โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ/เหรียญหลังพุทธรูป 2488 หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ พระเกจิชื่อดังกระทุ่มแบน

หลวงพ่อรุ่ง ติสสโร

โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ [email protected]

เหรียญหลังพุทธรูป 2488

หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

พระเกจิชื่อดังกระทุ่มแบน

อีกเหรียญยอดนิยมของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลคือ “เหรียญหลวงพ่อรุ่ง”

“หลวงพ่อรุ่ง ติสสโร” หรือพระไพโรจน์วุฒาจารย์ วัดท่ากระบือ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิด ในวาระและโอกาสต่างๆ รวมทั้งร่วมพิธีพุทธาภิเษกครั้งสำคัญอยู่เสมอ

ส่วนใหญ่เป็นที่นิยมเสาะหากันแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ธงยันต์ หนังหน้าผากเสือ แหวนพิรอด ลูกสะกด ฯลฯ

ความนิยมและพุทธคุณมีอยู่หลายรุ่น โดยเฉพาะ “เหรียญหลวงพ่อรุ่ง รุ่นแรก ปี พ.ศ.2484” เนื้อนากและเหรียญทองคำ ทั้งสองเนื้อถือว่าสุดยอดหายาก

อีกเหรียญที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นแรกคือ เหรียญหลวงพ่อรุ่ง หลังพระพุทธรูป รุ่น 2 ปี จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2488

เหรียญรุ่นนี้มอบหมายให้คณะกรรมการจัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นที่ 2 มีด้วยกัน 2 เนื้อ คือ เนื้อเงินและเนื้อทองแดง มีชื่อเรียกจากการปั๊มว่า บล็อกไม่มีกลาก และบล็อกมีกลาก

ลักษณะเหรียญคล้ายหยดน้ำ มีหูเชื่อม ด้านหน้าเหรียญปั๊มเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่งครึ่งองค์หันหน้าตรง ด้านล่างใต้รูปเหมือนมีแถบโบ มีข้อความว่า “พระครูไพโรจน์ มันตาคม”

ด้านหลังไม่มีขอบ ตรงกลางเหรียญปั้มเป็นรูปพระพุทธรูปประทับบนฐานบัวสองชั้น ด้านล่างมีข้อความว่า “หลวงพ่อในโบสถ์”

ปัจจุบันเป็นที่นิยมและเป็นพระยอดนิยม

เหรียญหลวงพ่อรุ่ง รุ่น 2

 

สําหรับหลวงพ่อรุ่ง ถือกำเนิดในสกุลพ่วงประพันธ์ เมื่อวันเสาร์ แรม 8 ค่ำ เดือน 9 ปีระกา พ.ศ.2416 ที่ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

ในวัยเยาว์เข้าศึกษาความรู้เบื้องต้น ร่ำเรียนหนังสือไทย ขอม ตลอดจนภาษาบาลีและมูลกัจจายน์กับพระอุปัชฌาย์ทับ เจ้าอาวาสวัดน้อยนพคุณ กรุงเทพฯ

ต่อมาเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2437 ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเมีย มีพระอุปัชฌาย์ทับเป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการบัว วัดใหม่ทองเสน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เคลือบเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายา ติสสโร

หลังอุปสมบทเพียง 2 วัน ย้ายไปอยู่ที่วัดท่ากระบือ ซึ่งในขณะนั้นมีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ มีพระภิกษุร่วม เป็นเจ้าสำนัก

หลังจากนั้นศึกษาทางพุทธาคมกับพระอาจารย์อีกหลายสำนัก และเดินธุดงค์ไปภาคเหนือ บางครั้งเลยเข้าไปในเขตพม่า

ใฝ่ใจศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระจากพระเกจิอาจารย์หลายรูป เช่น พระอาจารย์เกิด วัดกำแพง จ.สมุทรสาคร, พระอาจารย์หลำ วัดอ่างทอง จ.สมุทรสาคร เป็นต้น

กล่าวกันว่า เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเชย วัดท่าควาย จ.สิงห์บุรี มีการแลกเปลี่ยนวิชาความรู้ซึ่งกันและกันด้วย

ต่อมาเมื่อพระภิกษุร่วมสึกออกไป หลวงพ่อรุ่งจึงได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักสืบแทน

 

หลังจากนั้นต่อมา สภาพสำนักสงฆ์ ได้รับการยกฐานะกลายเป็นวัดท่ากระบือขึ้นมา ท่านทุ่มเทสติปัญญา กำลังกาย กำลังใจ สร้างวัดท่ากระบือให้เจริญรุ่งเรืองเป็นวัดใหญ่โตวัดหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร

กล่าวถึงประวัติวัดท่ากระบือ แต่เดิมเป็นเพียงแค่สำนักสงฆ์ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2430 ติดกับแม่น้ำท่าจีน ต่อมาจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นวัด เดิมชื่อว่า “วัดท่าควาย” เนื่องจากเคยเป็นท่าน้ำสำหรับวัวควายลงกินน้ำและเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดท่ากระบือ จวบจนปัจจุบัน

ตามปกติหลวงพ่อรุ่งเป็นผู้สนใจในการแสวงหาความรู้อยู่เสมอ เจริญสมถวิปัสสนาในสำนักวัดสุนทรประสิทธิ์ จนมีความรู้แตกฉานในการปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญให้ท่านมีอำนาจจิตเป็นอย่างสูง สามารถสร้างเครื่องรางของขลังเป็นที่เลื่องลือ

ด้านศีลาจารวัตร เป็นพระที่มีคุณธรรมอันประเสริฐ เคร่งครัดพระธรรมวินัย เปี่ยมไปด้วยเมตตา มีความมักน้อย และถ่อมตน ถือเอกาฉันจังหันวันละมื้อตลอดชีวิต

พัฒนาด้านการศึกษาสำหรับพระภิกษุ-สามเณรและเด็กนักเรียนในชุมชนละแวกวัด โดยสร้างหอเรียนพระปริยัติธรรม รวมถึงโรงเรียนประชาบาลขึ้น

ด้านการเผยแผ่ธรรม แสดงพระธรรมเทศนาอบรมสั่งสอนพุทธบริษัทให้ปฏิบัติดี จัดส่งพระภิกษุไปแสดงธรรมผู้ถือศีลปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ ส่งเสริมการศึกษาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิภาวนา

 

ลําดับงานปกครอง พ.ศ.2442 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ

พ.ศ.2474 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นประทวน

พ.ศ.2483 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2489 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูไพโรจน์มันตาคม

พ.ศ.2494 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระไพโรจนวุฒาจารย์

มรณภาพเมื่อวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2500 สิริอายุ 85 ปี พรรษา 64

พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2501

วัตถุมงคลเล่าขานกันปากต่อปากว่าครบถ้วนทั้งทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย