ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต/เทียบฟอร์ม 2 มินิเอ็มพีวี เอ็กซ์แพนเดอร์ VS เออร์ติกา

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

เทียบฟอร์ม 2 มินิเอ็มพีวี

เอ็กซ์แพนเดอร์ VS เออร์ติกา

 

ตัดสินใจในฉับพลันว่าต้องขอนำรถครอบครัวที่ผมเพิ่งทดสอบ 2 รุ่นมาเปรียบเทียบกัน ก่อนที่ความรู้สึกในการขับขี่จะเลือนหายไป

เนื่องจากมีรถอีกหลายรุ่นที่เตรียมให้ทดสอบต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ “โควิด-19” ทำให้รถใหม่ๆ เลี่ยงเปิดตัวในช่วงนี้

หรือที่เปิดตัวจริงๆ เน้นแบบออนไลน์มากกว่า

2 รถครอบครัวที่นำมาเทียบฟอร์มครั้งนี้คือมิตซูบิชิ “เอ็กซ์แพนเดอร์” และซูซูกิ “เออร์ติกา” เป็นรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง นำเข้าจากอินโดนีเซียทั้งคู่

อย่างที่เคยบอกไปละครับว่า อินโดนีเซียถือเป็นตลาดใหญ่ของรถเซ็กเมนต์นี้ เพราะคนที่โน่นนิยมกันจริงจัง

ค่ายรถต่างๆ ที่ไปเปิดโรงงานจึงเน้นผลิตรถประเภทนี้ และใช้เป็นฐานการส่งออกใหญ่

ไม่ต่างจากเมืองไทยที่เป็นฐานผลิตรถปิกอัพใหญ่ของโลก เนื่องจากเป็นรถที่คนไทยนิยมนั่นเอง

 

เริ่มที่หน้าตาภายนอก เอ็กซ์แพนเดอร์ ดีไซน์ Dynamic Shield เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เด่นด้วยเส้นสายเรขาคณิตบนกันชนหน้า

กระจังหน้า 3 แถบแถบติดกัน ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่พร้อมไฟตัดหมอก LED ขนาดใหญ่ ตำแหน่งจะอยู่ต่ำลงมาจากจุดปกติ

ส่วนแถบไฟด้านบนเป็นเส้นเล็กๆ เรียวไปตามฝากระโปรง เป็นไฟหรี่ LED แบบคริสตัล

แผงตกแต่งข้างประตูและซุ้มล้อสีดำรับกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ประตูท้ายดีไซน์ใหม่ เสาอากาศครีบฉลาม และกันชนหลังพร้อมแผงกระแทกขนาดใหญ่ขึ้น

ส่วนเออร์ติกา หน้าตาภายนอกดูสปอร์ตขึ้นกว่ารุ่นเดิม กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบโครเมียม ไฟหน้า Projector Lens ฮาโลเจน ไฟตัดหมอกคู่หน้า

กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว

มือเปิดประตูภายนอก โครเมียม ไฟท้ายแบบ LED พร้อม Light Guiding

ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ฝาท้ายตกแต่งด้วยโครเมียม

ล้อแม็กซ์ลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65

หากดูรูปร่างหน้าตาภายนอก “เอ็กซ์แพนเดอร์” ได้ความเฉี่ยวและดูทันสมัยกว่า ขณะที่ “เออร์ติกา” ให้อารมณ์รถครอบครัวแบบเรียบๆ

 

ภายในเออร์ติกา คล้ายๆ ด้านนอกที่เน้นความเรียบหรู ใช้สีเข้มตัดกับลายไม้

พวงมาลัยท้ายตัดตกแต่งลายไม้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง

แผงแดชบอร์ดหน้าและด้านข้างตกแต่งลายไม้ดูหรูหราขึ้น

เรือนไมล์ 2 วงซ้าย-ขวา ตรงกลางเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID

หน้าจอขนาด 10 นิ้ว Touchscreen รองรับ Apple CarPlay / Android Auto

เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM CD MP3 WMA ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องเชื่อมต่อ HDMI

คอนโซลกลางมีขนาดเล็กทำให้พื้นที่วางเท้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้ามากขึ้น

ระบบแอร์บิดหมุนธรรมดา แต่มีปุ่มออโต้ให้เลือกใช้

ขณะที่เอ็กซ์แพนเดอร์ ใช้สีทูโทนดำ-น้ำตาล ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน และสีดำเปียโนแบล็ก

พวงมาลัยระบบมัลติฟังก์ชั่น หัวเกียร์และเบรกมือหุ้มหนัง

มาตรวัดการขับขี่แบบ High Contrast จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์

ตรงกลางเป็นจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว เชื่อมต่อบลูทูธ เครื่องเสียง 2DIN รองรับดีวีดี ซีดี และเอ็มพี 3

ทั้ง 2 รุ่นเจาะช่องแอร์เพดานเพิ่มความเย็นให้ผู้โดยสารตอนหลัง

เบาะนั่งแถว 2- 3 นั่งได้จริง และสบายพอๆ กัน

 

มาถึงหัวใจสำคัญ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใช้เครื่องยนต์ DOHC MIVEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ส่วนเออร์ติกา เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Multi-point ความจุ 1,462 ซีซี กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

หากดูสเป๊กเครื่องยนต์เหมือนจะไม่ต่างกันมาก แต่เมื่อทดลองขับกลับพบว่าเออร์ติกาจะกระฉับกระเฉงกว่า

ส่วนการตอบสนองของเกียร์ไม่หนีกันเท่าไหร่

การออกตัวและความเร็วกลาง เออร์ติกาเหนือกว่าหน่อยๆ เพราะช่วงที่ลองจับเวลาพบว่าความเร็วไต่ขึ้นไปถึง 120-130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาไม่นานนัก

ส่วนเอ็กซ์แพนเดอร์จะช้ากว่านิดๆ

การเก็บเสียงไม่หนีกันเลย 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เริ่มได้ยินขึ้นมาบ้างแล้ว

ส่วนการทรงตัวเออร์ติกาใช้ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง

เช่นเดียวกับเอ็กซ์แพนเดอร์ ช่วงล่างมาตรฐาน ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต/คอยล์สปริง/เหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม

ความนุ่มนวลไม่ต่างกันนัก แต่ว่าเออร์ติกาจะดีกว่านิดๆ กรณีขับคนเดียว แต่ผมไม่อยากสรุปเท่าไหร่ เพราะสารภาพว่ารถทั้ง 2 รุ่นผมไม่ได้ตรวจเช็กลมยาง ว่ารุ่นไหนเติมมาโอเวอร์เกินหรือไม่

เพราะเคยเจอหลายหนที่รถทดสอบเมื่อมาถึงมือผมมักจะเติมลมยางมากกว่าปกติ

ช่วงขับความเร็วเกิน 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีลมผ่านเข้าใต้ท้องทำให้มีอาการนิดๆ เหมือนกันทั้งคู่ เนื่องจากความสูงของตัวรถนั่นเอง แต่ไม่ได้มากจนน่ากลัว ยิ่งหากไปกันหลายๆ คนปัญหานี้จะน้อยลง

 

ทัศนวิสัยโปร่งโล่งด้วยกันทั้งคู่ แต่หากมองภาพรวมภายในแล้วเอ็กซ์แพนเดอร์ดูสปอร์ตและหรูหรากว่า

ส่วนความปลอดภัยและตัวช่วยเอ็กซ์แพนเดอร์จะดีกว่า มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก, ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน

ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด

ขณะที่เออร์ติกาจะด้อยกว่าแต่ไม่มากนัก อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก และระบบเสริมแรงเบรก กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด

แม้ภาพรวมแล้วเอ็กซ์แพนเดอร์ทั้งภายนอก-ภายใน ออปชั่นที่ให้มาจะเหนือกว่า แต่ส่วนหนึ่งเพราะราคาที่แพงกว่าพอสมควร

ขณะที่เออร์ติกา ผมให้เหนือกว่าที่กำลังเครื่องยนต์ เพราะแม้แรงม้าจะเท่ากันแต่การขับขี่รู้สึกว่าไปตามสั่ง ตามแรงเท้าได้มากกว่า

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รุ่นท็อป (GT) ราคา 859,000 บาท ส่วนรุ่นแต่งพิเศษ “เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” ราคา 899,000 บาท

ซูซูกิ เออร์ติกา รุ่นท็อป (GX) ราคา 725,000 บาท