ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ / The Half of It

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

The Half of It

 

เธอจ๊ะ

The Half of It หนังวัยรุ่น วัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

จะแอบบอกว่าฉันดูโทรทัศน์เยอะไปแล้วแหละ ฉันเริ่มรู้สึกว่าคำว่า วัยรุ่น ฟังดูเชยๆ ทำไมฉันไม่พูด วัยทีน อาการแบบนี้เกิดจากการถูกชี้นำจากโฆษณาโทรทัศน์แน่นอน

หนังดีนะ มีเนื้อหาสาระน่าสนใจ แสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นมีความสนใจ มีความปรารถนาอันแรงกล้าในเรื่องต่างๆ และความพยายามจะค้นพบตัวเอง

ตัวเอกของเราคือ Ellie Chu เป็นสาวน้อยเชื้อสายจีน พ่อ-แม่เป็นคนจีน อพยพมาอเมริกา เมื่อตอนแอลลี่อายุ 5 ขวบ แล้วก็มาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมือง Squahamish เป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆ แล้วแม่ก็มาตาย เลยเหลือพ่อกับแอลลี่สองคน

 

พ่อทำงานเป็นนายสถานีรถไฟ ที่คอยให้สัญญาณรถไฟที่จะผ่านมาสถานีรถไฟประจำเมืองเล็กๆ แห่งนี้

Twice. 6:40 a.m. and 11:40 p.m. weekdays.

12:10 p.m. and 9:20 p.m. weekends.

Give or take an hour.

สองครั้ง 6:40 น. และ 23:40 น. วันธรรมดา

12:10 น. and 21:20 น.วันหยุด

บวกลบไม่เกินชั่วโมงหนึ่ง

give or take เป็นสำนวนบ่งบอกการประมาณการว่า ถ้าไม่มากก็ไม่น้อยกว่าจำนวนที่บอกไว้

ซึ่งหน้าที่นี้ก็เป็นหน้าที่ของแอลลี่ เพราะพ่อดูแล้วออกแนวซึมเศร้า พ่อนั่งจมอยู่กับเก้าอี้หน้าโทรทัศน์ทั้งวัน แอลลี่ไปโรงเรียน ดูแลบ้าน ดูแลพ่อ แล้วยังต้องทำงานพิเศษมีรายได้เสริม และทำงานแทนพ่ออีก

นอกจากชีวิตส่วนตัวที่ภรรยามาจากไป เหลือเพียงพ่อกับลูกเผชิญชีวิตลำพัง ชีวิตการงานของพ่อก็ไม่ประสบความสำเร็จดังที่ใฝ่ฝันเอาไว้

The plan was to be promoted

to system engineer.

It turns out speaking good English

trumps having a Ph.D.

แผนคือจะได้เลื่อนตำแหน่ง

เป็นวิศวกรควบคุมระบบ

แต่กลับเป็นว่าพูดภาษาอังกฤษให้ดี

ทับถมปริญญาเอกเสียสิ้น

“good English” ดูตรงไหน ความถูกต้อง ความมีประสิทธิภาพในการสื่อสาร เอาแค่สำเนียง หรือเอาหมดเลยที่กล่าวมา แต่คนจ้างงานมองเห็นว่าคุณสมบัติของพ่อไม่เพียงพอ พ่อก็เลยได้โอกาสมาเป็นเพียงนายสถานีที่มีวุฒิปริญญาเอกที่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรแล้ว

ส่วนแอลลี่สาวน้อยเชื้อสายจีน นามสกุลชู พ่อทำงานการรถไฟ จึงตกเป็นเป้าให้พวกนักเรียนชอบหาเรื่องแกล้งคนอื่นๆ มาเล็งโดยง่าย แอลลี่โดนล้อ Chugga chugga Chu Chu! ตลอดเวลา

จริงๆ Chugga chugga Chu Chu! เป็นชื่อนิทานอ่านสนุก เป็นเรื่องเกี่ยวกับรถไฟที่ทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น ให้เด็กๆ ผู้อ่านได้รู้จักสถานที่ต่างๆ ที่รถไฟวิ่งผ่าน หมู่บ้าน ลำธาร ภูเขา ลอดถ้ำ ข้ามสะพาน

แต่พอเอามาเป็นประเด็นล้อ ก็จะสร้างความเจ็บปวดได้จากนัยยะ ก็คล้ายๆ เอาชื่อพ่อชื่อแม่มาล้อ ล้อว่าใส่แว่น ล้อว่าสูง ล้อว่าเตี้ย ล้อว่าอ้วน อะไรทำนองนั้น

 

แอลลี่เรียนมัธยมศึกษาปีสุดท้ายแล้ว เรียนเก่งโดยเฉพาะวิชาการเขียน นักเรียนร่วมชั้นปีมาแอบว่าจ้างเขียนเรียงความอยู่เนืองๆ เรียกเพื่อนร่วมชั้นปีไม่ได้ไง เพราะแอลลี่ไม่มีเพื่อน มีแต่คนรู้จักกัน เห็นๆ กัน

เรื่องยากของแอลลี่ที่มีในเทอมสุดท้ายนี้ก็คือ วิชาดนตรี ครูจัดให้มีการแสดงดนตรี นักเรียนทุกคนต้องออกไปทำการแสดงความสามารถทางการดนตรีบนเวที

This is your last chance

to strut your stuff.

นี่เป็นโอกาสสุดท้าย

ในการแสดงความสามารถแล้วนะ

แอลลี่แสนจะขี้อาย ชอบดนตรีก็จริง แต่ก็แอบเล่นดนตรีอยู่บ้าน แอบแต่งเพลงร้องเพลงในห้องนอนของตัวเอง ให้ออกไปแสดงดนตรีต้องเตรียมใจมากมาย

to strut you stuff หมายถึง แสดงความสามารถ จะความสามารถอะไรก็สุดแต่บริบท

แล้ววันหนึ่ง Paul Munsky นักกีฬาชื่อดังของโรงเรียนมาว่าจ้างให้เขียนจดหมายหาสาว

Who writes letters these days?

สมัยนี้แล้วใครเขาเขียนจดหมายกัน?

แอลลี่ปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด และได้ทีทับถมเขาพองาม

Get a thesaurus,

use spell-check.

Good luck, Romeo.

เปิดพจนานุกรม

ใช้โปรแกรมตรวจคำผิด

โชคดีนะ โรเมโอ

thesaurus อ่านว่า เธ-ซ้อ-รัส เป็นพจนานุกรมชนิดหนึ่ง บรรจุคำความหมายเหมือนกัน ไม่ได้ใช้บอกคำนิยามแบบ dictionary

แต่สุดท้ายแอลลี่ก็จำใจรับงาน เขียนจดหมายบอกรักนางสาวแอสเตอร์ สาวงามประจำโรงเรียน

พี่พอลแกพูดไม่เก่ง แต่แกก็จัดว่าเป็นผู้ชายโรแมนติกได้เลยหนา กับการคิดส่งจดหมายรักเนี่ย ใช้กระดาษ ปากกา และลายมือ

 

แล้วแอลลี่กับพี่พอลก็ต้องติดต่อธุรกิจกันยาวเลย ไม่ได้จบที่จดหมายฉบับเดียวดั่งที่ตั้งใจ พี่พอลส่งจดหมายแล้ว ยังต้องส่งข้อความ ยังต้องไปขอเขาออกเดต ขำตรงต้องมีการติวเนื้อหาสาระต่างๆ อย่างเข้มข้น เพราะสาวแอสเตอร์ไม่ได้สวยงามอย่างเดียว แต่ชอบอ่านหนังสือ สนใจศิลปะอีกต่างหาก เนื้อหาก็ต้องครอบคลุมสาขาหลากหลายเรื่องราวเลย

ไปๆ มาๆ แอลลี่กลับเป็นคนได้เรียนรู้ว่า แอสเตอร์น่าคบหามาก พูดจาแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดกันออกอรรถรสมาก

พี่พอลไม่ได้เป็นนักกีฬาใช้แค่พละกำลัง แกก็มีความหวัง มีความพยายามจะสร้างอนาคต

แอลลี่ได้รู้จักการเห็นข้อดีและรู้สึกดีกับตัวเอง

The good thing about being different

is that no one expects you

to be like them.

ข้อดีของการไม่เหมือนใคร

คือไม่มีใครคาดหวัง

ให้เราไปเหมือนเขา

พี่พอลก็ได้รู้เรื่องราวชีวิตมากขึ้น ชีวิตมีอะไรมากได้ไปกว่าการไปซ้อมฟุตบอล

I’m probably gonna crash and burn, but…

thanks for sticking it out with me anyway.

ผมก็อาจจะล้มไม่เป็นท่า

แต่ก็ขอบคุณนะที่ไม่ทิ้งกัน

to crash and burn เป็นสำนวน หมายถึง ล้มเหลวในทันทีทันใด เห็นได้ชัด และไม่มีชิ้นดี ล้มคว่ำไม่เป็นท่า

to stick it out ก็เป็นสำนวน หมายถึง ลงมือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปตั้งแต่ต้นจนจบ แบบร่วมทุกข์ยากลำบากลำบนด้วยกัน ต้องมีการอดทนฝ่าฟันกันไปไม่ย่อท้อ

แบบทุกวันนี้เราก็พูดว่า We have been asked to continue to stick it out.

 

เรื่องวัยรุ่นก็ต้องมีความรักแหละ ตกลงพี่พอลจะรักใคร แอลลี่หรือแอสเตอร์

แอสเตอร์จะปลงใจกับใครดี คนที่เขียนจดหมายมาหาหรือคนที่ไปเดตด้วย

แอลลี่อีกคนจะชอบแอสเตอร์ได้ไหมหรืออย่างไรดี หรือทั้งหมดนี้จะกลายเป็นรักสามเส้าเราสามคน หรือเป็นเพื่อนรักกันไปสามคน

ในหนังตอนหนึ่งเขาว่าไว้ “It’s not finding your perfect half. It’s the trying, and reaching and failing.” มันไม่ใช่การตามหาอีกครึ่งหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ มันเป็นการต้องได้พยายาม ไขว่คว้า และล้มลุกคลุกคลาน เป็นวัยรุ่นต้องได้ลงมือทำ ผิดหรือถูกต้องได้ทำและได้เรียนรู้ชีวิตและความรัก หนังเขาชัดเจน

ฉันเอง