จดหมาย

0 ค้ำกันเซ

ผมเป็น นจอ. (นักเรียนจ่าอากาศ) รุ่น พ.ศ.2498

มี ผบ.รร. ชื่อ น.อ.ศุภชัย คงสมพงษ์

ไม่ทราบว่าเป็นญาติกับ ผบ.ทบ.คนปัจจุบันด้วยหรือเปล่า

ท่านจะเน้นหนักการฝึกวิชาทหารราบ

การแสดงความเคารพท่ามือเปล่า

ถ้าทหารที่ไม่มีอาวุธ (กระบี่ ปืน ฯลฯ) อยู่ในมือ ต้องแสดงความเคารพด้วยมือเปล่า

ทหารทุกคนจะต้องแบมือ เหยียดนิ้วทั้งห้าให้เรียงชิดติดกัน ก่อนยกขึ้นแตะกระบังหมวก บริเวณหางคิ้วข้างขวา และทำมุม 45 องศาเท่านั้น

การแสดงความเคารพด้วยมือเปล่า

หากปล่อยให้นิ้วแตกนั้น ทหารเขาเรียกว่าท่า “ตองต้องลม”

ส่วนพวกแบมือ ยกเอาขึ้นมาแตะกระบังหมวกโดยไม่คำนึงถึงองศา เขาเรียกว่าท่า “ค้ำกันเซ”

ดังนั้น รูปที่ตัดจากหนังสือพิมพ์แนบมา ถ้าเป็นญาติกับ น.อ.ศุภชัย ถ้าท่านยังมีลมหายใจอยู่ ท่านจะต้องผิดหวัง และเสียใจเพราะรูปมันฟ้อง

แสดงความเคารพ ท่ามือนั้น มีทั้ง “ค้ำกันเซ” และ “ตองต้องลม” นะจะบอกให้

กรุณาเป็นสื่อให้ผมที

ขอแสดงความนับถือ และพ้นโควิด

เรืออากาศตรี ฉลวย ราหุละ

 

ก็ขอสมพรปาก ที่อวยพรให้พ้นโควิด

ที่จริงน่าจะอวยพรให้พ้น “โอ๊ป” ด้วย (ฮา)

เพราะเล่มที่แล้ว เอาเรื่อง 6 ท่าต้องห้าม มากวนใจ

วันนี้เอารูป “ไม่เป๊ะ” มาวอนหา “สันมือ” อีก

ถึงนิ้วจะแตกเป็น “ตองต้องลม” เจอเข้าสักสันมือก็เอาเรื่อง

พูดถึงเรื่องนี้แล้วคิดถึงสันมือของพ่อจ๊อดขึ้นมาทันที (ฮา)

อย่าเพิ่งไปกวนใจท่านนัก

แค่เจอ “ซ้ายดัดจริต” ทวง “การบ้าน” ก่อนเกษียณ

ก็เหนื่อยสาหัส ต้องหา “ค้ำกันเซ” แล้วล่ะปู่ฉลวย!

 

0 ลลิษา มโนบาล

เรียน บรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์ ผ่านถึงคุณธงทอง จันทรางศุ

ได้อ่านเรื่อง “ไทยสไตล์ สไตล์ ทะเลาะ ขำขำ” ในคอลัมน์ หลังลับแลมีอรุณรุ่ง ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 2071 แล้ว

มีความหวังว่าคุณธงทองจะกรุณาทำสิ่งที่ฉันขอร้องได้

ฉันเขียนจดหมายถึงคอลัมนิสต์หลายคนแล้วแต่ไม่ได้ผล

คือฉันอยากให้เขียนถึงหญิงสาวไทยที่ขณะนี้ดังไปทั่วโลก

ลลิษา หรือลิซ่า มโนบาล หญิงไทยจากบุรีรัมย์

หนึ่งในสมาชิกวง “แบล็คพิงค์” เคป็อบ ของเกาหลี วงที่ดังที่สุดในเกาหลีใต้และทั่วโลก

มีสมาชิกหญิง 4 คน เป็นคนเกาหลี 3 คน

ลิซ่าคนเดียวที่เป็นคนไทย

และดังที่สุดในวง

ฉันอยากให้เขียนถึงเด็กคนนี้

เพราะอะไร

เพราะเธอจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนไทยและคนไทย

ในความอุตสาหะ อดทน มุ่งมั่น ทำตามความฝันจนสำเร็จ

ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครเป็นพันคน

ไปเป็นเด็กฝึกหัดที่เกาหลี

ได้รับแรงกดดันจากการเหยียดเชื้อชาติ

ความเป็นอยู่ จากบ้านจากครอบครัวและต้องเรียนภาษาเกาหลี

ใช้เวลาถึง 5 ปีจึงได้ออดิชั่น

ขณะนี้เธอติดอันดับหญิงที่สวยที่สุดในโลก

ติดอันดับผู้มีอิทธิพลของโลก

ที่ทราบจากการติดตามข่าวเธอเป็นคนนิสัยดี นอบน้อม รักความเป็นไทย

เมื่อออกรายการในต่างประเทศ เธอจะพูดภาษาไทยเสมอ

เธออายุ 23 ปี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

หลายประเทศเฉลิมฉลองวันเกิดให้เธอ

โดยเฉพาะประเทศจีน ขึ้นรูปเธอตามตึกที่สูงและมีชื่อเสียงที่สุด 9 แห่ง 9 เมือง

แต่ฉันไม่เห็นมีอะไรในไทยเลย

ทั้งหมดคุณธงทองคงรู้มาแล้ว

แต่ฉันเขียนซ้ำมา เผื่อคุณไม่เคยสนใจเรื่องนี้

คุณอาจจะค้นดูเพิ่มเติมในกูเกิล ยูทูบอีกก็ได้

เห็นคุณเขียนถึงไบร์ท อชิรวิชญ์ ถ้าเขียนถึงลิซ่าบ้างก็คงไม่ผิดกติกาอันใด

คนทำดี ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ เราควรยกย่องมิใช่หรือ

ตามที่เรียนมาข้างต้น ฉันเขียนถึงคอลัมนิสต์หลายคนแล้ว

แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง เลยคิดว่าจะเขียนถึงคุณเป็นฉบับสุดท้าย

นับถือ

แฟนมติชน

 

ส่งข้อความไปถึงอาจารย์ธงทองแล้ว

ขณะเดียวกัน ใน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับนี้

“วิรัตน์ แสงทองคำ” จับกระแสถึงความโดดเด่น “ลิซ่า” อย่างที่ “แฟนมติชน” ว่าได้

จึงเขียนถึงเธอ ในแง่มุมการตลาดและธุรกิจ

อาจไม่ใช่ในรูปแบบแนวบันเทิง

แต่ก็คงช่วยสาดแสงสปอตไลต์ไปถึงลิซ่า

อย่างที่แฟนมติชนประสงค์ ได้ระดับหนึ่ง

และว่าที่จริง แทนที่จะฝากความหวังไปที่คอลัมนิสต์ต่างๆ

“แฟนมติชน” จะนั่ง ลงมือเขียนถึงหนูลิซ่าเสียเอง

แล้วส่งมาที่ “มติชนสุดสัปดาห์”

หากเข้าที ก็ยินดีจะเป็นเวทีนำเสนอให้