ตกเป็นข่าวอื้อฉาวอีกจนได้ สำหรับ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนักการเมืองระดับชาติ ที่ผันตัวไปเล่นการเมืองท้องถิ่นในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

เมื่อปรากฏถ่ายคู่กับนักเรียนสาว ม.5 ในลักษณะผูกข้อไม้ข้อมือ พร้อมมีเงิน 4 แสนวางอยู่ ถูกแพร่กระจายออกในโลกออนไลน์

พร้อมเสียงลือกันไปต่างๆ นานา ว่าเป็นภาพเหตุการณ์อะไรกันแน่

จนสื่อมวลชนไปติดตามสอบถามข้อเท็จจริงที่ห้องทำงานนายกเทศมนตรี

แต่กลับถูกชายฉกรรจ์คุมตัวสอบสวน แล้วจับนักข่าวถอดกางเกงแก้ผ้า ถ่ายรูปเก็บไว้

ถือเป็นการคุกคามการทำงานของสื่อมวลชนอย่างชัดเจน

แฉนาทีหมอเปรมแก้ผ้านักข่าว

เหตุการณ์อื้อฉาวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อผู้สื่อข่าว จ.ขอนแก่น กลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ช่อง 3 ข่าวสด-มติชน เนชั่น และเคเบิลท้องถิ่นเคเคซี เดินทางเข้าพบ นพ.เปรมศักดิ์ เพื่อสอบถามถึงภาพถ่ายคนหน้าเหมือนที่ถ่ายรูปคู่กับเด็กสาววัย 17 ที่เรียนอยู่ชั้น ม.5 ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่

เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถติดต่อ นพ.เปรมศักดิ์ ได้ แถมตัว นพ.เปรมศักดิ์ ก็ถือเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นผู้บริหารท้องถิ่น เมื่อมีข่าวลือเกิดขึ้น จึงควรเปิดโอกาสให้ได้ชี้แจง

เมื่อสื่อมวลชนแสดงตัวติดต่อเข้าพบ เจ้าหน้าที่เทศบาลก็เชิญผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนเข้าไปในห้องทำงานนายกเทศมนตรี โดยในห้องมี นพ.เปรมศักดิ์ และเจ้าหน้าที่ชายอีก 7 คนรออยู่

จากนั้น นพ.เปรมศักดิ์ ก็สั่งล็อกห้อง พร้อมสั่งเก็บกล้องถ่ายภาพและโทรศัพท์มือถือของผู้สื่อข่าว แล้วจึงโจมตีผู้สื่อข่าวที่นำภาพของตัวเองไปลง โดยไม่ได้สอบถาม ถือเป็นการประจานเรื่องส่วนตัวและบิดเบือนข้อมูล

“ภาพที่นั่งกับเด็กสาวมีปึกเงิน 4 แสน แค่เป็นการช่วยเหลือครอบครัวเขาที่กำลังเดือดร้อน แต่สื่อไปเสนอไม่เหมาะสม บางฉบับลงหนักมาก อยากรู้ว่าถ้าผมถ่ายรูปคุณไปประจาน จะรู้สึกอย่างไร” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์

จากนั้นก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ล็อกตัวผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ จับถอดกางเกงลงมาที่หัวเข่า แล้วถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ก่อนจะยอมให้สวมกางเกงแล้วให้นั่งฟัง นพ.เปรมศักดิ์ ตำหนิการทำงานของสื่ออีกกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะปล่อยตัวออกมา

สร้างความหวาดผวาให้กับบรรดานักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะ นพ.เปรมศักดิ์ ถือเป็นผู้บริหารองค์กรท้องถิ่น มีวุฒิภาวะในระดับหนึ่ง เมื่อปรากฏภาพข่าวซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นคนใกล้ชิดที่อยู่ในเหตุการณ์นำมาเผยแพร่ จึงเดินทางมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

แต่กลับถูกกระทำด้วยท่าทีคุกคาม

โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ประณามทันที โดยระบุว่า ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แม้ผู้ตกเป็นข่าวเห็นว่าการนำเสนอข่าวไม่เหมาะสม ก็สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายต่อผู้ละเมิด

ไม่ควรใช้กำลังคุกคามสื่อมวลชน อีกทั้งเข้าข่ายขัดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ข่มขืนใจให้ผู้อื่นยอมจำนน โดยเป็นการทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและเสรีภาพ และมาตรา 310 ที่กักขังหน่วงเหนี่ยว คุกคามเสรีภาพในร่างกาย

จึงขอประณาม นพ.เปรมศักดิ์ และขอให้บุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามจริยธรรมและร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน

อ้างถูกประจาน-ยกบิ๊กตู่ไอดอล

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่ ให้เอาผิดกับผู้สื่อข่าวในข้อหาบุกรุกห้องทำงานที่สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่

พร้อมกันนั้นยังเดินสายยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. รวมถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยขอให้ใช้อำนาจ ม.44 ปิดสื่อทั้ง 5 สำนักที่ติดตามทำข่าวของตัวเอง

โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปฏิรูปสื่อให้มีมาตรฐาน ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ของสื่อ เพราะทุกรัฐบาลไม่มีใครกล้าปฏิรูปสื่อ ทำให้เกิดปัญหาอภิสิทธิ์ชนขยายตัว ไม่รับผิดชอบต่อสังคม จึงหวังพึ่งบารมีนายกฯ ใช้ความกล้าหาญเด็ดขาดสร้างประวัติศาสตร์ปฏิรูปสื่อ

“ผมเป็นบุคคลสาธารณะ แล้วทำไมมาสนใจเรื่องส่วนตัว ไม่สนใจเรื่องงาน ไปเอารูปนั้นรูปนี้มาสำรวจตรวจสอบ อย่างกับเป็นความเป็นความตายของบ้านเมือง ขอถามในฐานะความเป็นมนุษย์มันใช่หรือไม่ เรื่องนี้ผมไม่ผิด ยอมรับว่าเป็นคนในรูป แต่เป็นเรื่องส่วนตัว และจะฟ้องดำเนินคดีกับสื่อมวลชนที่นำรูปไปลงด้วย” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

นอกจากนั้น ยังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ที่ผ่านมาเคารพการทำงานของสื่อมวลชน เข้าทำนองน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่เหตุการณ์ล่าสุดไม่ต่างจากจับตนแก้ผ้าประจานต่อหน้าธารกำนัล จึงอยากถามว่าทำไมไม่สอบถามข้อเท็จจริงกันก่อน

หลังๆ มานี้มีท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมสื่อขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับเสียงสนับสนุนท่วมทัน เมื่อมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยืนหยัดไม่ยอมสักคน ผมก็จะไม่ยอมทนอีกสักราย จะเป็นไรไป

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ขอบคุณที่ นพ.เปรมศักดิ์ ยกให้เป็นไอดอล แต่ไม่สนใจ เพราะไม่ได้ทำแบบเขา ผมไม่เคยสั่งใครถอดกางเกง เสื้อยังไม่สั่งถอด ไม่เคยสั่งอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เขามีหลายเรื่อง เรื่องระเบียบวินัยข้าราชการ ระเบียบวินัยท้องถิ่น วิธีทำงานของท่านหรือชอบแบบนั้น ยกให้ผมเป็นไอดอลก็ขอบคุณ

แต่ผมไม่เอาท่านมาเป็นไอดอลอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องที่มีคนเสนอให้ใช้ ม.44 ดำเนินการนั้น ถ้าตัดสินปัญหาทั้งหมดด้วย ม.44 ก็วุ่นตาย เรื่องกฎหมายให้ว่ากันไป กระทรวงมหาดไทยก็สอบอยู่ ผลออกมาเมื่อไรก็เสนอขึ้นมาเอง

เป็นท่าทีนายกฯ ต่อกรณี นพ.เปรมศักดิ์

สื่อแจ้งจับ-ผู้ว่าฯ ฮึ่มผิดปลดแน่

ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้าน กลุ่มสื่อมวลชน จ.ขอนแก่น ก็เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.เปรมศักดิ์ โดย นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ถูกจับถอดกางเกง เข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ให้ดำเนินคดีในข้อหา หน่วงเหนี่ยวกักขัง และข่มขืนใจให้กระทำหรือไม่กระทำการใดๆ

นอกจากนี้ พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมสื่อมวลชน จ.ขอนแก่น ยังเข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาท เนื่องจาก นพ.เปรมศักดิ์ โพสต์รูปในเฟซบุ๊กระบุว่าสื่อมวลชนรับเงินจากนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม 5 พันบาทมาทำข่าวให้ร้าย

พร้อมระบุว่าภาพที่นำมาโพสต์เป็นเหตุการณ์การทอดผ้าป่าเพื่อผู้ป่วยโรคเอดส์ และองค์กรสื่อเป็นผู้บริจาค ไม่ใช่ผู้รับเงินแต่อย่างใด

อีกทั้งกำลังตรวจสอบถึงกรณีที่ นพ.เปรมศักดิ์ แจ้งความข้อหาบุกรุกว่าจะแจ้งกลับฐานแจ้งความเท็จ เพราะที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ราชการ ประชาชนทุกคนสามารถเดินทางเข้าไปได้ แล้วจะเข้าข่ายบุกรุกได้อย่างไร

พร้อมกันนั้นยังยื่นหนังสือต่อ นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น ให้ตรวจสอบจริยธรรม คุณธรรมของ นพ.เปรมศักดิ์ ในฐานะผู้บริหารองค์กรท้องถิ่น ซึ่งผู้ว่าฯ สั่งให้ นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นประธาน โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน

หากพบว่าทำเกินกว่าเหตุ ในฐานะผู้ว่าฯ ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการปกครองส่วนท้องถิ่น จะเสนอให้ รมว.มหาดไทยปลดจากตำแหน่งทันที

นอกจากนี้ ยังมีกรณี นายเดชคำรณ สิงคลีบุตร ส.อบจ.ขอนแก่น เขตบ้านไผ่ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายวทัญญู ภูชาดา ผอ.โรงเรียนบ้านไผ่ ขก.5 ให้พิจารณาปลด นพ.เปรมศักดิ์ ออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน

เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมทั้งให้สอบห้อง “พี่หมอเปรม” ที่ใช้งบประมาณ 1 แสนบาท ว่าเป็นเงินบริจาคของ นพ.เปรมศักดิ์ โดยส่วนตัว หรือเงินเทศบาล

พร้อมยื่นผู้ว่าฯ และนายกฯ ให้สั่งพักงานระหว่างการสอบสวน เพราะเกรงจะยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ขณะที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติถอดชื่อ นพ.เปรมศักดิ์ ออกจากรางวัลคนจิตอาสาตามรอยพ่อของแผ่นดินประจำปี 2559 ที่จะมอบรางวัลในวันที่ 11 สิงหาคม เนื่องจากบุคคลที่รับรางวัลต้องไม่มีตำหนิมลทิน ไร้ข้อกังขา

ด้านสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ก็ไปยื่นหนังสือถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบกรณีภาพที่ถ่ายคู่กับเด็กวัย 17 ซึ่ง นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาฯ สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่าต้องดูว่าเป็นการหมั้นหรือมอบเงินช่วยเหลือเด็ก ถ้าหมั้นจริงก็ต้องไปดูกฎหมายว่าทำได้หรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่เทศบาลบ้านไผ่ ออกมาร้องเรียนว่า ตนและพวกรวม 3 คนถูก นพ.เปรมศักดิ์ ปลดออกจากตำแหน่งโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งยื่นฟ้องศาลปกครองไปก่อนหน้านี้

ทั้งหมดเป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ นพ.เปรมศักดิ์

ที่คงต้องเหนื่อยเคลียร์ตัวเองต่อไป

อาชญา ข่าวสด