การ์ตูนที่รัก / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ / Onward

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Onward

 

หนังการ์ตูนเรื่องใหม่เอี่ยมปี 2020 ของดิสนีย์และพิกซาร์ที่ออกฉายในเดือนมีนาคมก่อนไวรัสระบาดไม่นาน จำเป็นต้องถอดออกจากโปรแกรมก่อนเวลาเหมือนหนังทุกเรื่องในเดือนนั้น

หนังเล่าเรื่องที่เราคุ้นเคยดี เวทมนตร์หายไปไหน แต่ครั้งนี้ใช้ตัวละครจากเทพนิยายดำเนินเรื่อง คือพวกเอลฟ์ ไซคลอปส์ แพน กอบลิน พิกซี่ มังกร และอสุรกายอีกมากมาย ฉากหลังเป็นเมืองสมัยใหม่แบบเราๆ มีฟาสต์ฟู้ด คาราโอเกะ และทางด่วน แต่ไม่มีเวทมนตร์

หนังเล่าเรื่องเอลฟ์หนุ่มสองคน เอียนและแบร์ลี่ เอียนเป็นน้อง ร่างผอม สุภาพเรียบร้อย แบร์ลี่เป็นพี่ อ้วนจ้ำม่ำ มุทะลุและไม่ค่อยจะอยู่กับร่องกับรอย พ่อตายจากพวกเขาก่อนเอียนเกิด แม่น่ารักคอยดูแลเด็กทั้งสองคนเป็นอย่างดี มีตำรวจเซนทอร์หนวดเฟิ้มมาติดพันแม่ ว่าที่พ่อใหม่ก็มิใช่แย่ แต่ย่อมไม่ดีพอสำหรับลูกติด

เรื่องเส้นแบ่งระหว่างเวทมนตร์และวิทยาศาสตร์มีมาตลอด ครั้งที่วิทยุ โทรทัศน์ และโทรศัพท์เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ก็นับเป็นเวทมนตร์ชนิดหนึ่งอยู่แล้ว วันนี้เรามีไวไฟและเฟซไทม์ฟรี เวทมนตร์นี้ไม่ต่างอะไรจากกระแสจิต หากคนโบราณตื่นมาเห็นก็ไม่ต้องสงสัยว่ามันคือเวทมนตร์

เครื่องบินและเรือดำน้ำก็เช่นกัน เครื่องบินบินได้เหมือนนกครั้งแรกก็ว่าแปลกพอแรงอยู่แล้ว ครั้นเครื่องบินนับแสนล้านลำบินไปมาทั่วโลกทุกวันทุกคืนก็ยิ่งน่าแปลกใจกันมากขึ้นไปอีกว่าจะมีธุระบินอะไรกันนักหนา พอถึงวันนี้เครื่องบินจอดบนลานบินทั่วโลกเพราะไวรัสระบาด

ชวนให้คิดว่าเวทมนตร์กำลังเสื่อมลง เหมือนหนังการ์ตูนเวทมนตร์เรื่องนี้ที่ไม่มีที่จะฉาย

เอียนเกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อ พอถึงวันเกิดครบรอบ 16 ปีปีนี้ แม่ของเขาเอาของขวัญวันเกิดที่พ่อฝากไว้มามอบให้พี่น้อง มันคือไม้เท้าและมนตราที่สามารถชุบชีวิตพ่อได้เป็นเวลาหนึ่งวัน

เอียนและแบร์ลี่ดีใจมาก แต่ด้วยความผิดพลาดทำให้ได้พ่อมาแค่ครึ่งตัว มิหนำซ้ำเป็นแค่ครึ่งล่าง พ่อพูดไม่ได้ มีแต่ขาที่ใช้สื่อสารและไม่สามารถเดินไปเดินมาโดยไม่ชนนั่นชนนี่

เอียนและแบร์ลี่มีเวลาหนึ่งวันที่จะพาครึ่งบนของพ่อกลับมา พวกเขาจึงใช้รถยนต์เก่าๆ ของแบร์ลี่ซึ่งชื่อว่ากินนีเวียร์เป็นพาหนะออกตามหาอัญมณีวิเศษเม็ดหนึ่ง

เป้าหมายแรกของเอลฟ์หนุ่มทั้งสองคือร้านอาหารของแมนติคอร์ (Manticore) เราไม่ค่อยเห็นแมนติคอร์ในสื่อสมัยใหม่มากนัก เป็นตัวละครที่น่าดึงดูดทีเดียว แมนติคอร์เป็นสัตว์ในเทพนิยายจากเปอร์เซีย ใบหน้าเป็นคน ขนคอและลำตัวเป็นสิงโต หางเป็นแมงป่อง เมื่อประกอบกันขึ้นมาเป็นการ์ตูนจึงน่าดูมาก การ์ตูนเขียนใบหน้าเป็นสิงโตแล้วเติมปีกค้างคาวให้ด้วย

หล่อนชื่อว่า คอรีย์

 

แมนติคอร์ควรดุร้ายตามส่วนประกอบแต่คอรีย์วันนี้ไม่ดุร้าย หล่อนเปิดร้านอาหาร มีฟาสต์ฟู้ด มีขนมเด็กและตู้เพลงกด มีคาราโอเกะและกระดาษระบายสีสำหรับเด็กๆ ด้วย แผนที่อัญมณีวิเศษเป็นแค่รูปวาดโบราณใส่กรอบเป็นของวินเทจติดฝาผนัง

คอรีย์ละทิ้งและหลงลืมความร้ายกาจของตนเองหรือเผ่าพันธุ์ของตนเองไปนานแล้ว

พูดง่ายๆ ว่า เมื่อกฎหมายสมัยใหม่เข้มงวด มีตำรวจครองเมืองแทนมาเฟียและเหล่าร้าย เวทมนตร์ของมาเฟียก็หายไป

สองหนุ่มเอลฟ์ป่วนร้านของคอรีย์จนพังพินาศแล้วขับรถกินนีเวียร์พร้อมคว้าเมนูอาหารอัญมณีวิเศษติดรถไปด้วย แม่ของเขาขับรถออกตามหาด้วยความช่วยเหลือของแฟนใหม่ตำรวจเซนทอร์โคลต์ บรองโก แม่ตามมาจนถึงร้านของคอรีย์ซึ่งเผาไหม้วอดวายไปหมดแล้ว แม่ชวนคอรีย์ออกตามหาสองหนุ่มเอลฟ์และพ่อครึ่งตัวต่อไป

หนังสนุกใช้ได้ตามสไตล์ดิสนีย์และพิกซาร์ที่ยิงมุขและคำพูดเด็ดๆ ขำๆ เข้ามาเป็นไฟ ภายใต้บริบทที่เป็นอยู่คือเมื่อเหล่าทวยเทพและอสุรกายไร้เวทมนตร์ พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

 

สองพี่น้องไปมีเรื่องกับแก๊งบิ๊กไบก์พิกซี่เข้าระหว่างทาง นึกภาพฝูงบินภูตจิ๋วพิกซี่ตัวน้อยในชุดแก๊งมอเตอร์ไซค์คันเบ้อเร่อเท่อไล่ล่าเอียนและแบร์ลี่เป็นฉากสนุกๆ อีกฉากหนึ่ง เมื่อพิกซี่ไร้เวทมนตร์แต่ชดเชยส่วนขาดด้วยมอเตอร์ไซค์เหินฟ้าสมรรถนะสูง แม้ว่าพวกเขาจะมีปีกแต่บินไม่ได้อีกแล้วในโลกใหม่ก็ยังคงดิ้นรนจะบินให้ได้อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากหนีพวกพิกซี่บิ๊กไบก์มาได้ สองพี่น้องและพ่อครึ่งตัวถูกตำรวจสายตรวจสองนางสกัด แบร์ลี่บอกให้เอียนใช้เวทมนตร์แปลงร่างเป็นเซนทอร์ว่าที่พ่อใหม่ โดยเอียนจะเป็นครึ่งหน้าในร่างมนุษย์ส่วนแบร์ลี่จะหลบอยู่ข้างหลังเป็นครึ่งร่างของม้า มนตร์แปลงกายนี้มีข้อแม้ว่าเอียนห้ามพูดโกหก ถ้าพูดโกหกมนตร์จะเสื่อมสลายลง

ตำรวจสายตรวจสองนางรู้จักเซนทอร์โคลต์ บรองโก อยู่ก่อนแล้วจึงทักทายไปจนถึงซักไซ้ไล่เลียงว่าทำไมข้ามเขต และถามสารทุกข์สุกดิบถึงเรื่องแฟนใหม่แม่ม่ายลูกติด ได้ข่าวว่าไอ้ตัวพี่มันแย่มากไม่เอาไหน เอียนในร่างจำแลงไม่สามารถพูดโกหกได้จึงคล้อยตามไปว่า ใช่แล้ว ไอ้ตัวพี่มันไม่เอาไหนจริงๆ ประมาณนั้น โดยที่แบร์ลี่ในครึ่งร่างม้าได้ยินเต็มๆ ก็เศร้าไปเลย ที่แท้ใครๆ พูดถึงเขาเช่นนั้นเอง

เป็นฉากครอบครัวเล็กๆ ที่ไม่มีทางออก ความจริงถูกเปิดเผยแก่แบร์ลี่แล้วว่าใครๆ ก็เอือมระอาเขา พ่อครึ่งล่างทำได้เพียงชวนเด็กน้อยทั้งสองเต้นรำ ความรื่นเริงกลับคืนสู่ครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง เสมือนหนึ่งจะบอกว่าเรื่องเช่นนี้ในครอบครัวมิใช่อาชญากรรม

เด็กๆ ยังจะต้องพัฒนาต่อไปไม่ต้องห่วง

 

แล้วก็มาถึงครึ่งหลังของหนังซึ่งสนุกมาก หามาดูกันเองต่อนะครับ

เอียนคิดถึงพ่อ เขาทำรายการที่อยากทำร่วมกับพ่อไว้หลายข้อ เริ่มตั้งแต่เรื่องเดินเล่นกับพ่อ ระหว่างทางเขาจะได้ทำอะไรที่อยากทำมากขึ้นๆ แต่รายการนี้มิใช่จุดใหญ่ใจความ

เรื่องที่เขามองข้ามไปคือ เขามีคนคนหนึ่งที่เขาสามารถทำอะไรต่อมิอะไรด้วยได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว นั่นคือพี่ชาย แต่ก็ไม่ทำ อาจจะเพราะรำคาญ เพราะไม่ไว้ใจ หรือเพราะเห็นว่าพี่ชายไม่เอาไหน เขาจึงไม่เห็นพ่อในร่างพี่ตลอดมา

ฉากพ่อครึ่งล่างชวนเด็กๆ เต้นรำโดยซ้อนภาพกับแบร์ลี่ครึ่งบนเหมือนจะบอกใบ้ให้แก่เอียนและคนดูแล้วว่าเอียนมีพ่ออยู่ด้วยตั้งแต่เกิด แต่ดูเหมือนเอียนจะยังไม่เข้าใจอยู่ดี

พ่อครึ่งร่างกลับมาหาเมื่อเขาอายุ 16 ปี เป็นโอกาสสุดท้ายที่เอียนจะพัฒนาบุคลิกภาพได้ส่วนที่เข้มแข็งไปจากพ่อในร่างของพี่ ก่อนที่วัยรุ่นจะผ่านพ้น

นั่นคือเหตุผลที่ทำไมพ่อให้ของขวัญวันเกิดแก่สองพี่น้องในวันเกิดของน้อง

พี่สำคัญเสมอ