ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
ภาพการนั่งสนทนากันอย่างดูสนิทชิดเชื้อระหว่างสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) กับกึม สุขา อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ที่เคยเป็นเสาหลักของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งปรากฏต่อสายตาสาธารณชนภายในงานศพของบุน แสงลี แม่ยายของฮุน เซน ที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญ เมื่อ 5 พฤษภาคม
โดยกึม สุขา เดินทางไปร่วมเคารพศพและแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียสมาชิกสำคัญในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยนั้น เป็นภาพที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อย
มากไปกว่านั้น ยังจุดความหวังเล็กๆ ให้กับคนที่มองบวกว่านี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนให้เกิดการประนีประนอมปรองดองกันขึ้นระหว่างคู่ขัดแย้งทางการเมืองในกัมพูชาที่ห้ำหั่นฟาดฟันกันมานานหลายสิบปีก็อาจเป็นได้
รายงานข่าวที่มีออกมาระบุว่า ในระหว่างงานศพนั้น ฮุน เซน ใช้เวลานั่งคุยกับกึม สุขา ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการต่อสู้คดีในข้อหากบฏอยู่นานถึง 50 นาที
ประเด็นที่ทั้งสองพูดคุยหารือกันนั้นยังมีเรื่องของสวัสดิภาพความเป็นไปและผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
โดยที่โฆษกพรรคซีพีพีออกมาย้ำปฏิเสธว่า การที่อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชามาร่วมงานศพแม่ยายของสมเด็จฯ ฮุน เซน นั้น เป็นการปฏิบัติตามธรรมเนียม ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณการประนีประนอมทางการเมืองแต่ประการใด
อีกทั้งย้ำชัดว่าคดีความที่อดีตผู้นำฝ่ายค้านเผชิญอยู่เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ที่จะต้องแก้ไขด้วยกฎหมาย ไม่ใช่การแสดงความเสียใจหรือการร่วมงานศพ
ทั้งนี้ กึม สุขา ในวัย 66 ปี กำลังต่อสู้คดีหลังจากถูกทางการกัมพูชาจับกุมในเดือนกันยายนปี 2560 จากการถูกกล่าวหาว่าสมคบกับรัฐบาลต่างชาติมุ่งหมายล้มล้างรัฐบาล
หลังจากนั้นสองเดือนถัดมาพรรคซีเอ็นอาร์พีถูกศาลสูงสุดกัมพูชาตัดสินยุบพรรคภายใต้ข้อกล่าวหาว่ามีแผนล้มล้างรัฐบาลและศาลยังสั่งห้ามสมาชิกพรรคซีเอ็นอาร์พี 118 คนยุ่งเกี่ยวกับการเมืองด้วย
เป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าเป็นการเดินเกมกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของฮุน เซน ที่มุ่งยึดกุมอำนาจบริหารประเทศไว้ในมือต่อไปตลอดกาล
และนำไปสู่การกวาดที่นั่งในรัฐสภากัมพูชาไปได้ทั้งหมด 125 ที่นั่งของพรรคซีพีพีในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2561
เสียงโต้แย้งด้านหนึ่งมองถึงภาพการนั่งลงพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดของฮุน เซน กับกึม สุขา ว่าอาจไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ที่จะช่วยกลบลบรอยร้าวทางการเมืองระหว่างรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านที่มีมาเนิ่นนานลงได้
เพราะที่ผ่านมาคู่ขัดแย้งนี้ต่างเคยแสดงไมตรีจิตอันดีต่อกันในความสูญเสียของอีกฝ่ายกันมาแล้ว
และในปี 2559 ฮุน เซน ยังเคยได้ส่งลูกชายของตนเองไปร่วมงานศพแม่ยายของสม รังสี รักษาการประธานพรรคซีเอ็นอาร์พี ซึ่งคู่ปรับทางการเมืองไม้เบื่อไม้เมาสำคัญของฮุน เซน มาแล้วด้วยเช่นกัน
และการเสียชีวิตของแม่ยายฮุน เซน ครั้งนี้ ตัวสม รังสี ที่ขณะนี้ลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในฝรั่งเศสก็ยังได้แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียแม่ยายของฮุน เซน เองด้วย โดยการโพสต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กบอกว่า แม้จะมีความเห็นต่างทางการเมือง แต่นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งตนขอแสดงความเสียใจด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าจับตาสถานการณ์การเมืองในกัมพูชามานานอย่างเส็ง สารี นักวิจัยพัฒนาทางสังคม ให้ความเห็นกับเรดิโอฟรีเอเชียว่า หากจะมองเป็นเรื่องของธรรมเนียมหรือมารยาททางการเมืองของคนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันก็มองได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็อาจนำไปสู่บรรยากาศความสัมพันธ์ทางการเมืองที่อบอุ่นดีขึ้นได้
ด้านมีส นี นักรัฐศาสตร์อีกรายมองว่า บางครั้งนักการเมืองก็อาจแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงได้
ซึ่งบางทีการประนีประนอมก็อาจจะเริ่มต้นจากจุดนี้ที่บรรดานักการเมืองพบว่าพวกเขาสามารถทำความเข้าอกเข้าใจร่วมกันได้
ซึ่งยังแสดงให้เห็นถึงการมีทัศนคติที่ดีและการมีวุฒิภาวะ
อย่างน้อยๆ ก็หวังว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาทางการเมืองต่อไปในภายภาคหน้าได้
ในอีกมุมมองหนึ่งของเส็ง สารี ยังให้ความเห็นเป็นเชิงเตือนว่า แม้อาจจะดูเป็นท่าทีอันดีของฮุน เซน ที่นั่งลงพูดคุยกับกึม สุขา ได้ แต่นั่นอาจไม่ได้แก้ไขปมขัดแย้งหลักสำคัญระหว่างพรรคซีพีพีและพรรคซีเอ็นอาร์พี ที่เขามองว่ากลายเป็นปมขัดแย้งเรื่องของตัวบุคคลไปแล้ว
โดยเฉพาะระหว่างฮุน เซน กับสม รังสี คู่ขัดแย้งหลัก ที่มีความอาฆาตแค้นกันเป็นการส่วนตัวมากกว่า จึงยังเป็นเรื่องยากที่จะเห็นความปรองดองที่แท้จริงเกิดขึ้นได้
ส่วนในความรู้สึกนึกคิดของประชาชนคนธรรมดาอย่างดารา วิชัย ชายชาวพนมเปญ สะท้อนภาพว่า เขารู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นฮุน เซน และกึม สุขา นั่งลงคุยกันได้ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาได้แต่เห็นฮุน เซน ข่มขู่คุกคามพรรคซีเอ็นอาร์พีมาโดยตลอด
และเขาเชื่อว่านี่เป็นภาพที่ชาวกัมพูชาอยากเห็นและปรารถนาให้นักการเมืองกัมพูชาทุกคนปฏิบัติตนอย่างมีวุฒิภาวะ
และมุ่งมั่นทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน!