เมื่อขบวนการค้ายานรกไม่หวั่นโควิด เมิน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ไม่กลัวเคอร์ฟิว ปส.สกัดซื้อ-ขายใน “สังคมออนไลน์”

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานด่านแรกที่เฝ้าสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดที่แฝงมากับระบบขนส่งทุกประเภท ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางไปรษณีย์

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน” หรือ “บิ๊กป๋อ” ผบช.ปส. เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในภาวะวิกฤตที่สังคมคุมเข้มเฝ้าระวังร่วมกัน

แต่ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ยาเสพติดยังมีความพยายามลักลอบขนย้ายลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ชายแดนภาคตะวันตก

ขณะที่ในชุมชนเมืองยังพบการลักลอบมั่วสุมเสพกันอย่างมึนเมาในหลายพื้นที่

เจ้าหน้าที่สามารถนำสืบจับกุมและยึดยาเสพติดได้จำนวนมากในแต่ละครั้ง ทั้งยาบ้า ไอซ์ รวมทั้งเฮโรอีน ฝิ่น กัญชาและกระท่อมอีกจำนวนมาก

พล.ต.ท.ชินภัทรเกริ่นถึงแนวทางการสกัดกั้นยาเสพติดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันว่า บช.ปส.ทำงานเชิงรุก ปลุกความโปร่งใส มุ่งมั่น จริงใจ แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดชายแดนทางน้ำ ชายฝั่งทะเล และเกาะแก่ง โดยให้หน่วยงานในพื้นที่ประสานการปฏิบัติกับ บก.รน. บช.ก. สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ต่อเนื่องจากชายแดนเข้าสู่เส้นทางตอนใน ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่แหล่งแพร่ระบาดตอนในของประเทศ โดยยังคงตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ/จุดสกัดยาเสพติด ในเส้นทางยุทธศาสตร์ทั้งรูปแบบแฝงมากับระบบขนส่งทุกประเภท

“สถานการณ์แบบนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ใช้การทำงานที่บ้าน รูปแบบการลักลอบส่งยาเสพติดจึงมาในรูปแบบพัสดุเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกับกลุ่มรักสนุกที่ยังคงลักลอบมั่วสุมเสพยาเสพติดและสิ่งมึนเมาที่ยังคงมีในหลายพื้นที่ สุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ เป็นเหตุให้จำนวนประชาชนที่ติดเชื้อเพิ่มทะยานมากขึ้นจนยากจะควบคุม ฉะนั้น หน้าที่ของ บช.ปส.จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เจ้าของสถานประกอบการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะเครือข่ายสังคมออนไลน์ แจ้งหน่วยงานราชการทราบเมื่อผู้มาใช้บริการมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด”

ผบช.ปส.กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ชินภัทรยังมีเป้าหมายรับมือโลกยาเสพติดในโซเชียลออนไลน์ ว่า ปัจจุบันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้ายาเสพติด โดยนำเทคโนโลยีการติดต่อซื้อ-ขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ทั้งทางทวิตเตอร์ ไลน์ และเฟซบุ๊ก ซึ่งสามารถสร้างพื้นที่ติดต่อกันส่วนตัวได้ ว่าพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพทั้งความรู้ ความชำนาญด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการสืบสวน พร้อมจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์พิเศษหรือระบบติดตามและเข้าถึงข้อมูลของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด เฝ้าระวังและติดตามผู้ค้ายาเสพติด เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบติดต่อ ซื้อ-ขายยาเสพติดผ่านสื่อสังคมออนไลน์

ด้านเครื่องมือ พล.ต.ท.ชินภัทรได้ขยายให้ฟังว่า ในปีงบประมาณ 2564 บช.ปส.จัดทำ “โครงการจัดหาเครื่องตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะ” เพื่อใช้ตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลบนเครือข่ายสังคมออนไลน์

โดยระบบดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาในการติดตามและสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดหรือผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดบนสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และตรวจสอบ บันทึกฐานข้อมูลประวัติกลุ่มคน บุคคลผู้ต้องสงสัย เพื่อนำไปวิเคราะห์และเรียนรู้พฤติการณ์เป้าหมาย การลักลอบซื้อ-ขายยาเสพติดผ่านระบบเครือข่ายโซเชียลเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยม เพราะเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดรายใหม่ได้ง่าย ยากแก่การเฝ้าระวังและหาพยานหลักฐาน ประกอบกับการค้ายาเสพติดในระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ไม่มีกฎหมายเฉพาะในการลงโทษ

ซึ่งการเพิ่มโทษเพียงอย่างเดียวก็มิได้มีผลในการป้องปราม ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ควบคู่กัน

ทั้งนี้ ผบช.ปส.ยกบทสันนิษฐานและวิธีการล่อซื้อ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการขาดพยานหลักฐานว่า บช.ปส.กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและหลักยุทธวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดขณะปฏิบัติหน้าที่

พร้อมทั้งให้ผู้บังคับบัญชากวดขัน เข้มงวด สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ปราบปรามและทำลายเครือข่ายการซื้อ-ขายยาเสพติดโดยเน้นการสืบสวนทางการเงิน บูรณาการกฎหมายที่มีอยู่และเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบทรัพย์สินมาดำเนินการ เช่น พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร ศึกษา วิเคราะห์แนวโน้มการใช้เงินตระกูลใหม่ๆ ซึ่งอาจเป็นช่องทางสำหรับการฟอกเงิน

ส่วนเรื่องมาตรการการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการลักลอบซื้อ-ขายผ่านระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ พล.ต.ท.ชินภัทรกล่าวว่า ทาง บช.ปส.กำลังศึกษา วิเคราะห์แนวโน้มการใช้เงินตระกูลใหม่ๆ ซึ่งอาจเป็นช่องทางสำหรับการฟอกเงินยาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมาย อาทิ บิตคอยน์, หรือสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ

พร้อมหามาตรการป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติด รวมทั้งบุคคลที่ต้องโทษและพ้นโทษมาแล้ว ซึ่งน่าจะมีการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการซื้อ-ขายยาเสพติด บูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบ ติดตาม ควบคุมการใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ บก.ปอท. บช.ก. สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์

ทั้งหมดเพื่อให้ทันขบวนการค้ายาเสพติดที่ปรับตัวให้เข้าถึงลูกค้าและหนีการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐ