ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์/LATE NIGHT

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

LATE NIGHT

‘ทอล์กโชว์’

 

กำกับการแสดง Nisha Ganatra

นำแสดง Emma Thompson Mindy Kaling John Lithgow Denis O’Hare Hugh Dancy

Reid Scott

 

Late Night พาเราเข้าไปเบื้องหลังรายการทีวีทอล์กโชว์ภาคดึก ซึ่งเป็นรูปแบบรายการทีวียอดนิยมของอเมริกา ออกอากาศตอนดึกทุกคืน และโลกของพิธีกรชายโดยแท้

พิธีกรที่มีชื่อเสียงก็มีอย่างเช่น เดวิด เล็ตเตอร์แมน, จอห์นนี่ คาร์สัน, เจย์ เลโน, เมิร์ฟ กริฟฟิน และโคนัน โอไบรน์ เป็นต้น

แต่ Late Night สร้างเรื่องที่มีพิธีกรหญิงประจำรายการแบบนี้ โดยแคเธอรีน นิวเบอร์รี่ (เอ็มมา ทอมป์สัน) นักแสดงตลกหญิงจากอังกฤษ ครอบครองรายการภาคดึกของอเมริกามาหลายสิบปีแล้ว

และได้รับรางวัลต่างๆ มากมายจนนับไม่ถ้วน

เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกับแคเธอรีน นิวเบอร์รี่ ในสุนทรพจน์ของเธอขณะขึ้นรับรางวัลเกียรติยศสำหรับวงการทีวีอีกครั้ง

แม้จะยังได้รับการยกย่องอย่างยืนยง แต่รายการ “ภาคดึกกับแคเธอรีน นิวเบอร์รี่” ก็เริ่มสูญเสียความนิยม โดยเฉพาะในช่วงสิบปีหลังที่แคเธอรีนเริ่ม ‘ต่อไม่ติด’ กับคนรุ่นใหม่ รวมทั้งโลกของสื่อสังคมที่เริ่มรุกเข้ามาแทนที่สื่อโทรทัศน์

ถึงขั้นที่ว่าเธอกำลังจะถูกปลดออกจากรายการของตัวเอง โดยให้นักแสดงตลกหนุ่มรุ่นใหม่เข้ามารับหน้าที่พิธีกรแทน เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีกับมุขตลกหยาบคายที่เรียกเสียงฮาจากคนรุ่นใหม่

และเนื่องจากมาตรฐานอันสูงส่งและแบบแผนในการทำงานของเธอทำให้เธอถูกวิจารณ์ว่าเป็นคนที่เกลียดผู้หญิง เพราะเธอไม่จ้างผู้หญิงมาร่วมงานในทีมเลย

ความจำเป็นต้องลบภาพลักษณ์นั้นทำให้แคเธอรีนสั่งผู้ช่วยคนสนิท แบรด (เดนิส โอแฮร์) ให้จ้างผู้หญิงคนแรกมาอยู่ในทีมเขียนบทแทนนักเขียนชายที่เพิ่งโดนไล่ออกไป

และมอลลี่ พาเทล (มินดี้ เคลิ่ง) ก็ก้าวเข้ามาอย่างจับพลัดจับผลูเป็นที่สุด

 

มอลลี่ไม่มีคุณสมบัติของนักเขียนบทตลกสำหรับทีวีมาก่อนหน้า งานที่เธอทำก่อนหน้าคือพนักงานตรวจสอบคุณภาพในโรงงานเคมี ซึ่งเธอคอยแก้คำเรียกผิดๆ ที่คนมักเรียกว่า factory โดยบอกว่าเป็น chemical plant

คุณสมบัติอย่างเดียวที่เธอมีคือความกระตือรือร้นและการเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นของแคเธอรีน นิวเบอร์รี่ ผู้เป็นไอดอลของเธอมาตั้งแต่เด็ก

และตามสูตรของคอมเมดี้ มอลลี่ก้าวเข้ามาพร้อมมุมมองใหม่ๆ แทนที่ทีมงานที่จัดเจนจนมองไม่เห็นข้อผิดพลาดซ้ำๆ เดิมๆ อีกแล้ว

แต่ก็ไม่ก่อนที่จะต้องสร้างความเฟอะฟะเป็นที่ขัดหูขัดตาของเจ้านาย ปะทะคารม และโต้แย้งจนถึงขั้นงัดข้อกับเจ้านายเจ้าระเบียบ

อดไม่ได้ที่จะไม่นึกถึงหนังเรื่อง The Devil Wears Prada ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างแอนน์ แฮธะเวย์ สาวเฟอะฟะผู้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยเมอริล สตรีป จอมเนี้ยบ เจ้าแม่แห่งวงการนิตยสารแฟชั่นในโลกของแบรนด์เนมทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหนังที่ว่า นางตัวร้ายสวมใส่ยี่ห้อปราดา

 

เอ็มมา ทอมป์สัน มาในภาพลักษณ์เฉียบเนี้ยบอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สวมสูทตัดเนี้ยบ ดูโดดเด่นมาแต่ไกล ผมตัดสั้นเกือบจะเป็นผู้ชาย แต่หวีเรียบแบบเรียงเส้นเป็นดีไซน์สุดเนี้ยบ สวยจริงๆ ค่ะ

ขณะที่มอลลี่เฉิ่มๆ เฟอะๆ ตามแบบฉบับ และเป็นสาวผิวสีคนเดียวในออฟฟิศที่มีแต่ทีมนักเขียนชายล้วน และไม่ใช่สาวผิวดำด้วย แต่เป็นสาวแขกอินเดียอวบอ้วนที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวในการหาหนทางของตัวเองในสังคมที่ยังมีการเหยียดผิวอยู่มาก

นอกจากประเด็นของคนต่างผิวแล้ว หนังยังพูดถึงเพศหญิงที่ทำงานอยู่ในโลกที่ผู้ชายครอบครองมาแต่ไหนแต่ไร รวมทั้งความสูงวัยที่ผู้หญิงจะประสบความยากลำบากทางอาชีพมากกว่าผู้ชาย

แน่นอน ด้วยสูตรของหนังประเภทนี้ เราคงพอมองเห็นตอนจบแล้วคร่าวๆ ว่าจะลงเอยแบบไหน แต่ถึงอย่างนั้น หนังก็มีความคิดและพาเรื่องไปได้อย่างดี จนไม่ต้องร้องยี้อย่างในคอมเมดี้บางเรื่อง

โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างที่แคเธอรีนได้เรียนรู้จากสามี (จอห์น ลิธกาว) ผู้คอยให้กำลังใจอยู่เบื้องหลัง ขณะที่เขาเองก็ต้องต่อสู้กับโรคภัยของตัวเอง

 

ส่วนที่ชอบอีกอย่างคือ เรื่องราวโรแมนติกในชีวิตของมอลลี่ วางไว้กำลังเหมาะพอดี กับหนุ่มหล่อจอมเจ้าชู้ที่ใครๆ ก็ต้องหลงรัก กับหนุ่มผู้ร่วมงานอีกคนที่มีเรื่องขัดแย้งกันมาตั้งแต่วันแรก แต่ก็ได้มาทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันในที่สุด การพัฒนาเรื่องราวความรักของมอลลี่ในส่วนนี้ทำได้อย่างแนบเนียน และไม่ต้องพูดอะไรมาก มีเพียงกิริยาเล็กน้อย ก็ทำให้เราพลอยมีความสุขไปกับมอลลี่ได้

สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จักมินดี้ เคลิ่งและเพิ่งเห็นหน้าเธอเป็นครั้งแรกในหนัง

ขอบอกว่าเธอไม่ใช่คนหน้าใหม่นะคะ เธออยู่ในวงการมานานพอดูและได้รับรางวัลต่างๆ มากมายจากงานเขียนบท เขียนหนังสือ ให้เสียงพากย์และแสดง ถึงขนาดที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบุคคล 100 คนที่มีอิทธิพลที่สุดใน ค.ศ.2013 จากนิตยสารไทม์

และหนังเรื่องนี้ก็เป็นโปรเจ็กต์ของเธอ

หนังเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นเบื้องหลังการทำงานของทีมงานรายการโทรทัศน์ที่ต้องออกอากาศทุกวันในภาคดึก โดยมีรูปแบบของรายการอย่างที่เราคุ้นตาดีพอควรคือ พิธีกรนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ และแขกรับเชิญในรายการนั่งบนโซฟา รวมทั้งการแนะนำตัวพิธีกรด้วยการเปิดฉาก ส่องไฟ เดินออกมาทักทายคนดูที่เชิญมานั่งดูคนดูอยู่ในห้องส่งเพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์ด้วย

รวมทั้งการทำงานของทีมเขียนบทซึ่งมีถึงสิบคน ที่บอกว่ามีหน้าที่อ่านข่าวเหตุการณ์ล่าสุดทุกวันเพื่อหาประเด็นมาเขียนให้พิธีกรพูดในรายการแบบเดี่ยวไมโครโฟนนั่นแหละค่ะ ต่อให้มีบทพูดอยู่บนแผ่นการ์ดตรงหน้าให้อ่านแบบเป๊ะๆ พิธีกรที่เก่งๆ ก็ต้องวางจังหวะและท่วงทีการพูดให้ดีถึงจะเรียกเสียงหัวเราะได้

พิธีกรทอล์กโชว์ภาคดึกถึงได้มาจากนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟนเป็นส่วนมาก

หนังสนุกใช้ได้นะคะ แฝงความคิดดีๆ หลายอย่างด้วย

 


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่