ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 พฤษภาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | คุยกับทูต |
ผู้เขียน | ชนัดดา ชินะโยธิน eku7575@gmail.com |
เผยแพร่ |
คุยกับทูต ซัยยิด เรซ่า โนบัคตี สานสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน มิตรเก่าในยุคใหม่ (1)
ประเทศอิหร่านสมัยโบราณ คนสยามเราเรียกว่า “เปอร์เซีย”
มีคำพูดในภาษาเปอร์เซียกล่าวว่า “แขกผู้มาเยือน เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า” ถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของอิหร่าน
อิหร่านเพิ่งประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ล่าสุด จากการส่งดาวเทียมทหารดวงแรกของประเทศ ชื่อนูร์-1 (Nour-1) ซึ่งแปลว่าแสง (Light-1) ขึ้นสู่วงโคจรโลกด้วยจรวดคาสเซด (Qassed) หรือกาเซด (Ghased) ที่มีความหมายว่าผู้ส่งสาร จากฐานปล่อยจรวดในทะเลทรายมาร์คาซี (Markazi) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นับเป็นพัฒนาการใหม่ในแวดวงอวกาศของอิหร่าน
ทั้งนี้ เมื่อปี ค.ศ.2009 อิหร่านปล่อยดาวเทียมที่ผลิตเองดวงแรกชื่อ “โอมิด” (Omid) แปลว่า ความหวังขึ้นสู่อวกาศ เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีการปฏิวัติอิหร่าน
ในโอกาสนี้ เราขอต้อนรับท่านทูตซัยยิด เรซ่า โนบัคตี (H.E. Mr. Seyed Reza Nobakhti) ซึ่งมารับหน้าที่เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทยคนล่าสุด และให้เกียรติมาสนทนากับเรา ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน กรุงเทพฯ
“ประเทศอิหร่านโดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) ประสบความสำเร็จในการยิง “นูร์” (Nour-1) ดาวเทียมทหารดวงแรกขึ้นสู่ท้องฟ้าจากแท่นยิงขีปนาวุธคาสเซด (Qassed) กลางทะเลทรายมาร์คาซี (Markazi) บริเวณที่ราบสูงทางตอนกลางของอิหร่าน ด้วยยานนำส่งแบบ 2 ท่อนขึ้นสู่วงโคจรที่อยู่สูง 425 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก”
ท่านทูตซัยยิด โนบัคตี กล่าวว่า
“ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ และเป็นความก้าวหน้าอีกครั้งในด้านการพัฒนาทางอวกาศสำหรับเราชาวอิหร่าน”
“วันที่ปล่อยดาวเทียมทหารดวงแรกคือวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ตรงกับวันครบรอบ 41 ปีการก่อตั้งกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน หน่วยทหารทรงอิทธิพลที่สุดของอิหร่านโดยอยาตอลเลาะห์ โคมัยนี (Ayatollah Khomeini) อดีตผู้นำสูงสุด”
“สำหรับ Nour-1 เป็นดาวเทียมอเนกประสงค์ดวงแรกของอิหร่านที่ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในพื้นที่ต่างๆ”
“โดยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีการจัดกิจกรรมทางการทหารเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมในการลาดตระเวนและมีความสามารถในการสื่อสารอย่างปลอดภัย”
“นายพลโฮสซิน ซาลามี่ (Major General Hossein Salami) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด IRGC ได้กล่าวว่า วันนี้เราสามารถมองเห็นโลกจากอวกาศได้แล้ว โดยสดุดีผู้นำการปฏิวัติอิสลาม อยาตอลเลาะห์ โคมัยนี และชาวอิหร่านในความสำเร็จของการก่อตั้งของอิสลาม”
“การส่งดาวเทียมทหารเป็นการดำเนินตามแนวทาง “เสริมสร้างศักยภาพ” ที่ผู้นำโคมัยนีได้มอบหมายไว้ จากการพัฒนานี้ แสดงให้เห็นว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านมีความสามารถในการสืบสานต่อความสำเร็จนี้ได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ใดก็ตามที่เราต้องการจะเลือกสำรวจ”
“จากความสำเร็จในการส่งดาวเทียมทหาร ได้เปลี่ยนโฉมใหม่ของอิหร่านในความสามารถด้านการป้องกันประเทศ และด้วยพลังแห่งพระผู้เป็นเจ้า กองกำลังทหารกลายเป็นกองกำลังอวกาศในวันนี้”
โดยทำให้อิหร่านสามารถขยายขอบเขตงานด้านข่าวกรอง การเข้าควบคุม และการใช้ข่าวสารให้เป็นประโยชน์ในสงครามข่าวสาร หรือสงครามสารสนเทศ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สหรัฐมีมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน แต่ส่วนประกอบและชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งหมดของดาวเทียมและยานนำส่ง ผลิตขึ้นเองในประเทศโดยคนอิหร่าน
“เหตุการณ์นี้บ่งบอกถึงการคว่ำบาตรต่ออิหร่านของสหรัฐนั้น ไม่สามารถขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของอิหร่านแต่อย่างใด หากแต่เป็นตัวเร่งให้เราได้ขับเคลื่อนเทคโนโลยีชั้นนำ ทำให้เรากลายเป็นผู้มีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ทั้งในระดับภูมิภาคและเวทีระหว่างประเทศในอนาคตอันใกล้”
มาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรนาไวรัส
เมื่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) แพร่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากมาย สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวให้กับผู้คนในสังคม โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ วัน องค์การอนามัยโลกจึงได้ประกาศให้โรค COVID-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic)
ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกกว่า 3 ล้านรายแล้ว โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ตามด้วยสเปน อิตาลี และฝรั่งเศส
แต่มีหลายประเทศ เช่น อียิปต์ และแอลจีเรีย ได้ผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองในช่วงรอมฎอน ซึ่งเริ่มวันที่ 23 เมษายน – 23 พฤษภาคม ที่ชาวมุสลิมทั่วโลกถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกเป็นเวลา 30 วัน โดยปรับเวลาเปิดทำการของธุรกิจและห้างสรรพสินค้าเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของประชาชน
ในขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนประเทศต่างๆ ให้ระวังการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะไวรัสโควิด-19 จะยังอยู่กับโลกไปอีกนาน หลังหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ
สําหรับอิหร่านมีประชากรประมาณ 83 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 9 หมื่นราย โดยมีผู้เสียชีวิตใกล้ 6 พันราย (worldometers.info) อิหร่านจึงเป็นชาติที่มีสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 หนักที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง
อิหร่านกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการควบคุมการระบาดของโรค โดยพยายามรักษาผู้ป่วยทุกวิธีเท่าที่จะทำได้
ผู้นำของอิหร่านได้เพิ่มข้อจำกัดในการเดินทางและห้ามชุมนุมแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงมาตรการอยู่บ้าน รักษาระยะห่างทางสังคม ปิดสถานที่ต่างๆ เช่น สถานการศึกษา โรงงาน และมาตรการตั้งด่านตรวจตามที่ต่างๆ เป็นต้น
ในช่วงต้นเดือนมีนาคม อิหร่านได้เริ่มนำเอาพลาสม่าจากเลือดของผู้บริจาคที่เคยป่วยโรคโควิด-19 แต่หายแล้ว ฉีดเข้าเส้นเลือดของผู้ที่กำลังป่วยอยู่
วิธีการดังกล่าว สามารถเพิ่มโอกาสรักษาผู้ป่วยที่ต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินได้ อันเป็นวิธีการเดียวกับที่จีนได้คิดค้นขึ้น เมื่อเกิดโรคระบาดในจีนเป็นประเทศแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และประชาชนในหลายเมืองอยู่ในภาวะที่กำลังฟื้นตัว
อิหร่านยังได้เปลี่ยนให้ศาสนสถานคือมัสยิดและสุเหร่าเกือบทุกแห่งที่มีอยู่ในประเทศเป็นสถานที่ผลิตหน้ากากอนามัย และเครื่องป้องกันการติดโรคโควิด-19 จึงเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาการขาดอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสที่หลายๆ ประเทศประสบได้เป็นอย่างดี
“นอกจากนี้ เรายังมีมาตรการบางอย่างในการช่วยเหลือประชาชน เช่น การออกบัตรเครดิตสำหรับครอบครัวที่ยังขัดสนเพื่อให้มีเงินไว้พอใช้จ่าย โดยพิจารณาจากอาชีพการงาน ทั้งหมดในวงเงิน 20 ล้านดอลลาร์” ท่านทูตชี้แจง
กรณีประเทศอิหร่าน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เจอสถานการณ์เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในช่วงแรกๆ ที่เกิดเหตุการณ์ระบาดนอกเหนือจากประเทศจีน และยิ่งไปกว่านั้นอิหร่านยังประสบปัญหาการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์อันทันสมัย อันเนื่องมาจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา
ข่าวจาก Tasnim News Agency รายงานว่า เมื่อกลางเดือนเมษายน ประธานาธิบดีอิหร่าน ฮาซัน รูฮานี (Hassan Rouhani) ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพิ่มความพยายามในการพัฒนาวัคซีนสำหรับรักษาโรคระบาดโควิด-19
เพราะเพิ่งเดินทางจากอิหร่านมารับตำแหน่งประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ท่านทูตอิหร่านซัยยิด เรซ่า โนบัคตี เปิดเผยว่า
“มาถึงกรุงเทพฯ ก็ยังไม่ได้ออกไปสำรวจที่ไหน เพราะเดินทางมาในช่วงโควิด-19 พอดี จึงต้องกักตัวในบริเวณบ้านเป็นเวลา 14 วัน ไม่สามารถออกไปไหนได้ แม้ตอนนี้พ้นเขตกักตัวแล้ว แต่โควิด-19 ยังคงอยู่ แล้วมาเจออากาศที่นี่ซึ่งค่อนข้างร้อนมาก ต่างจากที่อิหร่าน”
“ดังนั้น สถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดของผมตอนนี้ ก็คือที่บ้านนั่นเอง!”