ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 พฤษภาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์
THE ASSASSINATION OF GIANNI VERSACE : AMERICAN CRIME STORY
‘สังหารเจ้าพ่อแฟชั่น’
กำกับการแสดง Ryan Murphy, Nelson Cragg, Gwyneth Horden-Payton ฯลฯ
นำแสดง Darren Criss Edgar Ramirez Penelope Cruz Ricky Martin
วันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ.1997 เจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นที่มีแบรนด์ใหญ่ในชื่อของตัวเอง “จานนี่ เวอร์ซาเช่” ถูกพบนอนอยู่หน้าคฤหาสน์อลังการของเขาเองริมหาดไมอามี่ มีกระสุนฝังอยู่บนใบหน้า พร้อมนกเขาหนึ่งตัวที่โดนฆ่านอนตายอยู่ข้างตัวเขา
นั่นคือข่าวใหญ่ที่โด่งดังไปทั่วโลกเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ก่อนหน้าข่าวการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่าราวหนึ่งเดือน และในงานศพอันอลังการของเวอร์ซาเช่ ไดอาน่าก็เสด็จไปร่วมงานด้วย
ในช่วงหลายอาทิตย์หลังจากนั้น เอฟบีไอตามล่าหาตัวมือสังหารเจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นผู้นี้เป็นจ้าละหวั่น และบุคคลผู้ต้องสงสัยคือ แอนดรูว์ คูนานัน ซึ่งอยู่ในรายชื่อบุคคลที่ต้องการตัวของเอฟบีไอในฐานะฆาตกรที่ฆ่าคนไปแล้วอีกสี่คนในรัฐอื่นๆ ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
มินิซีรี่ส์ชุดนี้ออกฉายเมื่อสองปีมาแล้ว และได้รับการกล่าวขวัญอย่างชื่นชอบ รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อและชนะรางวัลมากมายสำหรับภาพยนตร์ทางทีวี
ผู้เขียนเพิ่งจะได้ดูทางเน็ตฟลิกซ์ตอนนี้เองค่ะ ในช่วงปิดเมืองและเก็บตัวอยู่บ้าน เลยมีเวลาว่างมากพอจะดูหนังชุดหลายๆ ตอนได้มากมายหลายเรื่อง ซึ่งมีให้เลือกทั้งทางเน็ตฟลิกซ์ และกล่องแอนดรอยด์
หนังซีรี่ส์นี่เสียอย่างคือ ถ้าดูแล้วติด ก็จะตามดูจนตาแฉะเลย อยากรู้เรื่องต่อไปจนจบ ดังนั้น ผู้เขียนจึงมีกฎประจำใจว่าจะไม่ตามดูซีรี่ส์ที่ยังไม่จบ อย่างน้อยก็ในฤดูกาลนั้น และบางทีก็รอจนหลายๆ ซีซั่นเสียก่อนค่อยเริ่มดู
ซีรี่ส์ชุดนี้มีเก้าตอนค่ะ และนำเสนอได้ดีมาก รวมทั้งการแสดง การวางลักษณะนิสัยตัวละคร การเขียนบทและคุณภาพของโปรดักชั่น
สร้างจากหนังสือของมอรีน ออร์ธ ชื่อ Vulgar Favors และได้รับการค้นคว้ารายละเอียดมาอย่างถี่ถ้วน แบบไม่ได้ยกเมฆขึ้นเอง หรือให้จินตนาการพาไปเพื่อความตื่นเต้นเร้าใจทางการละครเพียงอย่างเดียว การเขียนบทและบทสนทนาตั้งอยู่บนฐานของข้อมูลที่ได้จากแฟ้มการสอบสวนของเอฟบีไอ
ที่ผู้เขียนสะดุดตาตั้งแต่แรกคือ เอ็ดการ์ รามิเรซ ที่รับบทของจานนี่ เวอร์ซาเช่ นั้นละม้ายเหมือนตัวจริงแทบจะถอดแบบออกมา มนตร์ลวงตาของภาพยนตร์นี่ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
ส่วนเพเนโลปี ครูซ ซึ่งรับบท “ดอนาเทลลา” น้องสาวผู้สืบทอดอาณาจักรเวอร์ซาเช่ต่อจากพี่ชายผู้ล่วงลับ ก็เป็นนางพญาผมขาวแบบที่เราเห็นตามสื่อมวลชน แต่แน่นอนเพเนโลปีสวยกว่าตัวจริงเยอะ แต่ก็ถ่ายทอดตัวตนของดอนาเทลลาออกมาอย่างดี
ดอนาเทลลาอาจเป็นคนที่เลียนแบบลักษณะบุคลิกได้ง่าย สวมวิกผมยาวสีขาวโพลนและแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นเข้าหน่อย ใครๆ ก็บอกได้ว่าคนที่ถูกเลียนแบบคือดอนาเทลลา
แต่การแสดงของเพเนโลปี ครูซ ในบทสมทบก็จับตาจริงๆ
หลังจากพี่ชายเสียชีวิตไป ดอนาเทลลาเข้ารับสืบทอดกิจการและจัดการกับคู่ชีวิตของพี่ชายอย่างเลือดเย็น หนังนำเสนอด้วยภาพที่ยากจะลืมเลือน
เราทุกคนคงคุ้นตากันดีแล้วกับโลโก้เมดูซ่า ซึ่งเวอร์ซาเช่ใช้เป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ เมดูซ่าเป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาเป็นหญิงผมยาวรุงรังเป็นงูพาดพันอยู่บนหัว เล่ากันว่าเมดูซ่าถูกสาปให้มีลักษณะน่าเกลียดน่ากลัวถึงขั้นที่ใครก็ตามที่ประสบพบเห็น จะตกตะลึงแข็งค้างกลายเป็นหินในทันใด และเพอร์ซีอุส วีรบุรุษกรีกคนหนึ่ง ฆ่านางตายโดยขี่ม้าบินเพกาซัส ใช้โล่สะท้อนภาพนาง และตัดหัวมาทำสัญลักษณ์ประดับโล่ของเขา
จานนี่ เวอร์ซาเช่ ติดใจเรื่องราวและภาพของเมดูซ่าจนนำมาทำเป็นโลโก้ของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ผู้เขียนชอบภาพในตอนสุดท้ายใกล้จบ หลังจากเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวงแล้ว ที่เป็นภาพซ้อนของดอนาเทลลาในหนังทับอยู่บนโลโก้เมดูซ่าบนกระจก
ภาพแบบนี้แหละคือการเล่าเรื่องที่สื่อได้อย่างแยบยล โดยไม่ต้องพูดมากและเป็นภาพที่ติดตรึงอยู่ในใจยาวนานด้วย
จริงๆ แล้ว หนังเป็นเรื่องของฆาตกรผู้สังหารเวอร์ซาเช่นะคะ ไม่ใช่เรื่องของเวอร์ซาเช่โดยตรง และดาร์เรน คริส ก็รับบทแอนดรูว์ คูนานัน ได้อย่างสมบทบาท รวมทั้งหน้าตาอันละม้ายแม้นชายหนุ่มชาวอเมริกันลูกผสมฟิลิปปินส์กับอิตาเลียน เพียงแต่ว่าหล่อกว่าหลายเท่า
และที่ชอบคือ หนังไม่ได้ทำให้ผู้ร้ายกลายเป็นพระเอก แต่คนดูจะรู้สึกแปลกแยกกับตัวละครตัวนี้ตั้งแต่แรก แม้ว่าจะหน้าตาดีเหลือเกิน แต่เขาก็โกหกเป็นไฟแบบจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน และลื่นไหลแบบมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก
คูนานันใช้ชีวิตหรูหราในหมู่ชายสูงวัยที่ร่ำรวย ขณะเดียวกันก็มีความหมกมุ่นอยู่กับเวอร์ซาเช่มานานแล้ว เวอร์ซาเช่อาจเป็นไอดอลของเขาในแง่ของความสำเร็จและการใช้ชีวิตเปิดเผยแบบโฮโมเซ็กช่วล
เราเห็นคูนานันฆ่าเวอร์ซาเช่ตายหน้าคฤหาสน์หรูหราริมหาดตั้งแต่ตอนแรก และหลบหนีไปได้ ขณะที่ดูเหมือนตำรวจจะรู้ตัวว่าเป็นใครตั้งแต่แรกๆ
ตอนต่อๆ มาจะพาเราย้อนกลับไปในชีวิตเขาแบบเดินถอยหลังทีละก้าวๆ ไปสู่บุคคลที่เขาฆ่าทีละคนๆ อย่างเลือดเย็น โดยไม่ตระหนก ไม่เสียใจกับการกระทำของตัวเอง
หนังพาเราย้อนเวลาไปเรื่อยๆ จนถึงต้นตอแห่งตัวตนของบุคคลคนนี้ ซึ่งมีพ่อเป็นต้นแบบของการโกหกเป็นไฟและการกอบโกยประโยชน์ใส่ตนโดยไม่คำนึงถึงคนอื่นเลย
เมื่อปอกเปลือกตัวละครจนถึงแก่นแล้ว หนังยังเล่าเรื่องคู่ขนานและนำเสนอให้เราเห็นถึงชีวิตในวัยเด็กของจานนี่ เวอร์ซาเช่ ซึ่งมีแม่ผู้ทำงานหนักในอาชีพช่างเย็บเสื้อและส่งเสริมให้กำลังใจเขาขณะที่สังคมรอบข้างประณามตัวตนที่แท้จริงของเขา
ค่านิยมที่ถูกปลูกฝังแต่วัยเด็กนั้นสามารถสร้างความแตกต่างในชีวิตที่เติบใหญ่ขึ้นมาได้
ผู้เขียนดูหนังมินิซีรี่ส์ทั้งเก้าตอนจบภายในเวลาสองวันค่ะ โดยปกติใครแนะนำให้ดูซีรี่ส์ก็มักจะบ่ายเบี่ยง เพราะชอบดูหนังม้วนเดียวจบมากกว่า
แต่โควิด-19 ก็ท่าทางจะเปลี่ยนนิสัยการดูหนังของผู้เขียนไปแล้ว
นี่คือ “นิวนอร์มอล” ที่ค้นพบอย่างหนึ่งในชีวิต