาชนชาวไทยทั้งหลายย่อมเป็นผู้ทรงสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แม้บุคคลนั้นจะเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาและอยู่ระหว่างการหลบหนี

จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานรัฐดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อช่วยเหลือนายวันเฉลิม

ความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยและก้าวไกล

ต่างออกมาเรียกร้องกรณี “ต้าร์ วันเฉลิม”

จี้ให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินมาตรการทางการทูตต่อกัมพูชา เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพและชีวิตวันเฉลิมโดยทันที

ครอบครัวของวันเฉลิมเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม ยื่นเรื่องต่อนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน

น.ส.สิตานันมีความหวังจะนำตัวน้องชายกลับมาโดยเร็ว ตอนนี้ครอบครัวยังมีความหวัง

ส่วนนายรังสิมันต์ โรม เตรียมนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

พร้อมกันนั้นพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังยื่นกระทู้ถามต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน

เพื่อให้รัฐบาลตอบคำถามสร้างความกระจ่างต่อสังคม โดย พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ชี้แจง

ซึ่งไม่ได้ช่วยคลายความสงสัยใดๆ ให้กับสังคมเท่าใดนัก

เหตุการณ์หายตัวไปของวันเฉลิม ยังมีความเห็นสะท้อนจากคนในหลายแวดวง รวมถึงนักร้องและนางงาม

“ฮิวโก้” จุลจักร จักรพงษ์ นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์รูปผ่านไอจี เป็นภาพดำสนิท แสดงสัญลักษณ์ความเศร้าสลดต่อการหายตัวไปของ “ต้าร์ วันเฉลิม”

พร้อมข้อความ “Meanwhile in Southeast Asia….#whereiswanchalerm”

มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 โพสต์แสดงความเห็นผ่านไอจีสตอรี่ว่า

นักกิจกรรมไทยที่ลี้ภัยในกัมพูชาหายตัวไป ทั้งรัฐบาลกัมพูชากับรัฐบาลไทยยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

สิ่งที่น่ากลัวคือผู้ลี้ภัยชาวไทยจำนวนมากหายตัวไปและหลังจากนั้นก็เสียชีวิต

เราอาศัยอยู่ในที่แบบไหนกัน ในเมื่อเราไม่สามารถพูดความคิดเห็นของเราได้ มันทำให้ฉันกลัว

วันเฉลิมอยู่ไหน #SaveWanchalerm

ในเหตุการณ์เดียวกัน กลับพบความพยายามจากบุคคลบางกลุ่มที่ต้องการเบี่ยงประเด็นการอุ้มวันเฉลิม

จากเรื่องการเมืองไปเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว

เริ่มจากเรื่องหนี้สิน และที่มีการแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์คือภาพของวันเฉลิมกับต้นกัญชา พร้อมเปิดประเด็นเชื่อมโยงเหตุการณ์บุกอุ้ม อาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้ากัญชาในประเทศเพื่อนบ้าน

จงใจมองข้ามปัญหาคดีความทางการเมือง ต้นเหตุทำให้วันเฉลิมต้องลี้ภัยออกจากประเทศตนเอง

ส่วนหนึ่งของปฏิบัติการเบี่ยงเบนประเด็นครั้งนี้ ถูกมองเป็นปฏิบัติการกลุ่ม “ไอโอ” เดิมที่ต้องการดึงเรื่องออกห่างจากรัฐบาล พร้อมปั่นกระแสดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือของวันเฉลิม

ความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่แชร์ภาพนายวันเฉลิมกับต้นกัญชา

แถมพาดพิงไปยัง “มารีญา” ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ “พูดจาต้องระวัง”

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเห็นถึงประเด็นวันเฉลิมว่า

“ผมไม่รู้จักเขาเลย แต่สิ่งที่ร่วมมือได้ก็ร่วมมือไป ผมได้สอบถามจากฝ่ายความมั่นคงแล้วว่าคนนี้อยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร ผมไม่เคยรู้จักชื่อเขามาก่อนด้วยซ้ำไป ทราบแต่ว่าเขาหนีไปอยู่ต่างประเทศ

ตอนนี้ให้ติดตามว่าหลบหนีไปด้วยเรื่องอะไร หนีไปอยู่ที่ไหน

เราคงไม่ไปก้าวล่วงอำนาจประเทศอื่น แต่ให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานทูตพูดคุยแล้ว”

ส่วน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า การอุ้มนายวันเฉลิมในครั้งนี้ ทางตำรวจไม่มีข้อมูล เพราะเรื่องเกิดนอกราชอาณาจักร ส่วนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่กัมพูชา ตอนนี้ยังไม่ประสานงานมา

ขณะที่ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผอ.สำนักงานกรมพระธรรมนูญทหารบก ชี้แจงยืนยัน

อดีตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้แจ้งความเอาผิดนายวันเฉลิมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่อย่างใด มีการแจ้งเอาผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. เนื่องจากไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง

และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เท่านั้น

จากปฏิบัติการอุ้มวันเฉลิม ผู้ลี้ภัยการเมืองยุค คสช. หายตัวไปจากกลางกรุงพนมเปญ

รัฐบาลไทยที่สืบต่ออำนาจจาก คสช. ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจในการเข้าไปคลี่คลายข้อเท็จจริง เมื่อมีการร้องเรียนและเหตุการณ์เป็นที่ประจักษ์ หน่วยงานของรัฐบาลสามารถตรวจสอบได้ โดยประสานความร่วมมือกับทางการกัมพูชา

ความพยายามใช้ปฏิบัติการไอโอ หรือฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ในการเบี่ยงเบนเรื่องราวด้วยกลิ่นกัญชา ที่โชยออกมาฟุ้งตลบโลกออนไลน์

หวังด้อยค่าเหตุการณ์อุ้มวันเฉลิม

ทั้งที่เหตุการณ์นี้กำลังขยายวงกว้างเป็นที่จับจ้องทั้งจากสังคมไทยและองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก

อาจกลายเป็นบูมเมอแรงหมุนย้อนกลับมาสร้างเสียหายให้กับรัฐบาลเองในที่สุด


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่