ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 พฤษภาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]
เทียบฟอร์ม 2 มินิเอ็มพีวี
เอ็กซ์แพนเดอร์ VS เออร์ติกา
ตัดสินใจในฉับพลันว่าต้องขอนำรถครอบครัวที่ผมเพิ่งทดสอบ 2 รุ่นมาเปรียบเทียบกัน ก่อนที่ความรู้สึกในการขับขี่จะเลือนหายไป
เนื่องจากมีรถอีกหลายรุ่นที่เตรียมให้ทดสอบต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ “โควิด-19” ทำให้รถใหม่ๆ เลี่ยงเปิดตัวในช่วงนี้
หรือที่เปิดตัวจริงๆ เน้นแบบออนไลน์มากกว่า
2 รถครอบครัวที่นำมาเทียบฟอร์มครั้งนี้คือมิตซูบิชิ “เอ็กซ์แพนเดอร์” และซูซูกิ “เออร์ติกา” เป็นรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง นำเข้าจากอินโดนีเซียทั้งคู่
อย่างที่เคยบอกไปละครับว่า อินโดนีเซียถือเป็นตลาดใหญ่ของรถเซ็กเมนต์นี้ เพราะคนที่โน่นนิยมกันจริงจัง
ค่ายรถต่างๆ ที่ไปเปิดโรงงานจึงเน้นผลิตรถประเภทนี้ และใช้เป็นฐานการส่งออกใหญ่
ไม่ต่างจากเมืองไทยที่เป็นฐานผลิตรถปิกอัพใหญ่ของโลก เนื่องจากเป็นรถที่คนไทยนิยมนั่นเอง
เริ่มที่หน้าตาภายนอก เอ็กซ์แพนเดอร์ ดีไซน์ Dynamic Shield เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เด่นด้วยเส้นสายเรขาคณิตบนกันชนหน้า
กระจังหน้า 3 แถบแถบติดกัน ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่พร้อมไฟตัดหมอก LED ขนาดใหญ่ ตำแหน่งจะอยู่ต่ำลงมาจากจุดปกติ
ส่วนแถบไฟด้านบนเป็นเส้นเล็กๆ เรียวไปตามฝากระโปรง เป็นไฟหรี่ LED แบบคริสตัล
แผงตกแต่งข้างประตูและซุ้มล้อสีดำรับกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
ประตูท้ายดีไซน์ใหม่ เสาอากาศครีบฉลาม และกันชนหลังพร้อมแผงกระแทกขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนเออร์ติกา หน้าตาภายนอกดูสปอร์ตขึ้นกว่ารุ่นเดิม กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบโครเมียม ไฟหน้า Projector Lens ฮาโลเจน ไฟตัดหมอกคู่หน้า
กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
มือเปิดประตูภายนอก โครเมียม ไฟท้ายแบบ LED พร้อม Light Guiding
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ฝาท้ายตกแต่งด้วยโครเมียม
ล้อแม็กซ์ลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65
หากดูรูปร่างหน้าตาภายนอก “เอ็กซ์แพนเดอร์” ได้ความเฉี่ยวและดูทันสมัยกว่า ขณะที่ “เออร์ติกา” ให้อารมณ์รถครอบครัวแบบเรียบๆ
ภายในเออร์ติกา คล้ายๆ ด้านนอกที่เน้นความเรียบหรู ใช้สีเข้มตัดกับลายไม้
พวงมาลัยท้ายตัดตกแต่งลายไม้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
แผงแดชบอร์ดหน้าและด้านข้างตกแต่งลายไม้ดูหรูหราขึ้น
เรือนไมล์ 2 วงซ้าย-ขวา ตรงกลางเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
หน้าจอขนาด 10 นิ้ว Touchscreen รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM CD MP3 WMA ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องเชื่อมต่อ HDMI
คอนโซลกลางมีขนาดเล็กทำให้พื้นที่วางเท้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้ามากขึ้น
ระบบแอร์บิดหมุนธรรมดา แต่มีปุ่มออโต้ให้เลือกใช้
ขณะที่เอ็กซ์แพนเดอร์ ใช้สีทูโทนดำ-น้ำตาล ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และสีดำเปียโนแบล็ก
พวงมาลัยระบบมัลติฟังก์ชั่น หัวเกียร์และเบรกมือหุ้มหนัง
มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์
ตรงกลางเป็นจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว เชื่อมต่อบลูทูธ เครื่องเสียง 2DIN รองรับดีวีดี ซีดี และเอ็มพี 3
ทั้ง 2 รุ่นเจาะช่องแอร์เพดานเพิ่มความเย็นให้ผู้โดยสารตอนหลัง
เบาะนั่งแถว 2- 3 นั่งได้จริง และสบายพอๆ กัน
มาถึงหัวใจสำคัญ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใช้เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ส่วนเออร์ติกา เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Multi-point ความจุ 1,462 ซีซี กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
หากดูสเป๊กเครื่องยนต์เหมือนจะไม่ต่างกันมาก แต่เมื่อทดลองขับกลับพบว่าเออร์ติกาจะกระฉับกระเฉงกว่า
ส่วนการตอบสนองของเกียร์ไม่หนีกันเท่าไหร่
การออกตัวและความเร็วกลาง เออร์ติกาเหนือกว่าหน่อยๆ เพราะช่วงที่ลองจับเวลาพบว่าความเร็วไต่ขึ้นไปถึง 120-130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาไม่นานนัก
ส่วนเอ็กซ์แพนเดอร์จะช้ากว่านิดๆ
การเก็บเสียงไม่หนีกันเลย 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เริ่มได้ยินขึ้นมาบ้างแล้ว
ส่วนการทรงตัวเออร์ติกาใช้ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง
เช่นเดียวกับเอ็กซ์แพนเดอร์ ช่วงล่างมาตรฐาน ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต/คอยล์สปริง/เหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม
ความนุ่มนวลไม่ต่างกันนัก แต่ว่าเออร์ติกาจะดีกว่านิดๆ กรณีขับคนเดียว แต่ผมไม่อยากสรุปเท่าไหร่ เพราะสารภาพว่ารถทั้ง 2 รุ่นผมไม่ได้ตรวจเช็กลมยาง ว่ารุ่นไหนเติมมาโอเวอร์เกินหรือไม่
เพราะเคยเจอหลายหนที่รถทดสอบเมื่อมาถึงมือผมมักจะเติมลมยางมากกว่าปกติ
ช่วงขับความเร็วเกิน 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีลมผ่านเข้าใต้ท้องทำให้มีอาการนิดๆ เหมือนกันทั้งคู่ เนื่องจากความสูงของตัวรถนั่นเอง แต่ไม่ได้มากจนน่ากลัว ยิ่งหากไปกันหลายๆ คนปัญหานี้จะน้อยลง
ทัศนวิสัยโปร่งโล่งด้วยกันทั้งคู่ แต่หากมองภาพรวมภายในแล้วเอ็กซ์แพนเดอร์ดูสปอร์ตและหรูหรากว่า
ส่วนความปลอดภัยและตัวช่วยเอ็กซ์แพนเดอร์จะดีกว่า มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก, ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
ขณะที่เออร์ติกาจะด้อยกว่าแต่ไม่มากนัก อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก และระบบเสริมแรงเบรก กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
แม้ภาพรวมแล้วเอ็กซ์แพนเดอร์ทั้งภายนอก-ภายใน ออปชั่นที่ให้มาจะเหนือกว่า แต่ส่วนหนึ่งเพราะราคาที่แพงกว่าพอสมควร
ขณะที่เออร์ติกา ผมให้เหนือกว่าที่กำลังเครื่องยนต์ เพราะแม้แรงม้าจะเท่ากันแต่การขับขี่รู้สึกว่าไปตามสั่ง ตามแรงเท้าได้มากกว่า
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รุ่นท็อป (GT) ราคา 859,000 บาท ส่วนรุ่นแต่งพิเศษ “เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” ราคา 899,000 บาท
ซูซูกิ เออร์ติกา รุ่นท็อป (GX) ราคา 725,000 บาท