หลังจากมีกระแสข่าวลือระบุว่า คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนืออาจกำลังมีอาการป่วยหนักต้องนอนรักษาตัวโดยที่ไม่รู้สึกตัว บางกระแสข่าวถึงขั้นระบุว่า ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ อาจเสียชีวิตไปแล้ว

สื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างวิเคราะห์กันถึงผู้ที่มีโอกาสจะดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือแทนที่คิม จอง อึน หากข่าวลือที่ว่านั้นเป็นความจริง

ดูเหมือนคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดจะเป็นหญิงเหล็กที่มีชื่อว่า “คิม โย จอง” น้องสาวแท้ๆ ของผู้นำคิม ที่จะสามารถสืบทอดอำนาจภายในตระกูลคิมต่อไปได้

คิม โย จอง ในวัย 32 ปี เป็นลูกสาวของอดีตผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนืออย่าง “คิม จอง อิล”

คิม โย จอง เป็นน้องสาวที่สนิทสนมกับพี่ชายอย่างคิม จอง อึน ตั้งแต่เด็กๆ โดยทั้งคู่ไปเรียนต่อในสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงระหว่างปี 1996-2000 ด้วยกัน

คิม โย จอง กลับเกาหลีเหนือและเรียนต่อด้านการทหารที่มหาวิทยาลัยทหารคิม อิล ซุง และเรียนต่อด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยคิม อิล ซุง ด้วย

รายงานระบุว่า คิม โย จอง แต่งงานกับโช ซอง ลูกชายของโช รยอง แฮ เจ้าหน้าที่ทหารและนักการเมืองระดับสูงของเกาหลีเหนือ

และมีรายงานว่าทั้งคู่มีลูกด้วยกันอย่างน้อย 1 คน ซึ่งเกิดในเดือนพฤษภาคมปี 2015

ก่อนที่จะมีรายงานว่า คิม โย จอง จะกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ในขณะที่เธอเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเกาหลีใต้เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาด้วย

 

คิม โย จอง ปรากฏตัวในสื่อน้อยครั้งมาก จนกระทั่งในปี 2010 เมื่อเธอถูกถ่ายภาพในงานประชุมพรรคกรรมกรเกาหลีเหนือ ก่อนจะเป็นที่สนใจจากทั่วโลกในการร่วมพิธีศพของคิม จอง อิล ในปี 2011

ตำแหน่งทางการของคิม โย จอง ที่ปรากฏในสื่อเกาหลีเหนือคือ “เจ้าหน้าที่ระดับสูง” ใน “คณะกรรมาธิการกลางของพรรคกรรมกร”

ในปี 2014 คิม โย จอง ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการคนที่หนึ่ง ของกรมโฆษณาชวนเชื่อและปลุกปั่นของพรรคกรรมกร หน่วยงานที่ทำหน้าที่ปล่อยข่าวโฆษณาชวนเชื่อและดิสเครดิตชาติปฏิปักษ์ของเกาหลีเหนือ

คิม โย จอง ปรากฏตัวเคียงข้างพี่ชายในการเลือกตั้งในปีเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการมีบทบาทของเธอที่จะมีมากยิ่งขึ้นในเกาหลีเหนือ

คิม โย จอง ก้าวขึ้นสู่การเป็นสมาชิกโปลิตบูโรของพรรคกรรมกร ในปี 2017 ปรากฏตัวอีกครั้งในการเป็นตัวแทนเกาหลีเหนือร่วมชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาวที่เมืองพยองชาง ในปี 2018 ในฐานะสมาชิก “ตระกูลคิม” คนแรกที่ได้เหยียบแผ่นดินเกาหลีใต้ หลังสิ้นสุดสงครามเกาหลีเมื่อปี 1953

น้องสาวคิม จอง อึน ปรากฏตัวอีกครั้งในการหารือระดับผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และสหรัฐอเมริกาที่ประเทศสิงคโปร์ ในปี 2019 โดยมีภาพเธอปรากฏตัวเคียงข้างพี่ชายในพิธีลงนามระหว่างสองผู้นำ

ก่อนจะมีรายงานว่าเธอได้รับเลือกเข้าสู่สภาเกาหลีเหนือในฐานะตัวแทนเมือง “คิลลิมกิล” ในปีเดียวกัน

 

คิม โย จอง ถูกปลดจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการกลาง ในปี 2019 ผลจากการเจรจากับสหรัฐอเมริกาที่ล้มเหลวลงที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยเธอเพิ่งได้กลับมานั่งเป็นสมาชิกคณะผู้บริหารสูงสุดของประเทศแห่งพรรคแรงงานอีกครั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ปัจจุบัน คิม โย จอง ถูกมองว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างภาพลักษณ์ของคิม จอง อึน ในสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ และถูกมองว่ามีความเชื่อใจในตัวพี่ชายเป็นอย่างยิ่ง แม้คิม จอง อึน จะเป็นผู้สั่งประหารลุงแท้ๆ ของตนในข้อหากบฏก็ตาม

ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม คิม โย จอง ออกแถลงการณ์ฉบับแรกของเธอเอง โจมตีเกาหลีใต้ว่าเป็น “สุนัขหวาดกลัวที่กำลังเห่า” หลังจากเกาหลีใต้ประท้วงการซ้อมรบกระสุนจริงของเกาหลีเหนือ

ก่อนที่เวลาต่อมา คิม โย จอง จะออกแถลงการณ์ชื่นชม “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ส่งจดหมายแสดงความต้องการให้เกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกายังคงมีความสัมพันธ์แบบทวิภาคีกันต่อไป และยื่นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่เชื้อโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดด้วย

จากนี้คงต้องตามดูบทบาทของคิม โจ ยอง กันต่อไปว่าจะมีบทบาทอะไรในการบริหารประเทศที่โดดเดี่ยวที่สุดแห่งหนึ่งในโลกบ้าง

เช่นเดียวกับข่าวลือเรื่องสุขภาพของผู้นำคิมว่าจะมีคำชี้แจงใดๆ ออกมาจากสื่อเกาหลีเหนือหรือไม่