แม้การรวบตัวนักศึกษาแห่งสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อตอนเย็นของวันที่ 9 มิถุนายน จะก่อให้เกิดนัยประหวัดไปยังวันที่ 6 ตุลาคม 2516

เมื่อมีการจับกุมกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญระหว่างเดินแจกใบ ปลิว ณ ตลาดย่านประตูน้ำ

แต่สถานการณ์นี้ก็ยังแตกต่างไปจากเมื่อเดือนตุลาคม 2516

แตกต่างเพราะว่าในเดือนมิถุนายน 2563 เสมอเป็นเพียงความผิดพรบ.ความสะอาด เนื่องจากการไปติดริบบิ้นขาวในบริเวณของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ไม่ได้ตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดตามพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างที่มีการอ้างในตอนรวบตัว

ขณะที่การจับกุมกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2516 นั้นมีการประเคนความผิดตามพรบ.ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์

กลายเป็นบทบาทของคอมมิวนิสต์จะเพียงเรียกร้องรัฐธรรม นูญก็ตาม

 

ไม่ว่าการจับกุมในสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516 ไม่ว่าการรวบตัวในสถานการณ์เดือนมิถุนายน 2563 มีเป้าหมายอย่างเดียวกัน

นั่นก็คือ สกัดและขัดขวางมิให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้โดยสะดวกและราบรื่น

แม้ว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2516 เป้าจะอยู่ที่”รัฐธรรมนูญ”

ขณะที่เป้าหมายเฉพาะหน้าของสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึก ษาแห่งประเทศไทย ก็คือต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในกรณีของ #Safe วันเฉลิม

การแสดงออกของสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยจึงเสมอเป็นเพียงการอุ่นเครื่องในทางการเมือง เป็นการหยั่งอุณหภูมิทางสังคมว่าเป็นเช่นไร

เป้าหมายเฉพาะหน้าอาจเป็นนักเรียน นิสิตนักศึกษา แต่เป้า ใหญ่อย่างแท้จริงคือประชาชน

 

แม้ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำเนินการต่อสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศ อย่างละมุนละม่อมผ่านพรบ.ความสะอาด

แต่ท่วงท่าและลีลาก็สัมพันธ์กับการดำรงอยู่ของพรก.การบริ หารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างแน่วแน่ มั่นคง

ทำให้รู้ว่าทำไมจึงต้องคงสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้

แท้จริงแล้ว การเคลื่อนไหวของสหภาพ นักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ก็เหมือนกับเป็นการหยั่งเข้าไปในความเป็นจริงของรัฐบาลต่อกรณีสถานการณ์ฉุกเฉินนั่นเอง

คำถามนี้ก็เพื่อให้สังคมได้คำตอบจากความเป็นจริง

 

---

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่