ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 พฤษภาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
6ปีที่แล้ว
22 พฤษภาคม 2557
น้องเล็กแห่งบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พาพี่ๆ ยึดอำนาจจากพรรคการเมืองจนสำเร็จ
22 พฤษภาคม 2563
มีเสียงกระซิบดังๆ ว่า พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังปฏิบัติการยึดอำนาจอยู่เหมือนกัน
เป็นการยึดอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
ซึ่งแม้จะยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่กองเชียร์ก็เชื่อว่าอีกไม่นาน พี่ใหญ่ขึ้นครอง “ผู้นำพรรค” แน่
ส่วนน้องตู่-น้องป๊อก หรี่ตา “ยึดพรรค” ด้วยหรือไม่ ไม่ชัด
เพียงแต่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งพี่ใหญ่ น้องเล็ก แม้จะปากเปียกปากแฉะ ห้ามคนใน พปชร.ไม่ให้เคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ
แต่ดูเหมือนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
จนมีข้อสงสัยว่า ที่ห้ามนั้น ห้ามจริงหรือเปล่า
โดยเฉพาะพี่ป้อม กองหนุนดันก้นลุยหน้าไปไกลแล้ว
แน่นอน เมื่อฝ่ายหนึ่งดัน ก็ย่อมต้องมีฝ่ายที่ถอย
ซึ่งก็ทราบกันดี นั่นคือกลุ่ม 4 กุมาร ที่กุมตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคอยู่
ตอนแรกก็หลักดี เพราะดูเหมือนจะมีคนในทำเนียบ “หนุน”
แต่หนุนกันแบบไหนไม่รู้ อีกฝ่ายรุกคืบเข้ามาทุกวัน
มีปฏิบัติการไอโอถล่มในทุกช่อง ในทุกโอกาส
อย่างนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ขณะพยายามรั้งเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐของตัวเองเอาไว้
ก็มีข่าวปล่อยออกมาถล่มว่า มีการเสนองบฯ ตัวเลข 8 หลักให้กับ ส.ส.ที่พร้อมยกมือสนับสนุนให้ได้ไปต่อ
โดยมีการระบุแหล่งที่มาของงบฯ 5 หลัก เพื่อความน่าเชื่อถือเสียด้วยว่า
คือ งบฯ กองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งปีงบประมาณ 2563 มีอยู่ประมาณ 5,600 ล้านบาท
ที่เจาะจงไปตรงนั้นให้ชัดๆ ก็ไม่มีอะไรอ้อมค้อม
เพราะมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกองทุนอยู่
กระสุนนัดเดียว สะดุ้งทั้งนายสนธิรัตน์และนายสมคิด
จนต้องออกมาปฏิเสธและแจกแจงการใช้เงินว่าโปร่งใส สยบข่าว
ข่าวนั้นยันไม่ทันจาง ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นายสมคิดเกิดอาการโรคเบาหวานกำเริบ ลาประชุม
เลยเจอไอโอเข้าไปอีก 2 เรื่องหนักๆ
เรื่องแรก คือมีการกล่าวหาว่านายสมคิดแอบจะลักไก่เอาเรื่อง “ข้อตกลงความเข้าใจและความคืบหน้าเพื่อหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก” หรือ CPTPP
ที่คนค้านกันทั้งเมืองเข้า ครม.วาระจร เพื่อให้ ครม.เห็นชอบ
แต่ความแตกเสียก่อน นายสมคิดเลยต้องป่วย
ยิ่งกว่านั้น ยังมีการต่อเรื่องอีกว่า เหตุที่นายสมคิด “ป่วย”
ก็เพราะมีจุดยืนเดียวกับนายอุตตม สาวนายน ไม่เห็นด้วยกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจส่งเรื่องการบินไทยเข้าสู่ศาลเพื่อการฟื้นฟู
แต่เมื่อผู้นำคิดเป็นอื่น นายสมคิดเลยป่วย
เช่นเดียวกับนายอุตตม ที่อ้างติดภารกิจ โดยเคยโดดประชุมถกเรื่องการบินไทยวงเล็กกับรัฐมนตรีภูมิใจไทยมาแล้ว
ยังไม่หนำใจ ยังมีการปล่อยข่าวตอกฝาโลงให้แน่นขึ้นไปอีกว่า
หลังจากนั้น นายอุตตม นายสนธิรัตน์ พร้อม ส.ส.หญิงผู้สูงด้วยบทบาท และนักธุรกิจดาวรุ่ง
ไปหารือที่โรงแรมหรรษา กรุงเทพฯ เพื่อรับมือหากถูกแซะจากเก้าอี้
ถึงขนาดมีการขานชื่อพรรคสำรองไว้แล้วในกรณีแตกหัก คือ “พรรคสร้างไทย”
เล่นกันหนักขนาดนี้
น่าจะเป็นสัญญาณว่าการยึดพรรคน่าจะมีขึ้นไม่พฤษภาคมก็มิถุนายนนี้แน่ๆ